ประกาศภาวะฉุกเฉิน เปรู

รัฐบาลเปรูต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในระดับสูงสุด

เพื่อเร่งช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.9 ริคเตอร์เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินกว่า 1,000 คน เข้าไปแล้ว แม้จะไม่มีอันตรายจากคลื่นยักษ์สึนามิจึงได้ประกาศยกเลิกคำเตือน 11 ประเทศในแถบลาติน อเมริกา แต่ชาวบ้านก็ยังผวาภัยซึ่งทางการยังได้สั่งปิดโรงเรียนไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงลิมาประเทศเปรูเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่า
 
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า เมื่อเวลา 18.41 น. ค่ำ วันพุธที่ 15 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งตรงกับ 06.41 น. เช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 ส.ค.ตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.9 ริคเตอร์ แต่ทางหน่วยงานของประเทศเปรูแจ้งว่า แรงสั่นสะเทือนอยู่ที่ระดับ 7.7 ริคเตอร์ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่นอกชายฝั่งประเทศเปรู ห่างจากกรุงลิมาเมืองหลวงของเปรูไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 148 กม. และอยู่ในระดับความลึก 40 กม.ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก

นอกจากนั้นยังมีแผ่นดินไหวครั้งที่สองตามมาอีก

ห่างจากแผ่นดินไหวครั้งแรก 1 ชั่วโมง 20 นาที วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.9 ริคเตอร์ ใกล้กับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งแรก แต่ระดับความลึกนั้นอยู่ที่ 10 กม.เท่านั้น ต่อมาในค่ำวันเดียวกัน ทั่วประเทศเปรูยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแผ่นดินไหวตามหลังมาอีก 5.6 ริคเตอร์ ใกล้กับชายฝั่งทางภาคกลางของประเทศเปรู

อย่างไรก็ตาม

40 นาทีหลังแผ่นดินไหวครั้งแรก ศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ 11 ประเทศในแถบลาตินอเมริกาและมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศชิลี เปรู เอกวาดอร์ และ โคลัมเบีย ดังนั้น รัฐบาลโคลัมเบียจึงได้สั่งให้อพยพผู้คนออกจากอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ของเมืองท่าทูมาโค และ บัวนาเวนตูรา ส่วนรัฐบาลเปรูสั่งให้อพยพผู้คนออกจากเขตลา ปุนตาของท่าเรือคัลเลาซึ่งขึ้นอยู่กับกรุงลิมานั้น ให้อพยพออกจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เพื่อความปลอดภัย แต่ภายหลังการติดตามและเฝ้าระวังระดับของน้ำทะเล พบว่า มีคลื่นสูงเพียง 20-30 ซม. เท่านั้น จึงได้สั่งยกเลิกการประกาศเตือนภัยสึนามิ

ผลจากแผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ รัฐบาล เปรูได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน
 
พร้อมกับแจ้งตัวเลขความเสียหาย ได้แก่ยอดผู้เสียชีวิตซึ่งยังคงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทางสำนักงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 337 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 1,300 คน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในกรุงลิมาต่างตื่นตระหนกวิ่งหนีกันอลหม่านหนีออกมาอยู่ตามท้องถนน เพราะเกรงว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อก ตามมาและความเสียหายรุนแรง แต่เสาโทรศัพท์ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวทำให้ไม่สามารถติดต่อสื่อสารได้ แต่ระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ คือ ไฟฟ้ากับน้ำประปายังให้บริการต่อไปได้ตามปกติ

สำหรับเมืองปิสโค ชินชา และ เมืองอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณชายฝั่งทางทิศใต้ของประเทศเปรู 
ได้รับความเสียหายยับเยินบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายจำนวนมากจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในแถบอเมริกาใต้ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา กระจกหน้าต่างของอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ แตกกระจายและต้นไม้หักโค่นปรากฏให้เห็น ส่วนที่เมืองอิคาที่อยู่ห่างกรุงลิมาไปทางใต้ 300 กม. ซึ่งมีโบสถ์ซีนอร์ เดอ ลูเรน ตั้งอยู่นั้นได้พังถล่มลงมาขณะที่ศาสนิกชนเข้าไปประกอบพิธีทางศาสนา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ศพ และ บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ขณะที่เมืองปิสโกที่อยู่ติดกันนั้นก็มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นกัน เพราะหลัง คาบ้านเรือนพังถล่มลงมา รัฐบาลได้เร่งดำเนินการจัดส่งขบวนรถบรรทุกเครื่องเวชภัณฑ์และ ทีมแพทย์พยาบาลรุดไปช่วยเหลือในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว

นอกจากการประกาศภาวะฉุกเฉินในระดับสูงสุดเพื่อช่วยเหลือในการเร่งฟื้นฟูพื้นที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว รัฐบาลยังได้สั่งการให้โรงพยาบาลทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เพราะคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจะยังคงสูงขึ้น นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขยังได้ประกาศรับบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนสถานศึกษาทั้งหมด ถูกสั่งปิดชั่วคราวเพราะเกรงว่าจะเกิดความเสียหายตามมาอีกจากซากปรักหักพังหลังแผ่นดินไหว ด้านประธานาธิบดีอลัน การ์เซีย แห่งเปรู ได้ออกแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ

ชาวเปรูต่างอาศัยอยู่อย่างหวาดผวามายาวนาน

ว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยแผ่นดินไหวเมื่อปี 2513 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 70,000 ศพ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองแถบเทือกเขาสูงคือเมืองฮัวราซ ซึ่งจมหายไปทั้งเมืองจากโคลนถล่ม นอกจากนั้นในปี 2544 ก็ยังมีแผ่นดินไหวรุนแรงในรัฐอาเรกุยปาทางตอนใต้ของประเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 75 ศพ และบ้านเรือนเสียหาย 25,000 หลังคาเรือน