พระบรมราชินีนาถทรงแนะ อย่านำพุทธศาสนายุ่งการเมือง

"พระบรมราชินีนาถ"ทรงแนะ อย่านำพุทธศาสนายุ่งการเมือง

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชดำรัสแก่พสกนิกร ทรงแนะไม่ควรนำพระพุทธศาสนาไปยุ่งกับการเมือง ควรเทิดทูลไว้เหนือเกล้า เพราะเป็นสิ่งประเสริฐสุด ทรงเป็นห่วงป่าไม้ ขอให้คนไทยช่วยกันอนุรักษ์ ขณะที่"แม่ครูจูหลิง" ได้รับรางวัลแม่ผู้เสียสละ ขณะที่เกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกตั้งแต่เวลา 4 ทุ่ม วันที่ 12 สิงหาคม ถึงตี 5 วันรุ่งขึ้น

วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ  ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และท่านผู้หญิงจิตรวดี จุลานนท์ นำคณะรัฐมนตรี คู่สมรส และคณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะบุคคล ดังต่อไปนี้

 “ข้าพเจ้าขอขอบใจท่านนายกรัฐมนตรี ผู้นำหน่วยราชการต่างๆ ด้านบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้แทนขององค์กรภาครัฐและเอกชนทั้งหลาย ตลอดจนกลุ่มประชาชนจากทั่วพระราชอาณาจักรที่มาร่วมอวยพรและแสดงไมตรีจิตต่อข้าพเจ้า เนื่องในโอกาสคล้ายวันเกิดครบ 75 ปีบริบูรณ์ ณ ศาลาดุสิดาลัย ในวันนี้ ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้เป็นผู้แทนกล่าวอวยพรเป็นกำลังใจอย่างยิ่งแก่ข้าพเจ้า ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ ได้ให้กำลังใจแก่ข้าพเจ้าหลายอย่าง เช่น ที่ภาคใต้ สามจังหวัดภาคใต้ เวลาที่เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแก่ชีวิตไป ท่านนายกรัฐมนตรีก็พยายามช่วยเหลือ ตั้งทุนช่วยเหลือครอบครัวของผู้ที่รับใช้ประเทศชาตินี้ เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าชื่นใจ ดีใจที่สุด ดีใจแทนทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติในที่ที่ยากลำบากและอันตราย


นายกรัฐมนตรีผู้เป็นผู้บริหารประเทศทราบข้อนี้ดี ก็พยายามดูแล ทำนุบำรุงผู้ที่เสียชีวิตไป คือครอบครัวของเขาที่น่าสงสารจะต้องแตกแยกไปแล้วก็ประสบกับความไม่มั่นคงของชีวิต แต่ท่านนายกฯ สุรยุทธ์ ก็ก้าวเข้ามาช่วยตั้งทุน เพิ่งเริ่มก็จริงอยู่แต่ว่าคิดว่าทุนนี้ ต่อไปก็จะเป็นกำลังใจ และเป็นทุนที่ทำให้เด็กเล็กๆ ทั้งผู้หญิงผู้ชายมีอนาคตที่มั่นคงแน่นอน อย่างน้อยในการศึกษาเล่าเรียนได้เต็มที่ นอกจากจะขอบใจทุกท่าน ที่มาร่วมชุมนุม ณ ที่นี้แล้ว ข้าพเจ้าต้องขอขอบใจผู้ที่อวยพรข้าพเจ้า ผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือต่างๆ เป็นจำนวนมาก ทุกวันนี้ข้าพเจ้าดูโทรทัศน์อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะรายการอวยพรข้าพเจ้า ยิ่งตั้งใจดูเป็นพิเศษ ดูมานานหลายวันแล้วด้วย เช่นของช่อง 11 มีตั้ง 200 กว่าคณะ ที่มากล่าวอวยพร บางคนก็ส่งพานพุ่ม ดอกไม้ มาที่สวนจิตรลดา เป็นกำลังใจให้ข้าพเจ้าล่วงหน้า ข้าพเจ้าซาบซึ้ง ขอขอบคุณทุกๆคนมาก

การ"ให้"คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุดให้เพื่อนมนุษย์พ้นทุกข์

