พบซากเครื่องบินเล็กร่วงกลางป่าเขาใหญ่ ยังไม่ทราบชะตากรรมนักบิน

ความคืบหน้ากรณี เครื่องบินเล็กปีกหมุนฝึกบินพลเรือน 2 ที่นั่ง ร่วงกลางป่าดงดิบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รอยต่อปราจีนบุรี-นครนายก-สระบุรี เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ (9 ส.ค.) โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากบริษัทบางกอกแอร์เวย์ ว่า เครื่องบินปีกหมุนฝึกบิน 2 ที่นั่งขนาดเล็กพลเรือนยี่ห้อเซทน่า 172 ของบริษัทฯ มีนายโภคิน ภัยสนอง และนายประณพ วิลาพรรณ เป็นครูฝึกและนักบินฝึกหัดตามลำดับ ออกเดินทางจากสนามบิน จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าเข้าสนามบินดอนเมืองได้หายไปจากเรดาห์ตรวจการณ์การบินพลเรือน และตรวจเช็คพิกัดทางอากาศครั้งสุดท้าย พบว่าอยู่บริเวณ พิกัดเหนือ 14 องศา 31 ลิปดา 44 ฟิลอบดาตะวันออก 101 องศา 11 ลิปดา 06 ฟิลิบดา บวกลบไม่เกิน 3 ไมล์
      
กำลังเจ้าหน้าที่ และชุดกู้ภัยทั้งจากจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และสระบุรี ต่างเดินเท้าเข้าไปค้นหาซากเครื่องบิน

ที่ตอนแรกได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่าตกในพื้นที่นาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก แต่จากการตรวจสอบพิกัดที่แน่ชัดทราบว่า เครื่องบินลำดังกล่าวพยายามบินฝ่าสายฝน  จนเครื่องขัดข้องบังคับทิศทางการบินไม่ได้  และคาดว่าน่าจะตกบริเวณบ้านห้วยผีหลอก น้ำตกเจ็ดคด อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ทีมค้นหาจึงถอนกำลังจากพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี จะมีเพียงบางส่วนที่เดินเท้ามุ่งไปยังพิกัดดังกล่าว ทว่า พิกัดบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นป่าลึกดงดิบจะต้องใช้การเดินเท้าเข้าไปตรวจสอบเป็นระยะทางไกลกว่า 5 - 8 กม. จึงได้ประสานกองร้อยบินกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรีมาช่วยค้นหา

ต่อมาเวลาประมาณ 16.00 น. ร.อ.สุทัศน์ ปักโภพรรณ์ เป็นหัวหน้าชุดพร้อมเฮลิคอปเตอร์พร้อม จ.ส.อ.สายหยุด มั่งคั่ง

เป็นผู้ช่วยโดยใช้เครื่องตรวจหาพิกัดจีพีเอสผ่านสัญญาณดาวเทียมเช็คหาพิกัดดังกล่าว ล่าสุด มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ ได้พบปีกและซากเครื่องบินเล็กที่ประสบอุบัติเหตุอยู่บนต้นไม้กลางป่าลึก แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักบินทั้ง 2 ราย ในเบื้องต้นหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จ.ปราจีนบุรี จำนวน 25 นายและเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้เดินเท้าเข้าพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวเพื่อเร่งค้นหากรณีมีผู้บาดเจ็บหรือรอดชีวิต แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อผ่านวิทยุสื่อสารหรือโทรศัพท์มือถือได้