บี้โกงสอบหมอ ผบ.ตร.เช็คอุปกรณ์นำเข้า 3นศ.เบี้ยวนัดพบตำรวจ

บี้โกงสอบหมอ ผบ.ตร.เช็คอุปกรณ์นำเข้า 3นศ.เบี้ยวนัดพบตำรวจ สช.จ้องฟันติวเตอร์เอี่ยว สธ.ขอคนดีไม่เอาเก่งโกง

บี้โกงสอบหมอ ผบ.ตร.เช็คอุปกรณ์นำเข้า 3นศ.เบี้ยวนัดพบตำรวจ

ความคืบหน้ากรณีพบทุจริตการสอบคัดเลือกเข้าเรียน คณะเเพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมยึดของกลางเป็นแว่นตา นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ส่งเอสเอ็มเอสเฉลยคำตอบ และจับผู้เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวได้ 5 ราย ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถตั้งข้อกล่าวหาได้ ทำได้เพียงส่งเรื่องให้มหาวิทยาลัยดำเนินการตามระเบียบของมหาวิทยาลัย


ผบ.ตร.สั่งสอบที่มาอุปกรณ์โกง

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า มิจฉาชีพดัดแปลงหาวิธีการทุจริตตลอดเวลา ซึ่งตนให้หน่วยที่เกี่ยวข้องไปศึกษาว่าการกระทำดังกล่าวหรือการนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้เข้าข่ายผิดกฎหมายมาตราใดบ้าง ส่วนจะเอาผิดผู้จำหน่ายสินค้าหรือไม่ ต้องดูว่าสินค้าที่นำเข้าเสียภาษีหรือไม่ ถ้าเป็นสินค้าผิดกฎหมายต้องดำเนินการอยู่แล้ว
ส่วนการสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.) มีการควบคุมตรวจสอบ การนำเข้าอุปกรณ์ เช่น แว่นตา นาฬิกา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆเข้มงวดอยู่แล้ว ไม่ว่าสนามไหน ถ้าไม่เข้มงวดคงจับไม่ได้ แต่ผู้สอบก็มักหาวิธีแปลกๆ มาทุจริต ซึ่งพบเห็นอยู่บ่อยครั้ง

3นศ.เบี้ยวพบตร.อ้างไม่พร้อม
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีทุจริตสอบเข้าคณะแพทย์ มหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ที่สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวจำนวนมากเดินทางไปเกาะติดสถานการณ์ หลังทราบว่านักศึกษา 3 คน ที่ทุจริตสอบแพทย์จะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมตำรวจ แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย นักศึกษาทั้ง 3 รายไม่เดินทางมา ซึ่งพล.ต.ต.ถาวร ขาวสะอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดแถลงความคืบหน้าคดี โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยนำของกลาง แว่นตากล้องและนาฬิกาสมาร์ทวอชมามอบให้ตำรวจ แต่ยังไม่มีการสอบปากคำตัวผู้ทำผิด เพราะผู้ต้องสงสัย 3 คนขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากยังไม่พร้อม ต้องขออนุญาตผู้ปกครองก่อน

ม.รังสิตส่งของกลาง-มั่นใจเอาผิดได้
ด้านร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ นักวิชาการด้านอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิตกล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยส่งอุปกรณ์ที่ใช้ทุจริตให้ตำรวจแล้ว และได้ข้อมูลมาบ้างแล้วถึงสถาบันติวเตอร์ที่ทำผิดแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เกรงเสียรูปคดี จากหลักฐานที่พบสามารถดำเนินคดีกับผู้ทำผิดได้แน่นอน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะทำให้ผู้ทำผิดมีทางออกในข้อกฎหมาย

สช.จ่อฟันติวเตอร์เถื่อนเอี่ยวโกง
นายอดินันท์ ปากบารา เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนท(เลขาธิการ กช.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) รอข้อมูลจากมหาวิทยาลัยรังสิต และจากสภ.ปากคลอบรังสิต ที่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ โดยวันนี้ตนส่งเจ้าหน้าที่ สช. 2 คน เดินทางไปสภ.ปากคลองรังสิต เพื่อขอทราบข้อมูลว่ามีสถาบันกวดวิชาใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตสอบแพทย์ของมหาวิทยาลัยรังสิตครั้งนี้บ้าง เพื่อไปตรวจสอบว่าได้รับใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และหากได้รับข้อมูลว่าสถาบันกวดวิชาใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ถึงแม้สถาบันกวดวิชานั้นจะได้รับใบอนุญาตจากสช.ถูกต้องแล้ว ก็ต้องถูกยึดใบอนุญาต และสั่งปิดสถาบันทันที รวมถึงถูกดำเนินการทางกฏหมายด้วย

สธ.ขอหมอคนดีไม่เอาเก่งแต่โกง

ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า การทุจริตสอบนั้นไม่เฉพาะวิชาชีพแพทย์เท่านั้น แต่พบได้ทุกวิชาชีพ เมื่อเป็นเช่นนี้ประเทศชาติจะเจริญก้าวหน้าได้อย่างไร ทั้งนี้ วิชาชีพแพทย์ประชาชนให้ความคาดหวัง ดังนั้น สธ.ก็มีระบบการจัดการให้เป็นหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับของประชาชน ทั้งนี้ ประเทศชาติต้องการคนเก่ง คนดี ที่สำคัญความดีต้องมาก่อน เพราะถ้าเป็นคนดี เมื่อขยันหมั่นเพียรก็สามารถพัฒนาตนให้เป็นคนเก่งได้ แต่ถ้าเป็นคนเก่ง แต่โกงประเทศชาติก็มี แต่จะแย่ลงเรื่อยๆ อย่างคนเป็นแพทย์จะเก่งได้ก็ต้องคลุกคลี ตรวจวิเคราะห์คนไข้

จี้แก้กม.โกงสอบให้มีบทลงโทษ
มีความเห็นจากรศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะเลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ หรือ Coordinating Center for the Public Higher Education Staff (CHES)ว่า ต้องเสนอให้ภาครัฐแก้กฎหมายเกี่ยวกับการทุจริตด้านการศึกษาโดยด่วน ทั้งนี้จะเห็นว่าการโกงสอบยังไม่ปรากฏว่ามีฐานความผิดจากกฎหมายอาญาฉบับใดเอาผิดได้เลย ยกเว้นเอาผิดทางอ้อม เช่น ผู้ว่าจ้างกับผู้สถาบันกวดวิชา ผิดใจกันเอง เนื่องจากเบี้ยวจ่ายหรือค้างชำระค่าจ้างโกงสอบ ก็แจ้งความดำเนินคดีอาญาเรื่องหลอกลวงทรัพย์ อีกอย่างคือ มหาวิทยาลัยหรือผู้เข้าสอบคนอื่นๆต้องมาฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งแทน ซึ่งค่อนข้างยุ่งยาก และการจ้างวานให้กระทำการขัดกฎหมาย ก็ไม่อาจเรียกให้อีกฝ่ายชำระหนี้จากการกระทำนั้นๆได้ ซึ่งช่องว่างของกฎหมายการลงโทษที่เบา ก็เป็นอีกเหตุผลที่จะสนับสนุนการโกงสอบทุกระดับ เพราะไม่มีการลงโทษอย่างจริงจัง ที่สำคัญเทคโนโลยีการโกงสอบถูกพัฒนาไกล แต่กฎหมายที่มีผลบังคับลงโทษของประเทศไทยยังไม่มี

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์