 ต่อไปก็ขอกล่าวขอบใจผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม ประกอบคุณงามความดีและบำเพ็ญกุศลนานาประการเพื่อข้าพเจ้า เช่น หลังจาก พ.ศ.2540 มีประชาชนตกงานกันมาก ข้าพเจ้าได้ขอให้ทางสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทำนองเดียวกันกับสมัยพุทธกาล ซึ่งข้าพเจ้าชอบอ่านชอบค้นอ่านดูสมัยพุทธกาลทำกันอย่างไรบ้าง ที่มีผู้ใจบุญจัดตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารคนยากคนจน สภาสังคมสงเคราะห์ได้ช่วยมากกว่าสมัยพุทธกาล คือไปให้การสงเคราะห์ด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น เชิญแพทย์มาตรวจสุขภาพ มีนักกฎหมายมาให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมาย มีบริษัทห้างร้าน มารับสมัครงาน มีบริการตัดผมให้ สภาสังคมสงเคราะห์ตั้งชื่อโครงการนี้ว่า โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน มีผู้ใจบุญมาร่วมงานมาก


บางคนมีกำลังทรัพย์ก็ช่วยบริจาคทรัพย์ สิ่งของ ที่มีกำลังสติปัญญา ก็มาให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ที่อุทิศกำลังกายเข้ามาช่วย มาประกอบเกี่ยวกับทำอาหาร และล้างจาน ก็มี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าชื่นใจ และชื่นชมในความมีน้ำใจ ไม่ทอดทิ้งราษฎรในยามทุกข์ยากของคนไทย และโครงการนี้ก็ยังดำเนินการสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้ มีประชาชนได้รับความช่วยเหลือไปแล้วหลายแสนคน คณะแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้จัดทำโครงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกช่วยเหลือเด็กยากจน ที่ป่วยเป็นโรคร้ายในกลุ่มโรคเลือด และโรคต่อมน้ำเหลือง หลายโรค ตั้งแต่ พ.ศ.2547 มาจนถึงปัจจุบัน โดยอุทิศแรงกายแรงใจทำงานกันอย่างอดทน เพราะแต่ละโรครักษายากทั้งนั้น โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเข้าร่วมโครงการผ่าตัดหัวใจเด็กเฉลิมพระเกียรติ ช่วยเหลือเด็กยากจนที่ต้องรอการผ่าตัดจากโรงพยาบาลของรัฐนานเป็นปีๆ ให้ร่นระยะเวลาเข้ามาจนเหลือ รอรายละประมาณ 3-4 เดือน เพื่อไม่ให้สุขภาพของเด็กทรุดโทรมมาก หรือเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ขึ้นมาเสียก่อน เท่าที่ทราบ มีเด็กได้รับการผ่าตัดไป 200 กว่ารายแล้ว นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของน้ำใจที่คนไทยมีให้แก่กันและนับเป็นของขวัญวันเกิดที่ล้ำค่าสำหรับข้าพเจ้า

 ขอขอบใจแทนคนไทยทุกคน ที่ได้รับน้ำใจและความกรุณาจากท่านทั้งหลาย และขออนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของทุกท่าน หวังว่าทุกท่านคงจะหายเหนื่อยทันที ที่เห็นคนไข้หายป่วย หรือคนยากคนจนหายหิว อันนับเป็นกุศลที่ตอบสนองน้ำใจงดงามของท่านอย่างทันตาเห็น ข้าพเจ้าขอโทษด้วยที่เสียงบางทีก็แหบ บางทีก็หายไป เพราะกลับจากไปต่างประเทศแล้ว ก็เป็นไข้หวัด พอเสร็จจากไข้หวัดก็เป็นหลอดลมอักเสบ ตอนนี้ยังไม่หายอักเสบดี เสียงก็เลยแหบเป็นเป็ดหน่อย


ภูมิใจนักเรียนไทยได้เหรียญทองในมหาวิทยาลัยรัสเซีย 

 สมเด็จพระราชินีทรงเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ท่านทั้งหลายฟัง ในหลวงทรงโปรดเกล้าฯ ไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ข้าพเจ้าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มีรัฐมนตรีผู้แทนรัฐบาลรัสเซีย ระหว่างที่มีพิธีการต้อนรับ มีการตรวจแถว มีพิธีสวนสนาม ซึ่งทหารรัสเซียเดินอย่างสง่างาม ท่าทางเข้มแข็ง จัดให้ข้าพเจ้าพักที่พระราชวัง ข้าพเจ้าได้ไปยังอนุสรณ์สถานเพื่อแสดงความเคารพทหารที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อจากนั้นข้าพเจ้าได้ไปยังจัตุรัสแดง เป็นลานหินยาว มีวิหารเซนต์เบซิ สร้างด้วยอิฐสีแดง มีโดมทรงหัวหอม มีหอคอยที่สูงที่สุด ซึ่งมีโบสถ์ มีภาพเขียนบนฝาผนัง และเก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย เป็นที่รวบรวมเครื่องเพชรนิลจินดา รถม้าทรง  เครื่องเพชรของพระราชวัง ซึ่งปกติไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพใดๆ แต่ได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษ และไปดูหอศิลป์ เป็นงานศิลปะที่เล่าถึงประวัติศาสตร์ของรัสเซีย ข้าพเจ้าได้พบคนไทยและนักเรียนไทย หลายคนได้ไปประจำอยู่ที่พักของข้าพเจ้า เพราะภาษารัสเซีย ซึ่งภาษารัสเซียนักเรียนไทยเก่งขยัน ได้เหรียญทองได้เกียรตินิยมที่ 1 ของนักเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นๆ คนรัสเซียบอกคนไทยเก่ง ตอนค่ำได้ไปดู

