เตรียมขาเทียม ใส่ให้เด็กน้อย

เหตุการณ์สลดใจ

เมื่อนายสุทิน คันถม อายุ 32 ปีบ้านเดิมอยู่เลขที่ 118/2 หมู่ 3 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ขี่รถจักรยานยนต์พานางบุญมา บุญเกื้อ อายุ 30 ปี ภรรยา อุ้มลูกชายชื่อ ด.ช.รณกร บุญเกื้อ หรือน้องเพชร อายุ 1 เดือน ซ้อนท้ายกลับจากทำบุญใส่บาตร ขณะมาถึงหน้าโรงเรียนดรุณาราชบุรี ถนนคฑาธร เขต เทศบาลเมืองราชบุรี ชายผ้าขนหนูที่ห่อร่าง ด.ช.รณกรหล่นเข้าไปพันกับโซ่รถ ทำให้กระชากร่างเด็กหลุดจากมือแม่เข้าไปในล้อหลัง และถูกโซ่ตัดขาขวาขาด อาการสาหัส ต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เหตุเกิดตอนเช้าวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ส.ค.

นางวิไลพร สวัสดิ์พาณิชย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี ไปเยี่ยมอาการของน้องเพชร ที่ห้องไอซียู ตึกเจ้าฟ้ามหาจักรี โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี พร้อมกับมอบเงินจำนวนหนึ่งและของใช้สำหรับเด็ก ให้นายสุทิน คันถม และนางบุญมา บุญเกื้อ พ่อแม่ของเด็ก หลังจากนั้น นางวิไลพรเปิดเผยว่า จะประสานไปยังผู้ประกอบการโรงงานที่นายสุทินและนางบุญมาทำงานอยู่ ให้ช่วยเหลือ แม้ว่าการทำงานจะเป็นค่าแรงรับเหมาก็ตาม

ส่วนอาการของ ด.ช.รณกรนั้น นายแพทย์นราวุธ กล่ำสมบัติ แพทย์เจ้าของไข้ เปิดเผยว่า

นำเด็กเข้าห้องผ่าตัด อาการทั่วไปดีขึ้นมาก ไม่มีโรคแทรกซ้อนแต่จะต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่ให้แผลติดเชื้อ โดยให้นอนอยู่ในตู้อบ และใช้เครื่องให้ออกซิเจน

ขณะที่นายแพทย์ธนินท์ พันธุเตชะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี กล่าวว่า

อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เหลือการตกแต่งบาดแผล หากแผลไม่ติดเชื้อ จะปลูกถ่ายหนังและตบแต่งบาดแผลเพื่อให้พร้อมรับกับขาเทียมในอนาคต และเมื่อรักษาจนแผลหายแล้วจึงจะให้กลับบ้าน

นายแพทย์ธนินท์กล่าวต่อไปว่า
 
จากนั้นต้องรอให้เด็กอายุประมาณ 8-9 เดือน หัดคลานก่อนจะมาใส่ขาเทียมชั่วคราว เมื่อเริ่มหัดเดินจึงจะใส่ขาเทียมถาวรให้สำหรับค่ารักษาพยาบาลนั้น โรงพยาบาลจะไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ รวมทั้งเรื่องขาเทียม เพราะมีศูนย์ขาเทียมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบประวัติเด็กว่ามีสัญชาติไทยแท้หรือไม่ เพื่อขึ้นทะเบียนรักษาฟรีต่อไป
 

ด้านนายสุทิน คันถม พ่อของทารกผู้น่าสงสารกล่าวว่า

ครอบครัวตนเช่าบ้านเก่าๆ อยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เลขที่ 54/2 บ้านท่าเสา ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี เป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มีบัตรประจำตัวบุคคลบนพื้นที่สูง อยู่ที่ อ.สวนผึ้ง ส่วนนางบุญมาภรรยาเป็นกะเหรี่ยงเช่นกัน แต่เกิดในไทย มีลูกด้วยกัน 2 คน ด.ช.รณกร เป็นลูกคนเล็ก ภรรยาจะคอยดูแลลูกทั้ง 2 คน

นายสุทินเล่าต่อไปว่า

ทำงานรับจ้างฆ่าและชำแหละหมูที่โรงงานแห่งหนึ่งในเขต อ.ปากท่อ ห่างจากบ้านพักไป 28 กิโลเมตร ได้ค่าจ้างตัวละ 150 บาท วันหนึ่งได้เพียงไม่กี่ตัว เมื่อหักรายจ่ายแล้วเหลือเงินวันละ 200 บาท รายได้ไม่พอใช้ เดือนนี้ยังไม่ได้จ่ายค่าเช่า เพราะไม่มีเงิน ส่วนนางบุญมา บุญเกื้อ แม่ของเด็ก กล่าวว่า มีผู้ใจบุญโทรศัพท์และมาเยี่ยมให้กำลังใจหลายคน พร้อมกับบริจาคเงินช่วยเหลือ สร้างความปลาบปลื้มใจอย่างมาก บางคนถามหมายเลขบัญชีธนาคารเพื่อโอนเงินให้ สำหรับการดำเนินคดี พ.ต.อ.วัฒนา พิมพ์อัฐ ผกก.สภ.อ.เมืองราชบุรี เปิดเผยว่า ร้อยเวรเจ้าของคดีจะเรียกนายสุทินและนางบุญมา พ่อแม่เด็ก มาสอบสวนอย่างละเอียด ว่าเป็นการประมาทหรืออุบัติเหตุ แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร เนื่องจากทั้ง 2 คน ยังอยู่ในอาการขวัญเสีย ที่ลูกต้องมาประสบกับเรื่องสลดใจเช่นนี้ อีกทั้งยังต้องดูแลลูกอย่างใกล้ชิด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์