ไนท์ซาฟารี โอ่ฟันแล้ว 12 ล้าน หลังเก็บตั๋ว

ไนท์ซาฟารี โอ่ฟันแล้ว 12 ล้าน หลังเก็บตั๋ว

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2549 00:40 น.

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ ไนท์ซาฟารี เผยยอดรายได้หลังเก็บค่าเข้าชมฟันแล้วกว่า 12 ล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเข้าเที่ยวชมเฉลี่ยวันละพันคน อย่างไรก็ตามยังไม่อยู่ในระดับที่คุ้มทุน ล่าสุดทำข้อตกลงร่วมกับบริษัททัวร์ลุยตลาดต่างประเทศ เริ่มเดินเครื่องเต็มที่ พ.ค.49 เชื่อมั่นส่งผลดีแน่

นายพิศาล วสุวานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดเผยว่า หลังจากที่สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเริ่มเก็บค่าเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.49 เป็นต้นมา จนถึงเวลานี้สามารถเก็บค่าเข้าชมได้แล้วรวมกว่า 12 ล้านบาท โดยในแต่ละวันจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเที่ยวชมเฉลี่ยประมาณวันละ 1,000 ราย จากความสามารถที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้ 3,500 คนต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย ทั้งนี้ยอมรับว่าหลังจากที่เก็บค่าเข้าชมเป็นผลทำให้จำนวนผู้เข้าเที่ยวชมลดลงจากช่วงที่เปิดให้เข้าชมฟรีระหว่างวันที่ 18 พ.ย.48-31 ม.ค.49 ที่มีผู้เข้าชมรวมกว่า 1.3 ล้านคนหรือเฉลี่ยประมาณวันละ 10,000 คน แต่ไม่ได้เป็นปัญหาอุปสรรคในการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจากเป้าหมายหลักของการก่อตั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั้นก็เพื่อเป็นแหล่งความรู้ด้านการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการดำเนินงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเช่นกัน เพราะถึงแม้ว่าการบริหารงานของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจะเป็นองค์กรมหาชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร แต่ภารกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือมีความจำเป็นที่จะต้องมีรายได้พอเพียงที่จะใช้ในการบริหารจัดการทั้งโครงการด้วยตัวเอง ซึ่งจนถึงเวลานี้ยอมรับว่ารายได้จากค่าเข้าชมที่มีเฉลี่ยวันละประมาณ 100,000 บาท ยังไม่เพียงพอ เพราะมีจุดคุ้มทุนอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทต่อวัน

ทั้งนี้ล่าสุดทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีจึงได้ทำการลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทางด้านการตลาดกับบริษัททัวร์หลายแห่ง เพื่อบรรจุเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีไว้ในโปรแกรมการท่องเที่ยวที่จะนำไปขายให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มชาวต่างชาติ โดยจะมีส่วนแบ่งรายได้ให้แก่บริษัททัวร์ที่นำนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีในเบื้องต้นร้อยละ 20 ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการทำการตลาดในต่างประเทศของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้การทำตลาดในต่างประเทศตามข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มดำเนินการตามแผนได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป(พ.ค. 49) ที่ถึงแม้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่เชื่อมั่นว่าในระยะยาวจะส่งผลดีอย่างแน่นอน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์