คนไทยทำไมถึงชอบตัดต้นไม้

 ทรงดำรัสว่า ตลอดทางเห็นเขารักษาป่าของเขาเหลือเกิน รัสเซีย คนไทยทำไมถึงชอบตัดต้นไม้ ซึ่งข้าพเจ้าสู้เรื่องนี้มาตั้งแต่อายุน้อยๆ จนถึงอายุนี้ยังไม่สำเร็จเลย ต่อไปถ้าป่าเสื่อมสูญไป น้ำจืดที่เราจะมีกินมีใช้จะน้อยมาก ทางองค์การโลกเขาได้พยากรณ์ไว้ว่า อีก 20 ปีน้ำจืดจะขาดแคลนอย่างมาก ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่าเป็นความจริงและอยากจะมาพูด ท่านนายกฯ และทุกๆ คน เพื่อชีวิตลูกหลานของเราเอง ขอให้มีมาตรการรักษาป่าไว้ให้ได้ ถึงแม้จะลำบากหน่อย ป่าสัก ไม้มะค่า ไม้ตะเคียน ขายได้แพง ปลูกสนก็ปลูกไป ต้นไม้เหล่านี้จะดูรักษาน้ำในแผ่นดินไว้ ประเทศไทยต่อไปเราอาจจะต้องซื้อน้ำจากต่างประเทศ น่าสงสารคนไทยที่ยากจน ข้าราชการทางอีสานบอกว่า เรามีแม่โขง เราก็ทดแม่โขงขึ้นมาก็สิ้นเรื่อง แต่นิตยสารว่า แม่โขงเดี๋ยวนี้แห้ง คนไทยที่มีอาชีพจับปลารับประทาน ก็หน้าแห้งกันไปตามๆ กัน ต้นน้ำของแม่โขงอยู่ที่ประเทศจีน มีประชากรมากมาย เขาก็ต้องดูแลประชาชนของเขา เขาก็เพียงกักเก็บแม่โขง ประเทศไทยไม่ได้มีแหล่งน้ำ เหมือนประเทศพม่า ประเทศพม่าเขามีแหล่งน้ำ น่าอุ่นใจมาก ประเทศไทยเราไม่มีแหล่งน้ำอะไรเลย ต่อไปเราอาจจะต้องซื้อน้ำจากต่างประเทศ ซึ่งก็จะเป็นที่น่าสงสารคนไทยที่ยากจนมาก


พระทัยหายแม่น้ำโขงแห้ง

 ข้าพเจ้าเคยพูดเช่นนั้น ข้าราชการที่ข้าพเจ้าจำชื่อกับตำแหน่งเขาไม่ได้แล้ว ทางด้านอีสาน เขาบอกกับข้าพเจ้า ท่านอย่าวิตกมากไปเลยเรื่องน้ำเนี่ย เขาบอก เรามีแม่โขงทั้งแม่โขงอยู่ริมจังหวัดต่างๆ ของเราเลย เราก็ทดแม่โขงขึ้นมาก็สิ้นเรื่อง แต่เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าใจหาย เพราะว่าได้เห็นหน้าปกของนิตยสาร ข้าพเจ้าเข้าใจว่า เป็นไทม์ และข้อความในนิวสวีค ว่า แม่โขงเดี๋ยวนี้แห้ง ปลาบึกก็อยู่ไม่ได้แล้ว แห้งเกือบผาก คนไทยที่มีอาชีพจับปลารับประทาน ก็หน้าแห้งกันไปตามๆ กัน เพราะว่าต้นน้ำของแม่โขงนี้อยู่ที่ประเทศจีน ผืนแผ่นดินใหญ่ ก็แน่นอน จีนผืนแผ่นดินใหญ่ซึ่งมีประชากรมากมาย เขาก็ต้องดูแลประชาชนของเขาทั่วถึง เขาก็เพียงกักเก็บแม่โขงที่อยู่ในผืนแผ่นดินเอาไว้ ซึ่งผลก็คือว่า แม่โขงแห้งผาก ข้าพเจ้าก็ไม่มีโอกาสไปพูดกับข้าราชการทางอีสานคนนั้น ที่ว่า ท่านอย่ามาวิตก เสียงเขารำคาญๆ ข้าพเจ้าด้วย "ท่านนะอย่าวิตกให้มากนักเลย เรื่องน้ำ" ปรากฏว่าข้าพเจ้าถูก เพราะเวลานี้ทางองค์การโลกขอร้องให้ทุกคนช่วยกันเก็บน้ำจืดไว้ให้ดี

