เซ็นทรัล เช่าที่รฟท.เป็นเหตุ สรรเสริญอัดซ้ำบรรณวิทย์จุ้น

นายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

กล่าววันนี้ (3 ส.ค.) กรณี พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)  เรียกประชุมผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งระหว่างลูกจ้างชั่วคราวทำความสะอาดบนรถไฟที่โดนเปลี่ยนหน้าที่ และประท้วงปิดรางเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา  ว่านอกจาก ร.ฟ.ท.แล้ว พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ยังได้เข้าไปแทรกแซงการบริหารราชการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมหลายแห่ง ทำให้ข่าวสารที่เผยแพร่ทางสื่อสารมวลชนหลายครั้งสร้างความสับสนให้แก่ประชาชน

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าว

กรณีเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อม พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม วานนี้ ว่า เป็นการเข้าหารือถึงการประชุมคณะกรรมการกิจการพาณิชยนาวีแห่งชาติ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และหารือถึงการแก้ปัญหาการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ แอร์พอร์ตลิงค์  ไม่ได้หารือกรณีพล.ร.อ.บรรณวิทย์ มาแทรกแซงงานของกระทรวงคมนาคม  หากจะมีการพูดคุยเรื่องดังกล่าว จะเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่จะรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ

"ขอให้ผู้บริหารส่วนราชการกระทรวงคมนาคมยึดธงของฝ่ายบริหารเป็นหลัก อย่างกรณีโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ ยืนยันว่า จะมีการต่อสัญญาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเห็นของคณะกรรมการที่กระทรวงคมนาคมตั้งขึ้น เพื่อตรวจสอบข้อกฎหมายและนำหารือกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เนื่องจากหาก คตส.วินิจฉัยให้สัญญาก่อสร้างระหว่าง ร.ฟ.ท. และผู้รับเหมาในอดีตเป็นโมฆะ เมื่อ รฟท. ไปตัดสินว่าจะต่อสัญญาก่อสร้างในขณะนี้เกรงว่าจะเกิดความเสียหายได้" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวกรณีปัญหาการเช่าที่ดิน ร.ฟ.ท.ของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ว่า
 
นอกจากคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกาเรื่องข้อกฎหมาย ว่า จะเจรจาต่อสัญญาให้กลุ่มเซ็นทรัลหรือไม่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการจ้างบริษัทที่ปรึกษาสำรวจมูลค่าทรัพย์สินและที่ดินในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งประเมินว่า ร.ฟ.ท.จะมีรายได้ตอบแทนเท่าใด  จะทำให้ทุกประเด็นมีความชัดเจน แต่การที่ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ ออกมาสรุปเรื่องดังกล่าวขณะนี้ สร้างความสับสนให้แก่ประชาชนมากกว่า  ที่ผ่านมา ได้ให้นโยบายแก่ผู้บริหาร ร.ฟ.ท.ว่า การหาข้อสรุปเรื่องดังกล่าวจะต้องยึดประโยชน์ที่ ร.ฟ.ท. และประชาชนได้รับเป็นหลัก รวมทั้งเกิดความเป็นธรรมในข้อกฎหมายแก่ทุกฝ่ายด้วย

"ยอมรับหนักใจ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ แทรกแซงการบริหารราชการในหลายหน่วยงานของกระทรวงคมนาคมโดยเฉพาะหลายเรื่องของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ยังไม่ได้มีการนำเรื่องดังกล่าวหารือนายกรัฐมนตรี ขอให้ผู้บริหารในสังกัด ยึดธงของฝ่ายบริหารที่ให้ไว้ในการทำงานเป็นหลัก" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว