๘๔ปีใครสร้างแผ่นดิน??? ทำไมคณะราษฏร์แย่งกันเป็นใหญ่

๘๔ปีใครสร้างแผ่นดิน??? ทำไมคณะราษฏร์แย่งกันเป็นใหญ่

การจากของพ่อ......ไม่เพียงมหันตทุกข์ท่วมทับไทยทั้งประเทศ ถ้าติดตามข่าวสาร จะพบว่ากระทั่ง "สกลโลก" ก็สั่นไหว!

สั่นไหวบนการ "รับรู้-ยอมรับ" ว่าที่ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" มีพระปฐมบรมราชโองการ ในพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อ ๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ ....."เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" นั้น

ตลอดระยะเวลายาวนาน ๗๐ ปีเต็ม เห็นชัดเป็นสัจจะ ว่าพระองค์ทรงปฏิบัติให้มีผลเป็นจริงตามพระปฐมบรมราชโองการทุกประการ และด้วยทศพิธราชธรรม เคร่งครัด-ครบถ้วน อันประจักษ์ทั้ง ๓ โลก นั้น คือ เทวโลก มนุษยโลก และยมโลก

เมื่อองค์พระมหาภูมิพลสวรรคตประหนึ่งองค์พระโพธิสัตว์เสวยชาติครบถ้วนแล้ว ก็ทรงเคลื่อนสู่อีกชั้นภูมิหนึ่งด้วยมหาบารมีธรรมสู่ความเป็น "องค์พระมหาราชภูมิพล" ดังกล่าวโลกธาตุ คือทั้งจักรวาลต้องสั่นไหว ด้วยสาธุการอยู่แล้ว! ลูกๆ ทุกคน ในความเป็นพสกนิกรไทย ทุกข์โศกด้วยอาลัย ก็ทุกข์ตามกาลอันควรเถิดแต่ขอได้รับทราบว่า..........กตัญญู-กตเวที ที่ลูกๆ ทั่วประเทศแสดงออก ทั้งด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม ขณะนี้ นั้น"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ" จะทรงรับรู้ "ใจภักดิ์" ของลูกทุกคนแน่นอนและพ่อหลวง จะต้องทรงปลาบปลื้มพระราชหฤทัยมาก ที่ได้ยินเสียงพวกเรา คือลูกๆ กล่าวเป็นสัจจะถวาย ว่า"นับแต่นี้ไป......ลูกจะรักสามัคคี...ลูกจะทำดีเพื่อพ่อ...ลูกจะทำตามคำพ่อสอน"

การเสด็จสวรรคตครั้งนี้ พูดได้ว่าเป็น "มหันตทุกข์" ของคนไทยทั้งประเทศ ในรอบ ๑๐๐ ปี .........ไม่มีอะไรที่คนไทยจะ "ทุกข์ท่วมทับประเทศ" เท่าครั้งนี้!มองอีกด้านหนึ่ง ด่านมหันตทุกข์นี้ เป็นการทดสอบ "สายเลือดไทย" ทั้งหมด-ทั้งมวล

ว่าจะหลอมไทยไปสู่ศตวรรษใหม่ด้วย "ไทย" ที่คงทนและคงแท้ได้หรือไม่?ไทยที่คงทนและคงแท้ .......คือไทยที่ต้องมี "สถาบันพระมหากษัตริย์" เป็นแกนยึดชาติ!







และก็พิสูจน์ชัดแล้วด้วยมหันตทุกข์ร่วมกัน บนการสูญเสีย "พ่อ"มหันตทุกข์นั้น พลันสร้างสำนึกลูกๆ "ร่วมชาติ-ร่วมพ่อ" เดียวกัน ให้เกิดรักสามัคคี โอบเอื้ออารี มีใจรวมหนึ่ง เป็นมหัศจรรย์ไม่มีสีแห่งการแบ่งแยกอีกต่อไปแล้ว!มีแต่คำปฏิญาณ-สัญญา ว่าต่อไปนี้ ลูกๆ จะเป็นคนดี ลูกๆ จะทำตามพ่อสอนที่พ่อสอน-พ่อทำมา ๗๐ ปี .........ใส บริสุทธิ์ เห็นชัด ไม่มีเลย ว่าสิ่งที่พ่อทำ เป็นการทำเพื่อพ่อเองทั้งหมด พ่อทำด้วยเพียรเพื่อสุข เพื่ออยู่ดี-กินดี ของลูก คือพสกนิกรทั้งแผ่นดิน ชนิดไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้นที่ดีใจยิ่งไปกว่านั้นเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่เติบโตขึ้นมา โดยไม่เคยเห็นเม็ดเหงื่ออาบพระพักตร์พ่อกลางป่า-กลางทุ่ง ก็พูดกันมากว่าคนรุ่นใหม่ "ต่อไม่ติด" กับสถาบัน!แต่จริงประจักษ์แล้ว เยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องเป็นผู้รับมรดก แบกรับอนาคตประเทศต่อกลับ "รู้จัก-เข้าถึง" เนื้อหาบนความเป็นสถาบันกษัตริย์ ผ่าน "พระราชจริยาวัตร" พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศลึกซึ้งกว่า "ผู้ใหญ่บางส่วน" ด้วยซ้ำ!  ที่ผมพูดนี่ แน่นอนละ...ต้องมีบางคน-บางฝ่ายมองว่า "พวกหัวเก่า-หัวโบราณ พวกคลั่งเจ้า"ก็ไม่เป็นไร คน ๖๐-๗๐ ล้าน หน้าตายังไม่เหมือนกัน แล้วจะให้คิดเหมือนกันไปทุกคน ย่อมไม่ได้แต่ที่จะเหมือนกันได้ คือการศึกษา-เรียนรู้ "ราก" ของความเป็นไทยตัวเองเท่าที่ผมเรียนมา .......เอาเป็นว่า จากยุคสุโขทัย ถึงยุครัตนโกสินทร์ แต่ละยุค แต่ละแผ่นดิน"กษัตริย์สร้าง" ทั้งสิ้น!ถ้าไทยอยู่ได้ โดยไม่ต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์จริงละก็......ปี ๒๔๗๕ ที่คณะผู้ก่อการเข้าล้มอำนาจระบอบกษัตริย์ เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย ได้โอกาสถึงขนาดนั้น.........ทำไมไม่ขึ้นเป็นใหญ่ในแผ่นดินเสียเองล่ะ? ทำไมต้องคงสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ล่ะ? ไม่เพราะพยายามเป็นใหญ่ในแผ่นดินกันเองแล้ว แต่ประชาชนไม่ยินยอมส่วนหนึ่ง แก่งแย่งกันเป็นใหญ่ส่วนหนึ่ง บารมีไม่ถึงส่วนหนึ่ง  และอีกส่วนที่สำคัญ...."ประชาชนไม่ให้การยอมรับซึ่งการมีอำนาจ โดยไม่ดำรงสถาบันกษัตริย์คู่ชาติไทย" ก็ต้องถอยกลับ ในเมื่อจะดำรงไทย ก็ต้องคงสถาบันกษัตริย์เอาไว้เป็นเอกลักษณ์คู่ชาติไทยชาติไทยที่พระมหากษัตริย์ทรงก่อร่าง-สร้างแผ่นดินไม่ใช่คณะราษฎร .........