 ซึ่งข้าพเจ้าก็อยากจะขอร้องทุกท่านให้ช่วยประเทศไทย ให้ช่วยราษฎรไทยต่อไปลูกหลานท่านเองในอนาคต อย่างข้าพเจ้าขอร้องเรื่องการตัดป่า ได้ขอร้องท่านนายกฯ ไปแล้วว่า มีกฎหมายใด มีวิธีใด ที่จะรักษาป่า เพราะว่า ไม้แต่ละต้น ถ้าเป็นพันธุ์ไม้ใหญ่จะเก็บน้ำจืดไว้จำนวนมากมาย และปล่อยออกมาเป็นลำธาร และปล่อยออกมาเป็นแม่น้ำ และอีกอย่างที่ข้าพเจ้าอยากจะขอร้องพวกท่าน เพราะข้าพเจ้าเป็นพระราชินีมาตั้งแต่อายุ 17 กว่าๆ ก่อน 18 ไม่กี่เดือน จนถึง 75 เนี่ย ยังขอร้องอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่าง ไม่มีผลอะไรเลย ไอ้เรื่องต้นไม้เนี่ย เต้นอยู่ตลอด ก็ไม่มีผลสำเร็จ แอบตัน ทางการก็ไม่มีกฎหมายอะไร หรือมาตรการที่จะดูแลรักษาป่า เพื่อเก็บน้ำจืดไว้


พระเจ้าอยู่หัวบอกว่าพูดเท่าไรก็ไม่เชื่อต้องตายก่อน

 ภรรยาท่านประธานาธิบดีแห่งลาว เมื่อตอนมาเยือนประเทศไทย ก็พูดกับข้าพเจ้า บอกว่า "ทำไมคนไทยชอบตัดป่านัก ตัดป่าของตนเองเหี้ยนเตียนหมด อีกหน่อยเถอะระวังไม่มีน้ำกิน ยังก้าวร้าวเข้าไปตัดป่าเมืองลาวอีก ลาวไม่ยอมเด็ดขาด ไล่เปิดไปหมดเลย" 

 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านสอนข้าพเจ้าอย่างนี้ บอกเนี่ยเป็นอย่างนี้ พูดเท่าไรไม่ฟังก็ต้องตายซะก่อน เห็นซะก่อนถึงจะเชื่อฟัง เพราะว่ามันก็ต้องถล่มแน่ เพราะพื้นที่มันเป็นพื้นที่สูงอย่างนี้ มันเป็นป่า เมื่อฝนแรงมากตกลงมา ดินมันก็ต้องถล่มลงมาทับตัวเอง และไม้ที่ตัวเองขึ้นไปตัวต่างๆ ก็ถล่มมากับน้ำมาทับหมดเลย ข้าพเจ้าว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงมาทำลายหมู่บ้านต่างๆ เป็นอย่างมาก ก็ด้วยเหตุนี้ ทีนี้หน้าที่ของพวกเราก็คือว่า จะต้องกระจายข่าวไปว่า อันนี้ที่จะตายไม่ตายแหล่ ก็เรื่องที่ปล่อยให้คนที่เห็นแก่ตัวไปเที่ยวตัด ไปถล่มป่าไม้ ไม่ดูภูมิประเทศ ไม่ดูถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่คนยากคนจนที่อยู่ชายเขา ริมเขา เพราะฉันหวังจะได้รับความร่วมมือจากทุกท่านว่า ตั้งต้นเสียทีเถิด

พระพุทธศาสนาควรแยกจากการเมือง

 ข้าพเจ้าได้พบปะกับนักเรียนไทยประมาณ 4,000 คนได้ ข้าพเจ้าก็ไม่คิดว่าจะถูกถามเรื่องพระพุทธศาสนากับรัฐธรรมนูญ

 ข้าพเจ้าก็อธิบายว่า ข้าพเจ้าคิดเองว่า พระบวรพุทธศาสนา เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุด สูงส่งแล้ว และได้รับการสนับสนุนมาตลอด ตั้งแต่จากสมัยสุโขทัยจากคนไทยทั้งชาติ พระบวรพุทธศาสนาเป็นของที่สะอาด สูงสุด ทุกคนคิดว่า ไม่อยากให้เข้าไปพัวพันกับคำว่า การเมือง ข้าพเจ้าพูดเช่นนั้น ต่อหน้านักเรียนไทย ควรเทิดทูนเอาไว้เหนือเกล้า เพราะเป็นแสงสว่างในหัวใจของคนไทยทั้งหลาย

