เตรียมจับ !! วิศวกรสร้างสะพาน 200 ปีถล่ม ซุ่มหนี ตร.ออกหมายจับแล้ว

เตรียมจับ !! วิศวกรสร้างสะพาน 200 ปีถล่ม ซุ่มหนี ตร.ออกหมายจับแล้ว

กรณีเหตุการณ์สะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เทศบาลตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พังถล่ม เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 56 เนื่องจาก ใช้ลวดสลิงไม่ได้มาตรฐานและเป็นการก่อสร้างผิดแบบแปลน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ปรากฏชื่อ บริษัท ดีไนซ์(2009) จำกัด เป็นผู้รับจ้าง

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ได้รับหนังสือแจ้งความคืบหน้าการสอบสวนคดีอาญา ที่ ตช.0016.65/171 สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 15 ม.ค. 58 ระบุว่า ตามที่นายอนุนาท เสือสมิง (บิดาเด็กหญิงวัย10ปี) ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนางสาววิชุดา นุชิต น้องสาวนายวรพจน์ นุชิต วิศวกรชำนาญการพิเศษ ผู้ออกแบบสะพานดังกล่าว ในฐานความผิด "ปลอมและใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสาราชการปลอม" และพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ตามคดีอาญาที่ 368/2557

ในคดีนี้พนักงานสอบสวนได้สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ไม่พบว่า นางสาววิชุดาฯ ได้เป็นผู้ทำการปลอมเอกสารและนำเอกสารปลอมไปใช้ เพียงแต่มีชื่อเป็นกรรมการของบริษัทฯ ในช่วงนั้นเท่านั้น

แต่จากการสอบสวนกลับมีพยานหลักฐานที่เชื่อว่า "นายวรพจน์" เป็นผู้ปลอมเอกสารด้วยการแก้ไขนามสกุลนางสาววิชุดาฯ ในสำเนาเอกสาร และเป็นผู้ใช้เอกสารปลอม

ขณะที่ เทศบาลตำบลท่าหลวงได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายมนตรี เคหนาดี และบริษัท ดีไนซ์(2009) จำกัด โดยอาศัยข้อเท็จจริงในประเด็นเดียวกันในเรื่องนี้ (คดีอาญาที่ 347/2557)

และการสอบสวนก็มีเพียง นายวรพจน์ นุชิต เป็นผู้กระทำผิดที่ได้หลบหนีไป ซึ่งในคดีนี้ ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว แม้ว่าขณะนี้ยังไม่จับกุมตัวผู้ต้องหา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงติดตามจับกุมผู้กระทำผิดในคดีนี้ต่อไป (ดูเอกสารประกอบ)


เตรียมจับ !! วิศวกรสร้างสะพาน 200 ปีถล่ม ซุ่มหนี ตร.ออกหมายจับแล้ว

นอกจากนี้ หนังสือแจ้งข้อมูลการดำเนินคดีเพิ่มเติม ที่ ตช.0016.65/6699 สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงวันที่ 10 พ.ย. 57 ตามที่นายอนุนาท ได้ขอทราบข้อมูลผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติม ตามคดีที่ 548/2556 เนื่องจากมีชื่อของ นายยิงศักดิ์ พรรณเชษฐ์ และนายธีรพันธ์ อรธรรมรัตน์ เป็นวิศวกรผู้ควบคุมงานก่อสร้างสะพานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ของเทศบาลตำบลท่าหลวง ที่พังถล่มลงมานั้น

สถานีตำรวจภูธรท่าเรือ ได้ทำการสอบสวนในประเด็นดังกล่าวแล้ว พบว่า นายยิ่งศักดิ์ พรรณเชษฐ์ และนายธีรพันธ์ อรธรรมรัตน์ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างสะพานฯดังกล่าว เพียงแต่มีการนำชื่อไปอ้างตามหนังสือรับรองของผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมใน TOR เท่านั้น

ซึ่งได้ส่งไปทำการตรวจพิสูจน์แล้ว พบว่า เป็นการปลอมลายมือชื่อของบุคคลทั้งสอง ซึ่งทำให้ได้รับความเสียหาย และได้มาขอแจ้งความร้อง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป พนักงานสอบสวนได้รับไว้เป็นคำร้องทุกข์ตามคดีอาญาที่ 657/2556 และคดีที่ 664/2556 ตามลำดับ ซึ่งได้มีการส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไปแล้ว (ดูเอกสารประกอบ)


เตรียมจับ !! วิศวกรสร้างสะพาน 200 ปีถล่ม ซุ่มหนี ตร.ออกหมายจับแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ พ.ต.ท.วิโรจน์ วังวล พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ(ปรากฏชื่อในเอกสาร) เพื่อสอบถามความคืบหน้าในคดีดังกล่าว โดย พ.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลในคดีดังกล่าวได้ เนื่องจาก ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่ สภ.อุทัย แล้ว กลัวว่าข้อมูลจะคลาดเคลื่อน แนะนำให้โทรศัพท์ติดต่อไปที่ สภ.ท่าเรือ

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปที่ สภ.ท่าเรือ เพื่อติดต่อ พ.ต.อ.จิตเกษม สนขำ ผู้กำกับสภ.ท่าเรือ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งรับสาย กล่าวว่า "พ.ต.อ.จิตเกษม ผู้กำกับติดภารกิจ วันนี้ไม่ได้เข้ามาที่สถานี จึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้"

ด้าน นายอนุนาท กล่าวว่า กรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์สะพานฯ 200 ปีถล่ม ซึ่งเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่า เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้อง เครือญาติ แต่ที่สำคัญคือ การลงโทษ เพราะในระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนที่ 3 บทกำหนดโทษ ข้อ 10 (1) ระบุอย่างชัดเจนว่า ผู้หนึ่งผู้ใดกระทำการใดโดยจงใจหรือประมาทหรือเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ หรือกระทำการโดยเจตนาทุจริต ถ้าการกระทำมีเจตนาทุจริตหรือเป็นเหตุให้ทางราชการเสียหายอย่างร้ายแรง ให้ดำเนินการลงโทษอย่างต่ำปลดออกจากราชการ ขณะที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง สั่งลงโทษลดเงินเดือนเจ้าหน้าที่ในสังกัดเพียง 4 เปอร์เซ็นต์

"การซ่อมแซมสะพานฯ 200 ปี ที่เพิ่งจะเปิดใช้ได้แค่ 9 เดือน แต่มีการสั่งซ่อมไปแล้วถึง 3 ครั้ง ทั้งๆที่ยังมีประกันเหลืออยู่อีก 2 ปี โดยในวันที่ 22 เม.ย. 56 นายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง นายเชษฐา ปทุมรังสี ได้มีคำสั่งให้มีการซ่อมแซมสะพานฯเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งมีกำหนดให้ผู้รับจ้างทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน แต่สามครั้งที่ผ่านมาใช้เวลาเกินกำหนด มากกว่าสัปดาห์ถึงจะแล้วเสร็จ และไม่มีการสั่งปิดสะพานฯ ซึ่งทำให้อีก 6 วัน ผมต้องเสียลูกสาวคนโตไปทั้งชีวิต" บิดาเด็กหญิงวัย 10 ปี ยืนยัน


CR.www.isranews.org

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์