รปภ.ถูกฆ่าตาย ตร.ตั้งประเด็นชิงทรัพย์-ทะเลาะวิวาท

รปภ.วัย 60 ปี ถูกตีท้ายทอยตายคาที่ขณะปฏิบัติงาน หัวหน้างานระบุ กำลังจะลาออกกลับบ้าน-พักผ่อน ก่อนตายเผยถูกกลุ่มวัยรุ่นก่อกวนขอจอดรถ ด้านตร.ตั้งประเด็นชิงทรัพย์-ทะเลาะวิวาท เตรียมเรียกเพื่อนคู่กะสอบหลังหายตัวไป

ตำรวจเข้าตรวจที่เกิดเหตุพบศพนอนจมกองเลือด

สน.โชคชัย เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 กรกฏาคม ร.ต.ต.อดุลย์ จินดาหลวง สน.โชคชัย ได้รับแจ้งเหตุชายเสียชีวิตภายในบ.แหลมทอง ตั้งอยู่ เลขที่ 11/88 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น. 4 และแพทย์ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดหตุบริเวณลานจอดรถของบริษัทดังกล่าว พบศพ นายบันเทิง จรุงพันธ์ อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ บ.ดีเอสเอ อินเวสดิเดชั่น จำกัด อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 ต.บางหวาย อ.ดอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมชุดซาฟารี สีน้ำเงิน มีบาดเจ็บถูกทำร้ายที่บริเวณท้ายทอยด้านขวา เป็นรอยแตกประมาณ 2 นิ้ว

จากนั้นได้มีการสอบสวนสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวกับหัวหน้า รปภ.

จากการสอบสวน นายนพพล งามเจริญ อายุ 23 ปี หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท ดีเอสเอ อินเวสดิเดชั่น อยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ 7 ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี ได้เปิดเผยว่า ตนเป็นหัวหน้ายามของบ.ดังกล่าว ได้เข้ามาตรวจที่ป้อมยามด้านหน้าซึ่งเป็นที่ผู้ตายประจำอยู่ ตอนเวลาประมาณ 02.00 น. โดยที่ด้านในของบริษัทจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกคนหนึ่งคือนายทองสา ทินเพ็ง อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ บ.กรุ๊ปโฟร์ ตอนที่เข้าไปตรวจตนได้พูดคุยกับผู้ตาย ว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติหรือไม่

สงสัยว่าจะเป็นแก๊งวัยรุ่นที่จะเข้ามาขอพื้นที่จอดรถแต่ผู้ตายไม่อนุญาต

นายนพพล กล่าวอีกว่า ผู้ตายได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้มีกลุ่มวัยรุ่น ขับรถกระบะสีบรอนซ์เงิน ติดสปอยเลอร์ เข้ามาขอจอดรถภายในลานจอดรถด้านใน แต่ผู้ตายไม่อนุญาตให้จอด ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวแสดงความไม่พอใจ และเร่งเครื่องขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายหรือไม่ ซึ่งตนมาทราบเรื่องผู้ตายหลังจากที่คนงานก่อสร้างเข้ามาทำงานตอนเช้า

"ก่อนหน้านี้ ผู้ตายได้ขอลางานวันนี้( 25 ก.ค.) เพื่อที่จะไปหาหมอ เพราะไม่ค่อยสบาย พร้อมกันนี้ได้ขอลาออกจากงานด้วย โดยระบุว่าต้องการกลับบ้านไปพักผ่อนที่บ้านต่างจังหวัด เพราะอายุมากแล้ว แต่ก็มากลายเป็นศพไปเสียก่อน " นายนพพลกล่าว ด้าน พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า บริษัทที่ผุ้ตายทำงานรักษาความปลอดภัยนั้น ยังก่อสร้างไม่เสร็จ โดยบริษัทดังกล่าวจะเปิดทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรอุตสาหกรรม ปกติผู้ตายจะทำงานคู่กับนายทองสา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอีกบริษัทหนึ่ง โดยผู้ตายจะดูแลบริเวณป้อมยามด้นหน้า เพื่อนคู่กะจะดูแลบริเวณด้านใน ก่อนเกิดเหตุมีหัวหน้ายามเข้ามาตรวจตราความเรียบร้อย และในช่วงเวลา 03.00 น.จะมีเจ้าหน้าที่สายตารวจเข้ามาตรวจอีกรอบซึ่งไม่พบสิ่งปกติ

หลังจากนั้นมีการการตรวจสภาพร่องรอยของศพและจุดเกิดเหตุ

"จากการตรวจสอบสภาพศพผู้ตายถูกทำร้ายด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอยด้านหลัง ค้นในตัวพบแต่ซองโทรศัพท์มือถือ แต่เครื่องโทรศัพท์มือถือได้หายไป เบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการตาย จากทะเลาะวิวาทและชิงทรัพย์ ซึ่งหลังเกิดเหตุเพื่อนรปภ.ที่ทำงานคู่กะเดียวกันได้หายตัว ซึ่งจะต้องติดตามตัวมาสอบสวนว่ามีเกี่ยวข้องหรือไม่" พล.ต.ต.วิทยา กล่าว