  การเมืองบางครั้งก็มีผิดพลาด บางครั้งก็มัวหมองได้หลายเรื่อง เพราะฉะนั้นไม่ควรนำพระบวรพุทธศาสนาไปไว้กับกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย คือ รัฐธรรมนูญ ควรจะทิ้งพระบวรพุทธศาสนาไว้เช่นนี้ ที่ถูกเทิดทูนโดยประชาชนทั้งชาติ พอข้าพเจ้าพูดจบ ข้าพเจ้าได้รับการปรบมืออย่างดังสนั่นลั่นไปหมดเลย

 ในเมืองไทยข้าพเจ้าได้ทราบว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่คนนับถือมากกว่า 90% คงจะไม่ให้ใครมาแตะได้ ข้าพเจ้าเข้าใจว่าการเมืองบางครั้งก็มีอะไรหลายๆ อย่างไม่ค่อยตรงไปตรงมานัก เพราะฉะนั้นดีแล้วที่พระบวรพุทธศาสนาแยกไปเสียให้พ้นจากการเมืองจะดีกว่า ไม่ทราบว่าทุกท่านในที่นี้เห็นอย่างเดียวกับข้าพเจ้าหรือเปล่า อันนี้ข้าพเจ้าถามนักเรียนไทย 

 ผู้เชี่ยวชาญทางประวัติศาสตร์บอกว่า พระบวรพุทธศาสนาเป็นศาสนาของชาวไทยมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย พระเจ้าแผ่นดินองค์แรกๆ ของสุโขทัย เวลาจะขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินก็จะต้องกล่าวคำปฏิญาณว่าจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้ด้วยชีวิต ซึ่งเดี๋ยวนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์นี้ก็เช่นกัน ก็ยังถือธรรมเนียมเหมือนอย่างคนไทยทั้งหลายถือว่าพระบวรพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ล้ำค่าของชีวิตคนไทยที่จะพึ่งพาเวลามีปัญหาเกิดขึ้นอะไรกับชีวิต พระบวรพระพุทธศาสนาเป็นแสงสว่าง เพราะฉะนั้นไม่มีวันให้สลายหรือล่มลงไปเป็นอันขาด และดินแดนของชาวพุทธนี้ ชาวพุทธได้ทำชื่อเสียงมากมาย เช่น ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้าพเจ้าได้ที่ข่าวว่า เชลยศึกสมัยที่ตอนนั้นทางญี่ปุ่นได้ยึดครองประเทศไทย เชลยศึกต่างชาติได้รับการช่วยชีวิต ได้รับการป้อนน้ำ เสี่ยงกับชีวิตตนเอง และป้อนอาหาร ซ่อนตัวเขาด้วย ที่พูดอย่างนี้ ไม่อยากจะทำให้ใครต้องเสียใจ แต่พูดให้ทราบความจริงว่า บรรพบุรุษของไทยเรา แม้แต่ที่ผ่านมาไม่เท่าไร ไม่กี่ปี ก็ยังปฏิบัติตนทำให้ต่างประเทศชื่นชมและนับถือประเทศไทย และน้ำใจของคนไทยที่มีความเมตตากรุณา และมีความกล้าหาญ ที่จะเเสดงความเมตตากรุณาด้วย อันนี้ขอให้ท่านคิดดูดีๆ และชาวต่างประเทศมาพูดกับข้าพเจ้า ที่เขาชอบกรุงเทพมหานครเหลือเกิน เพราะว่าเมืองหลวงของประเทศไทยน่ามหัศจรรย์ โบสถ์พุทธ โบสถ์พราหมณ์ โบสถ์คริสต์ สุเหร่าอิสลาม ทุกศาสนาอยู่ใกล้เคียงกัน ไม่เคยมีใครคิดไปวางระเบิดหรือไปรบกวนศาสนาอื่นเลย ให้อิสระ สิทธิเสรีภาพในการจะนับถือศาสนาใดก็ได้ ซ้ำสนับสนุน นี่แหละฝรั่งเขาบอก คือการปฏิบัติต่อกันของคนที่มีความเจริญอย่างแท้จริง เจริญสุดทางด้านจิตใจ อันนี้น่าชื่นใจมาก ถึงเวลาสวดของใคร ใครก็ไป ถึงเวลาใครทำพิธีของใครก็ไป โดยไม่ไปรังแกซึ่งกันและกัน อันนี้ต่างประเทศเขาบอก ยอดสุดๆ คนไทย ข้าพเจ้าก็คิด พูดเฉพาะกับท่านว่า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถือจะเป็นกรณีพิเศษ นักเรียนไทยที่เยอรมันก็ฮากันลั่น เพราะว่าเขาก็จะไป เขาก็จะฆ่าพระ รังแกพระไม่ให้ออกบิณฑบาต ไม่เหมือนกับคนไทยทั้งชาติที่เคยทำมา พวกเราต้องมีอารมณ์เย็น เราไม่เคยไปเบียดเบียนรังแกอะไรใคร ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ความเชื่อของแต่ละบุคคล เราถือว่าทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ในการจะเชื่อในศาสนาใดก็ได้ทั้งนั้น แต่ว่าถ้ามากเกินไปก็ต้องคอยเตือน แต่ก็น่าเศร้าใจ

