ยายเด็กแฝดร่ำไห้ วอนพ่อเด็กรักษาสัญญา หลังกีดกันไม่ให้พบหน้าหลาน

ยายเด็กแฝดร่ำไห้ วอนพ่อเด็กรักษาสัญญา หลังกีดกันไม่ให้พบหน้าหลาน

จากกรณีที่เกิดเหตุมีการเผยแพร่ภาพทางสื่อโซเชี่ยลว่า พ่อกับยายและป้าพากันยื้อแย่งเด็กแฝด ที่คลอดออกมาแล้ว แม่ของเด็กแฝดได้เสียชีวิต ยายและป้าต้องเลี้ยงดูเด็กทั้ง 2 คน มาตั้งแต่เกิด จนกระทั่งอายุได้ 7 ขวบ พ่อเด็กพร้อมด้วยทนายความมานำตัวไปเลี้ยงดูที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ทำให้ยายกับป้าและญาติพี่น้องพากันอาลัยรักและคิดถึงหลานทั้ง 2 คน ก่อนเดินทางไปเยี่ยมและได้ตกลงกันว่าสามารถมาเยี่ยมเด็กทั้ง 2 คนได้ตลอด ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 29 เม.ย. 60 นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี ยายของเด็กแฝด เปิดเผยว่า ตนเสียใจมากที่เดินทางไปที่บ้านพ่อเด็กที่ จ.นนทบุรี เพื่อที่จะไปเยี่ยมหลานแล้วไม่เห็นหน้า บ้านปิดประตูเงียบทั้งที่ตามบันทึกประจำวันของ สภ.อุทุมพรพิมัย ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "ซึ่งหากฝ่ายนางเสาร์และญาติพี่น้องประสงค์จะไปเลี้ยงดูหรือดูความเป็นอยู่ของหลานทั้ง 2 คน นายสุรชัยก็ยินดีให้ไปเยี่ยม" โดยได้มีการลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน โดยมีพ.ต.ต.ธงชัย ตอพิมาย พนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นผู้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

"แต่ว่าขณะนี้ฉันไม่ทราบว่า พ่อของเด็กนำหลานทั้ง 2 คนไปไว้ที่ใด และไม่รู้หลานอยู่ดีมีความสุขหรือไม่ การที่ฉันไปเยี่ยมหลาน เพราะทำตามบันทึกประจำวันของตำรวจ ที่พ่อของหลานได้ให้ความยินยอมไว้ เพราะว่าการที่ไปเยี่ยมหลานแล้วไม่พบ เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าพยายามมีการโทรศัพท์ติดต่อกับพ่อของเด็กแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อได้ อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดนนทบุรี ก็พาไปตรวจสอบที่บ้าน พร้อมด้วยสื่อมวลชนก็ไม่พบหลานสาวฝาแฝดแต่อย่างใด" นางเสาร์ กล่าว


นางเสาร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อาการป่วยของตนยังทรงตัว เนื่องจากว่า ตรอมใจมากที่ไม่เห็นหน้าหลานสาว ญาติพี่น้องของตน ที่จังหวัดชลบุรีที่ตนไปพักอยู่ได้ซื้อยามาให้กิน แต่ยังคงมีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง ซึ่งช่วงที่ตนไปจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพ่อของเด็กและมีการนัดหมายที่จะพบกันกับพ่อของเด็ก ตามที่เจ้าหน้าที่นนทบุรีได้เป็นตัวกลางนัด เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ซึ่งมีการสับเปลี่ยนจากช่วงเช้าเป็นช่วงบ่ายนั้น เนื่องจากว่าตนมีอาการป่วยอย่างหนัก ทำให้ไม่สามารถไปตามกำหนดได้ และญาติพี่น้องได้พาตนเดินทางมาพักที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของลูกสาว ซึ่งขณะนี้ตนไม่ต้องการมีปัญหาใดๆ กับพ่อเด็กตนต้องการเพียงเจอหน้าหลาน เพื่อให้รู้ว่าอยู่ดีมีความสุขอีกครั้ง ทั้งตนยังได้นำเสื้อผ้ามาให้หลานสาวด้วย เพราะวันที่พ่อของเด็กพาตัวมา นำเสื้อผ้ามาเพียงชุดเดียวเท่านั้น

นางเสาร์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า หลานสาวของตน มีความสนิทสนมกับหญิงคนสนิทของพ่อของเด็ก ตนไม่เชื่อว่าเหตุการณ์เป็นจริงตามข่าว เนื่องจากหลานทั้ง 2 คนไม่คุ้นเคยกับใครง่ายๆ โดยเฉพาะกับพ่อของเด็กที่ปีหนึ่งมาเยี่ยมเพียง 1-2 วัน เท่านั้น ตนจะเชื่อได้ว่าหลานสาวทั้ง 2 คน อยู่ดีหรือไม่และไม่ตนไม่อยากมีปัญหา ขอแค่ได้เห็นกับตาตนเองเท่านั้น ตนจึงขอวอนให้พ่อของเด็ก ได้ทำตามบันทึกข้อตกลงตามบันทึกประจำวัน ของตำรวจสถานีตำรวจอุทุมพรพิสัย ด้วย

ด้านนางปุณณภัทร พวงเท้า ซึ่งเป็นป้าของเด็กแฝด กล่าวว่า ขณะนี้ตนมีความเป็นห่วงหลานทั้งสองเป็นอย่างมาก เนื่องจากยังไม่คุ้นเคยกับพ่อ เพราะตนรู้นิสัยของหลานทั้งสองของตนดี และไม่อยากให้ผู้ใหญ่เอาแต่ใจตัวเองใช้แต่กฎหมายโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของหลานตน และทางตนพร้อมที่จะเจรจาเพื่อหากับพ่อของเด็กเพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม พ่อของเด็กควรทำตามบันทึกข้อตกลงตามที่ทำไว้ ที่สถานีตำรวจอุทุมพรพิสัย ที่อนุญาตให้ตนและยายไปเยี่ยมหลานสาวทั้งสองของตนแล้ว


ยายเด็กแฝดร่ำไห้ วอนพ่อเด็กรักษาสัญญา หลังกีดกันไม่ให้พบหน้าหลาน


ยายเด็กแฝดร่ำไห้ วอนพ่อเด็กรักษาสัญญา หลังกีดกันไม่ให้พบหน้าหลาน


ยายเด็กแฝดร่ำไห้ วอนพ่อเด็กรักษาสัญญา หลังกีดกันไม่ให้พบหน้าหลาน


ยายเด็กแฝดร่ำไห้ วอนพ่อเด็กรักษาสัญญา หลังกีดกันไม่ให้พบหน้าหลาน


Cr.khaosod

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์