ปูพรมตรวจ ยึดอาก้า-ระเบิด แนวร่วมโจร

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 22 ส.ค. พ.ต.อ.วิรัตน์ อ่อนแสง ผกก.สภ.อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี พ.ต.ท.นรัตน์ เทพเฉลิม รอง ผกก.สส. พ.ท.ประทาน ตลับทอง ผบ.ฉก.25 พร้อมกำลังตำรวจ-ทหารรวม 300 นาย เข้าปิดล้อมบริเวณพื้นที่ต้องสงสัยจำนวน 18 จุด ที่บ้านปะเสปูเต๊ะ หมู่ 2 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง หลังสืบทราบว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์แอบเข้ามามั่วสุมฝึกฝนอาวุธและยุทธวิธีการรบแบบกองโจร


จากการตรวจค้นในบ้านเลขที่ 29 ม.2 ของนายเม็ง มิง อายุ 50 ปี
 
พบปืน .38 และปืนลูกซองยาวแบบ 5 นัด รวม 3 กระบอก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ ตรวจค้นบริเวณป่าหลังบ้าน พบว่ามีการขุดหลุมฝังสิ่งของบางอย่างไว้ใต้พื้นดินจำนวน 2 หลุม สภาพเพิ่งฝังกลบใหม่ๆ โดยหลุมแรกพบถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ฝัง อยู่ก้นหลุมลึกประมาณ 80 ซม. ภายในมีถังเคมีดับเพลิง 1 ใบ เศษเหล็กเส้นตัดสั้นยาวท่อนละ 1 นิ้ว นับร้อยชิ้นบรรจุในขวดน้ำอัดลมขนาด 2 ลิตร และอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตระเบิดแสวงเครื่องอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนหลุมที่ 2 อยู่ห่างจากหลุมแรกไป 50 เมตร พบถังน้ำมัน 200 ลิตร ฝังอยู่ ในหลุมดังกล่าว ภายในมีอาวุธปืนอาก้า 1 กระบอก ห่อด้วยผ้าพลาสติกพร้อมกระสุนอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังพบร่องรอยการตั้งค่ายพักแรมหุงหาอาหารและฝึกการใช้อาวุธปืนด้วย


ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบด้วยเครื่องตรวจหาคราบเขม่าดินระเบิด พบว่าตามร่างกายของนายมันและนายลี มิง ลูกชายของนายเม็ง เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุมีคราบเขม่าดินระเบิดติดอยู่เป็นจำนวนมาก จึงคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนพ่อลูกไปสอบสวนที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เพื่อขยายผลต่อไป ทั้งนี้ จากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าสถานที่เกิดเหตุมีนายมาหามะรอยาลี บาดา แกนนำคนสำคัญของโจรใต้กลุ่มอาร์เคเค และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ เลขที่ ฉฉ.90/2548 สภ.อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นผู้ควบคุมการฝึกแนวร่วมเพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ส่วนเหตุรุนแรงรายวันยังมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อเวลา 00.30 น. คืนวันที่ 22 ส.ค.
 
มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้ปืนอาก้ากราดยิงเข้าใส่บ้านเช่าเลขที่ 8/11 หมู่ 2 บ้านตือระ ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ของนายมะอีรา สะมะแอ เช่าอยู่รวมกันกับเพื่อนอีก 9 คน โชคดีที่กระสุนไม่ถูกใคร หลังเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.อ. สุไหงโก-ลก รุดมาตรวจสอบเก็บปลอกกระสุนปืนอาก้าได้ 15 ปลอก คาดเป็นการสร้างสถานการณ์ข่มขู่รายวัน

เวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.ท.เฉลิมชัย บุญศิริ สารวัตรเวร สภ.อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บบนถนนสายตาโล๊ะมาเนาะ-สุไหงบาตู หมู่ 5 บ้านสุไหงบาตู ต.ลูโบะสาวอ อ.บาเจาะ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบเพียงกองเลือดและรถ จยย.ฮอนด้าไม่ติดป้ายทะเบียน ล้มตะแคงอยู่ข้างทาง โดยมีลองกองที่อยู่ ในตะกร้าหน้ารถตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.บาเจาะ ทราบชื่อนายตอเละ ซอซา อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/1 หมู่ 1 ต.สุไหงบาตู อ.บาเจาะ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด บริเวณกลางหลัง 2 นัด และบั้นเอว 2 นัด รวม 4 นัดอาการสาหัส ต้องส่งไปรักษาที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายตอเละได้นำลองกองใส่ตะกร้ารถ จยย.ขี่ออกจากบ้านเพื่อจะนำไปขายที่ตลาดรับซื้อลองกองบ้านสุไหงบาตู หมู่ 5 ต.ลูโบะสาวอ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย.ไล่ตามประกบยิงจนบาดเจ็บดังกล่าว คาดเป็นการสร้างสถานการณ์ ก่อความไม่สงบ