 เมื่อข้าพเจ้าแต่งงานก็ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเอาพระทัยใส่ในทุกข์สุขของราษฎร ทุกขณะ ทรงคิดถึงแต่ประโยชน์ของประชาชน ทรงสอนข้าพเจ้าและลูกๆ  ทุกอย่าง เช่น สอนประโยชน์ของป่าชายเลนว่า ป่าชายเลนต้องระวังให้ดี เป็นแหล่งวางไข่ของสัตว์น้ำ พวกกุ้ง หอย ปู ปลา ที่ยังเป็นตัวเล็กตัวน้อย ได้อาศัยอยู่ที่ป่าชายเลนนี้จนกว่าจะเติบโตแข็งแรง ฉะนั้นคุณค่าของป่าชายเลนมีมาก ต้องช่วยกันเก็บรักษาไว้ให้ดีๆ ก็ขอให้ทางรัฐบาลช่วยด้วย ขอให้ทุกท่านช่วยด้วย ต่อมาข้าพเจ้าก็นำมาถ่ายทอดให้ประชาชนให้ช่วยกันรักษาป่า รักษาแหล่งน้ำ รักษาความสะอาด รักษาสิ่งแวดล้อม ได้ผลมั่งไม่ได้ผลมั่ง ตลอดเวลาตั้งแต่สาวๆ จน 75

 และอีกอย่าง ขอวอนทางรัฐบาล และขอวอนทุกท่านหมดเลย ให้ช่วยกันรักษาแม่น้ำต่างๆ ไว้ด้วย โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ขอให้คนทางกรุงเทพฯ ช่วยกันรักษา เพราะว่าแต่ก่อนแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกว่าแหล่งอาหารที่ยอดของคนทั้งหลาย และขอให้ช่วยกันประหยัดแหล่งน้ำจืด แม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นแหล่งน้ำจืดให้ใช้น้ำจืดอย่างรู้คุณค่า

 ตอนข้าพเจ้าเด็กๆ ยังเห็นชาวบ้านที่เขาอยู่ในเรือขายข้าว เขาตักน้ำเจ้าพระยามาและรับประทาน รับประทานไปอย่างนั้นเลย เพราะแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนั้นสะอาดมาก เดี๋ยวนี้คงแย่แล้ว ที่แย่ที่สุดคือพันธุ์ปลาตายไปแยะแล้ว สูญสิ้นซึ่งพันธุ์ปลา ขอวอนให้ท่านช่วยกันหันกลับมารักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป่า แม่น้ำ ลำธารต่างๆ

 ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่มาให้พรและให้กำลังใจในวันนี้ ข้าพเจ้าขอให้กำลังใจทุกท่านเช่นเดียวกัน ไม่ว่าประเทศของเรา จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจอย่างไร หรือต้องเผชิญอุปสรรคหนักหนา สาหัสสากันเพียงไหน ขอให้คนไทยรวมกำลังใจที่จะช่วยกันฝ่าฟันไป เพื่อความมั่นคงของแผ่นดินไทย เพื่อความผาสุกของราษฎรไทยด้วยกัน

 คนไทยด้วยกันและชาติเดียวกัน เปรียบเสมือนอยู่ในเรือลำเดียวกัน ถ้าต่างคนต่างพายไปคนละทาง เรือก็ไม่ไปถึงไหน เรือชาติอื่นเขาก็แซงหน้าเรากันไป แต่ถ้าเราช่วยกันพายไปในทิศทางเดียวกัน เรือของประเทศไทยก็จะแล่นฉิว เพราะฝีมือของคนไทยไม่เป็นรองใครเลย 