ที่เปลี่ยนแปลงการปกครองผ่านมาแล้ว ๘๔ ปี แล้วไหน...ลองชี้ให้เห็นเป็นรูปธรรมซักอย่างซิว่า"ได้ต่อสู้กับอะไร เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่านำชาติเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดี-มีสุขบ้าง?"ตรงข้ามกับพระมหากษัตริย์ เอาที่เห็นชัดๆ ปัจจุบันนี่แหละ ได้ต่อสู้เพื่อชาติ-ประชาชน เห็นชัดกันทั้งโลกเคยดูคลิปที่ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" ทรงตอบคำถามฝรั่งนักข่าว BBC ขณะทรงงานกลางป่า-กลางเขาแล้วใช่มั้ยนักข่าวฝรั่งทูลถาม........... "ท่านคิดว่าพวกคอมมิวนิสต์จะคิดอย่างไรเกี่ยวกับโครงการสร้างเขื่อนที่ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยนี้ ในแง่ว่า ถ้าไม่มีคอมมิวนิสต์ ทางรัฐบาลและพระองค์ก็คงไม่มาทำโครงการนี้?" พระองค์ตอบว่า........"ก็ชอบถามแบบนี้ แต่เรื่องนี้ มันเป็นความจริงครึ่งเดียว บางคนอาจพูดว่า พวกเขาคือสาเหตุที่ทำให้เราต้องมาสร้างเขื่อน ถ้าไม่มีพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่เป็นคอมมิวนิสต์ เราก็คงไม่มา  บางคนก็อาจพูดว่า โครงการสร้างเขื่อนนี้ คือโครงการปีศาจ ก็แล้วแต่ใครจะพูด ความจริงแล้ว ถ้าไม่มีคอมมิวนิสต์ ประเทศเราก็จะไม่มีปัญหา และเขื่อนนี้ ก็อาจจะทำการก่อสร้างเสร็จไปตั้งนานแล้; แต่ในเมื่อมีพวกเขาอยู่ที่นั่น เราก็ต้องยอมลำบากมาเยี่ยมเยือน เพราะคนที่ทำงานสร้างเขื่อนนี้ ต้องการการสนับสนุน ต้องการขวัญกำลังใจ"  นักข่าวฝรั่งทูลถามต่อ "สร้างเขื่อนแล้ว ท่านคิดว่าท่านจะชนะในการต่อสู้ใช่ไหม?" พระองค์ทรงถามกลับ "ชนะใคร ต่อสู้กับใคร?" นักข่าวฝรั่งตอบ "ก็พวกที่กระด้างกระเดื่องและฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์น่ะ"พ่อหลวงทรงตอบว่า "เราชนะความอดอยากหิวโหยน่ะสิ เราไม่ได้ต่อสู้กับประชาชน เราต่อสู้กับความอดอยากหิวโหยของประชาชน เราปรารถนาให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าประชาชนเหล่านี้มีชีวิตที่ดีขึ้น พวกประชาชนอีกฝ่ายที่ท่านเรียกว่า 'พวกกระด้างกระเดื่อง..พวกคอมมิวนิสต์' ก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน  ทุกๆ คน ไม่ว่าฝ่ายใด ต่างก็จะมีความสุขทั้งหมด" นี่คือ "คำตอบ" ว่า...........แท้จริงแล้ว คณะราษฎร เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้ใช้ประชาธิปไตยที่ว่าดีกว่านั้น ต่อสู้เพื่อประโยชน์สุขสังคมชาติหรือ..........พระมหากษัตริย์ที่ทรง "ครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"เป็นผู้ต่อสู้เพื่อประโยชน์สุขสังคมชาติ "เห็นเป็นรูปธรรม" แท้จริงกว่า?ด้วยเหตุผลเหล่านี้ก็อยากบอกทุกคนว่า พวกเราทุกคนมีบุญ ภายใต้พระมหาบารมีพ่อ ทำให้เราเกิดสัมมาสติ รู้ผิด-รู้ถูก ในสถานการณ์ที่เหมาะสมเมื่อรักสามัคคีเกิดแล้ว เรื่องสีไม่มีแล้ว การจะคืนรักสามัคคีได้กลมเกลียว จงอยู่กับปัจจุบันที่สร้างสรรค์ อย่านำเรื่องเก่ามาเสียดสีกัน! เรื่องเก่า ........ยกให้เป็นหน้าที่ "กรรมและกฎหมาย" ส่วนเรื่องใหม่ จำคำพ่อหลวงเป็นแนวทางไว้ "ถ้าหากเมืองไทยไม่ใช้ความสามัคคี ไม่เห็นอกเห็นใจกัน ไม่อะลุ้มอล่วยกัน ไม่มีวันที่จะมีชีวิตรอดได้"

ขอบคุณเนื้อหาจาก http://deep.tnews.co.th/

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์