รายต่อมาเวลา 07.30 น. วันเดียวกัน
 
พ.ต.ท.ธวัชชัย เอียดเจริญ สารวัตรเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุลอบวางเพลิงเผารถบรรทุกไม้ยางพาราริมถนนสายรือเสาะ-ศรีสาคร บริเวณบ้านยาแลเบาะ หมู่ 5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ ผกก. นำกำลังและรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลรือเสาะรุดไปตรวจสอบ พบเพลิงกำลังลุกไหม้เผารถกระบะดัทสัน สีเขียว ทะเบียน ก-2106 นราธิวาส บรรทุกไม้ยางพาราเกือบเต็มกระบะหลัง ใช้เวลานาน 30 นาที เพลิงจึงสงบ เผารถวอดหมดทั้งคัน สอบสวนทราบว่ารถคันดังกล่าวจอดเสียมาตั้งแต่คืนวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา คนขับจึงจอดรถทิ้งไว้และเดินทางไปตามช่างมาซ่อม

ช่วงเกิดเหตุมีพยานเห็นคนร้าย 2 คน ใช้น้ำมันราดบนกองไม้ยางพาราท้ายรถแล้วจุดไฟเผาก่อนจะหลบหนีไป
ทิ้งห่างเพียงไม่กี่ชั่วโมงกลุ่มโจรใต้ก็ลงมือกราดยิงถล่มครู ตชด.เจ็บปางตาย โดยเมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.ท. ธวัชชัย เอียดเจริญ สารวัตรเวร สภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุซุ่มยิงถล่ม ตชด.ที่บ้านตะบิงรูโต๊ะ หมู่ 8 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ปรากฏว่ากลุ่มคนร้ายได้ตัดต้นไม้โปรยตะปูเรือใบขวางทางเข้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ทำให้เสียเวลาในการเคลียร์เส้นทางนานถึง 30 นาที จึงผ่านไปได้ พบรถเก๋งไดฮัทสุ มิร่า ไม่ติดป้ายทะเบียน จอดอยู่ข้างทาง สภาพมีรอยถูกยิงจนพรุนไปทั้งคัน รอบๆตัวรถพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่รวม 17 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว ทราบชื่อ จ.ส.ต.รุสลาม ดือราแม

อายุ 35 ปี สังกัด กก.ตชด.ที่ 44 เป็นครู ตชด.ที่โรงเรียนการท่าอากาศยาน ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ถูกกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่มือซ้ายและหัวเข่าซ้ายรวม 2 แห่ง นำส่ง รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า หลังจากสอนหนังสือเสร็จก็ขับรถไปซื้อของที่ตลาดรือเสาะ กำลังจะกลับบ้านผ่านจุดเกิดเหตุถูกกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบจำนวน ยิงถล่มด้วยปืนเอ็ม 16 จนบาดเจ็บดังกล่าว


ส่วนที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 22 ส.ค.
 
พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.อ.บันนังสตา รับแจ้งมีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถของชาวบ้าน บนถนนทางสายเขาเจ็ดพับ-บ้านสายตาเอียด หมู่ 5 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สภาพใหม่เอี่ยมยังไม่มีป้ายทะเบียน ถูกยิงพรุนรอบทั้งคันมีคราบเลือดเปรอะไปทั่วรถ ส่วนผู้บาดเจ็บมี 7 ราย ทราบชื่อนายอาหะมะ มาหนิ อายุ 25 ปี นายซาการียา มาหนิ อายุ 31 ปี นางลีเยาะ ลาเตะ อายุ 46 ปี นายสือมัน มาหนิ อายุ 28 ปี นายบือราเฮง สาและ อายุ 45 ปี นางแอเสาะ ฮะซา อายุ 46 ปี และ ด.ญ.มาซีเตาะ สาแล อายุ 8 ขวบ ถูกนำส่ง รพ.บันนังสตา แต่นายซาการียาและนายบือราเฮงถูกกระสุนเต็มลำคอและหัวไหล่ อาการสาหัสแพทย์ต้องส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศูนย์ยะลา ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้า 20 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 

สอบสวนทราบว่า กลุ่มผู้บาดเจ็บทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน

ก่อนเกิดเหตุได้โดยสารรถกระบะคันดังกล่าวออกจากหมู่บ้านเพื่อเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีนายอาหะมะ มาหนิ เป็นคนขับ ขณะมาถึงที่เกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยว มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่บนเนินเขาข้างทางใช้ปืนอาก้าถล่มยิงเข้าใส่อย่างดุเดือดจนบาดเจ็บยกคันดังกล่าว