 ขอให้พรทุกประการที่ท่านทั้งหลายให้แก่ข้าพเจ้าในวันนี้ จงตอบสนองทุกท่าน ขอให้ประชาชนชาวไทย มีความรักใครปรองดองกัน จับมือกันเดินไปสู่ความเจริญก้าวหน้า แต่ก็ไม่ละเลยช่วยกันทะนุถนอมแผ่นดินไทยให้คงอยู่ ด้วยความเขียวชะอุ่มด้วยความอุดมสมบูรณ์ ให้สมกับคำโบราณที่ว่า ในน้ำก็มีปลา ในนาก็มีข้าว ถ้าเรากินใช้แต่พอสมควรไม่มากเกินไป ทรัพยากรไทยก็จะมีเหลือไว้เจือจุนถึงลูกถึงหลาน ไม่สร้างพิษภัยให้แก่ชาวโลกด้วย

 ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่รับฟังข้าพเจ้ามาเป็นเวลานาน ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ"

ทั้งนี้พล.อ.สุรยุทธ์  ได้กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล ความว่า "ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ในนามของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ปวงข้าพระพุทธเจ้า เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ปวงชนชาวไทยมีความเคารพเทิดทูนและศรัทธาแน่นแฟ้นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักคู่บ้านคู่เมืองมาเป็นเวลาช้านาน แผ่นดินไทยมีความเจริญรุ่งเรืองมาจวบจนทุกวันนี้ เนื่องด้วยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นหลักชัย

 ในรัชสมัยปัจจุบัน ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท และรับสนองพระราชประสงค์ก่อตั้งโครงการตามแนวพระราชดำริ สร้างสรรค์ความอุดมสมบูรณ์ และนำความเจริญพัฒนาที่ยั่งยืนมาสู่แผ่นดิน รวมทั้งทรงริเริ่มโครงการอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนเป็นจำนวนมาก  พระราชกรณียกิจทั้งปวง ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงบำเพ็ญ นับเนื่องมาเกือบหกทศวรรษ ทั้งการโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร

 การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ตลอดจนพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา การสาธารณสุข การศาสนา การสังคมสงเคราะห์ การอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ล้วนเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญทั้งในประเทศและในนานาประเทศ นำเกียรติอันยิ่งใหญ่มาสู่ประเทศและประชาชนชาวไทย 

พระราชทานกำลังใจปลอบขวัญราษฎรประสบวิกฤติภัย

 ในภูมิภาคที่ประสบวิกฤติภัย ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงพระกรุณาพระราชทานพระราชานุเคราะห์ ทรงปลุกปลอบขวัญ พระราชทานกำลังใจให้ยึดมั่นในความดีงาม ร่วมแรงร่วมใจ ร่วมพลังขจัดภยันตรายและรักษาชาติ รักษาแผ่นดินให้พ้นภัย ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ ณ มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ในพุทธศักราช 2550 นี้ ปวงข้าพระพุทธเจ้าพร้อมใจกันขอตั้งสัตยาธิษฐาน จะบำเพ็ญคุณความดีเพื่อทดแทนบุญคุณของแผ่นดิน สนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทตลอดไป พร้อมทั้งขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและพลานุภาพแห่งสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบำรุงรักษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพระเจริญ เพียบพร้อมด้วยจตุรพิธพรชัย ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคา พยาธิภัย พระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ พระเกียรติคุณเจิดจำรูญแผ่ไพศาลทุกทิศานุทิศ มีพระราชประสงค์จำนงใดจงสัมฤทธิ์ สถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าปวงข้าพระพุทธเจ้า ตราบจิรัฐิติกาล เทอญ"

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯทรงเป็นประธานจัดงานเทิดไท้

วันที่ 11 สิงหาคม เวลาประมาณ 15.35 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปทรงเป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพร 12 สิงหา พระบรมราชินีนาถ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร โดยมีพระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป รวมถึงพระสงฆ์ที่อุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศล นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวา มหาราช นางละออ ตั้งคารวคุณ ประธานกรรมการจัดงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงาน มิสไทยแลนด์และรองมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส พร้อมผู้มีเกียรติ รับเสด็จ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ราษฎรถวายสดุดีทรงเป็นแม่มิ่งขวัญแห่งแผ่นดิน 

 ในการนี้ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงกล่าวในนามลูกทั้งปวงว่า ได้สำนึกและทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้มาประกาศราชสดุดี เฉลิมพระชนมพระเกียรติคุณ ในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ปรากฏไพศาล ยั่งยืนนานสืบต่อไป หากมีคำกล่าวที่ว่าพระราชาคือศรีสง่าแห่งแว่นแคว้น ก็อาจกล่าวได้ในทำนองเดียวกันว่า ได้ฝ่าละอองธุลีพระบาทพระบรมราชินีนาถ ผู้ทรงเป็นศรีสง่าแห่งราชอาณาจักรไทย เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และระยะเวลาอันสืบเนื่องยาวนานกว่าเกือบทศวรรษ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้สืบปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจทุกประการ

 ด้วยพระวิริยะอุตสาหะ โดยมิได้ทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ ได้ปรากฏประจักษ์แก่พสกนิกร ว่าเป็นผลงานที่ได้สร้างคุณประโยชน์ ให้แก่ประเทศไทย คนไทย และชาวโลก ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงมีพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยในราษฎรอยู่เป็นเนืองนิจ แม้แต่ในยามที่พระประชวรก็ทรงรับสั่งถึงราษฎรอยู่เสมอ โดยเฉพาะความห่วงใยที่ทรงมีต่อผู้ประสบความเดือดร้อน จากเหตุการณ์ในแผ่นดินภาคใต้ และผู้ที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ทรงปรารถนาแรงกล้าที่จะให้เกิดสันติสุข และความร่มเย็นเป็นนิจนิรันดร์ในแผ่นดินไทย น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงอาทร ในราษฎรทุกย่อมหญ้า ประดุจพระมารดาห่วงใยบุตร ราษฎรทั้งหลายจึงถวายอศิรวาท ราชสดุดี ให้ทรงเป็นแม่มิ่งขวัญแห่งแผ่นดิน พร้อมทั้งตั้งใจจะแสดงความจงรักภักดี ตอบแทนด้วยความปฏิบัติดี ต่อชาติบ้านเมืองและหวงแหนแผ่นดินตลอดไป

พระดำรัสถวายพระพรพระสังฆราช

 ในมหามงคลโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม อันเป็นวันมหามงคลมาถึงอีกครั้งหนึ่ง สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สองพระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงแผ่พระมหากรุณาธิคุณ ปกไปทั่วผืนปฐพีไทยทั้งหมด ปรากฏเป็นความเบิกบานยินดีมีความสุขทั่วทุกชีวิตจิตใจ ผู้มีความจงรักภักดีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอเดชะพระบารมี ขอพระราชทานถวายพระวรมงคลชัย เพื่อเสด็จสถิตยั่งยืนนาน ไปในพระเศวตฉัตรรัตนบัลลังก์แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จประทับสูงส่งเหนือชีวิตจิตใจ พสกนิกรทั้งหลายทั้งปวง ผู้มีบุญพ้นพรรณนาได้รับพระราชทาน ขอพระราชทานถวายพระพร

9-5 โมงเย็นเปิดลงนามถวายพระพร

 เลขาธิการพระราชวัง รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯ สั่งว่า การพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ปีนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดดังนี้ ในวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. สำนักพระราชวังได้จัดที่สำหรับลงพระนามและลงนามถวายพระพรไว้ที่ในพระบรมมหาราชวัง เวลา 12.00 น. ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ จะได้ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด

"แม่ครูจูหลิง" ได้รับรางวัลแม่ผู้เสียสละ

 วันเดียวกัน สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย มอบรางวัลในโครงการ "แม่ หนึ่งในดวงใจ" โดย นางคำมี ปงกันมูล มารดาของครูจูหลิง ปงกันมูล ได้รับรางวัลแม่ผู้เสียสละ หลังยินยอมให้บุตรสาวคนเดียวลงไปสอนหนังสือในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนครูจูหลิงถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับรางวัลแม่หนึ่งในดวงใจอีก 2 คน คือ นางนวลน้อย ทิมกุล หรือครูน้อย ได้รับรางวัลแม่บุญธรรม หลังสละชีวิตที่มีอยู่ทั้งหมด ในการดูแลช่วยเหลือเด็กกำพร้า และสงเคราะห์เด็กยากจน มาตั้งแต่ปี 2530 นางศุรีมาศ สุทธิสัมพัทน์ ได้รางวัลแม่พระ หลังอุทิศเวลาช่วยเหลือเยียวยาผู้สูญเสีย จากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตั้งแต่ปี 2547

คนพิการแข่งขันกีฬา "วันแม่แห่งชาติ"

 ส่วนบรรยากาศการจัดงานเทิดพระเกียรติ เริ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหามหาราชินี ขึ้นที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้พิการและครอบครัว กว่า 200 คนเข้าร่วม ซึ่งมีทั้งการแข่งขันปั่นรถเข็น การแข่งขันเป่าลูกโป่ง และกิจกรรมที่ช่วยสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาการของคนพิการ สร้างความสนุกสนานให้แก่ผู้แข่งขันและกองเชียร์เป็นอย่างมาก ขณะที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ซึ่งเคยจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ได้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมความสวยงามของสวนต่างๆ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 13 สิงหาคม โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันนี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์