วันเดียวกัน
 
ที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา (ศปก.ตร.สน.ยะลา) ได้แถลงผลการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาตัดสินคดีแล้วรวม 3 คดี คือ 1. คดีฆ่าตัดคอ ด.ต.สัมพันธ์ อ้นยะลา ตำรวจ สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 50 ศาลจังหวัดปัตตานีตัดสินลงโทษจำคุกนายมะกอรี ดาโอ๊ะ อายุ 27 ปี นายมูฮาหมัดอันวัน หะยีเต๊ะ อายุ 23 ปี นายหามะ สือแม อายุ 34 ปี นายอับดุลอาชิ สาและ อายุ 24 ปี นายยูซุฟ มะมิง อายุ 25 ปี และนายนูรดิน อาแว อายุ 28 ปี คนละ 12 ปี ส่วนนายอัรฟาน บินอาแว อายุ 22 ปี นายซูไฮมี ดาเล็ง อายุ 20 ปี และนายอับดุลเลาะ กาโบะ อายุ 20 ปี ถูกตัดสินจำคุกคนละ 8 ปี ในคดีเดียวกัน
 

ส่วนคดีที่ 2 กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ธารโต จ.ยะลา

บาดเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 47 หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จับกุมนายมะรอยี หรือยี เจ๊ะมะ อายุ 34 ปี ศาลจังหวัดยะลาตัดสินลงโทษจำคุก 20 ปี และคดีที่ 3 ศาลจังหวัดยะลาตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตนายอาลาวี เจ๊ะแซ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนถล่มยิงนายอิสมาแอ สือแต เสียชีวิตพร้อมเพื่อนรวม 3 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 47


ที่โรงเรียนบำรุงอิสลามวิทยา อ.เมืองปัตตานี เมื่อเวลา 10.00 น.

 วันเดียวกัน พ.ต.อ.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เดินทางไปชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับภัยยาเสพติดแก่นักเรียนจำนวนกว่า 1,000 คน โดยเฉพาะยาเสพติดที่ระบาดหนักในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือยาสูตร “สี่คูณร้อย” ที่นำเอาใบกระท่อม มาต้มสกัดเป็นน้ำผสมกับยาแก้ไอและยากันยุง ซึ่งกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามใช้ยาเสพติดสูตรดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการชักจูงให้เยาวชนเข้าร่วมขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้มอบอุปกรณ์ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดให้แก่โรงเรียนด้วย


ด้าน พ.อ.พีรพล วิริยากุล ผบ.ฉก.3 สั่งการให้ พ.ท.เฉลิมชัย สุทธินวล ผบ.ฉก.38 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเดินทางไปรับเครื่องบริโภคและอาหารแห้งต่างๆจำนวนกว่า 1,000 ชุด ที่ส่งมาจากกรุงเทพฯ ถึงสถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อนำไปจัดสรรแจกจ่ายให้กับตัวแทนกลุ่มผู้นำสตรี ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส ไว้ใช้บริโภคในช่วงเดือนรอมฎอน หรือเดือนถือศีลอดของผู้นับถือศาสนาอิสลาม ที่จะมีขึ้นประมาณกลางเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้


สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 22 ส.ค.

ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีของไทย และภริยา พร้อมคณะ เดินทางถึงรัฐปีนังของประเทศมาเลเซีย เพื่อร่วมหารืออย่างเป็นทางการกับนายอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย โดย พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับฝูงชนขณะเข้าไปไหว้พระที่วัดพุทธอายุนับร้อยๆปีในรัฐปีนัง ว่า ไทยจะทำงานร่วมกับมาเลเซียเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและความร่วมมือยุติความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ของไทยด้วย


ด้านสำนักข่าวเอพี รายงานคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย หลังเสร็จสิ้นการหารือกับนายกรัฐมนตรีของไทยว่า ทางมาเลเซียจะช่วยจัดตั้งธนาคารอิสลามขึ้นในภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างไทยกับมาเลเซีย

เบื้องต้นจะจัดตั้งสำนักงานสาขาในภาคใต้ก่อน หากได้ผลอาจจะขยายเข้าไปเปิดสาขาในกรุงเทพฯต่อไป ภายในสิ้นปี 50 สะพานแห่งใหม่ที่เชื่อมระหว่างบูกิตบุหงาของรัฐกลันตันกับบูเกตาในฝั่งไทยจะแล้วเสร็จ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้ดียิ่งขึ้น ส่วนความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ของไทย นายกรัฐมนตรีมาเลเซียระบุเพียงสั้นๆว่าต้องแล้วแต่รัฐบาลไทยว่าจะให้เราช่วยในจุดไหนบ้าง ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทยกลับปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าวก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทยทันที


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์