ทรท.ไปอังกฤษ อวยพรทักษิณ

อดีตกลุ่ม"ไทยรักไทย"เตรียมเหินฟ้าแสดงความยินดี"ทักษิณ"


สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าวว่าอดีตแกนนำและ ส.ส. พรรคไทยรักไทย เตรียมเดินทางไปกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อเยี่ยมเยียนและอวยพรวันคล้ายวันครบรอบ 58 ปี ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ รวมทั้งไปร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับทีมบาเลนเซีย ที่เป็นการเปิดตัว พ.ต.ท.ทักษิณในฐานะประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นครั้งแรกนั้น 


ก๊วน ทรท.ลัดฟ้าเบิร์ธเดย์ “ทักษิณ”


ผู้สื่อข่าวรายงานจากกลุ่มไทยรักไทยว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 24 ก.ค. นายประชา ประสพดี อดีต ส.ส.สมุทรปราการ กลุ่มไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยจะเดินทางไปเยี่ยมและอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศอังกฤษ ว่า คาดว่าจะมีการเดินทางไปในวันที่ 25 ก.ค. ตอนนี้กำลังเตรียมในเรื่องตั๋วเครื่องบินอยู่ ถ้าไม่มีอะไรขัดข้องก็จะออกเดินทางไปที่ฮ่องกงก่อนแล้วค่อยต่อเครื่องไปประเทศอังกฤษ  แต่บางคนก็อาจจะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษเลย โดยมีอดีต ส.ส.บางส่วนที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไป แต่ปรากฏว่ามีการเลื่อนออกไป ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าจะเหลือกี่คนที่เดินทางไป แต่ เท่าที่คุยกันก็มีประมาณสิบกว่าคน โดยทุกคนอยากไปแบบเงียบๆเหมือนไปพักผ่อน ทั้งนี้ ยอมรับว่าอาจจะมีแกนนำพรรคเก่าๆเดินทางไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณด้วย เหมือนไปในฐานะตัวแทนน้องๆอดีต ส.ส.ที่ไม่ได้ไป 


เหมาเครื่องบินไปอวยพร 290 คน


นายประชากล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้ไป ช่วงวันที่ 26 ก.ค.นี้ ก็จะมีอีกช่วงหนึ่ง คือวันที่ 4 ส.ค. ที่จะมีการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับทีมบาเลนเซีย ช่วงนั้นถือเป็นโอกาสดีที่เราจะเดินทางไป เพราะจะได้ดูกีฬาด้วย ซึ่งทีมแมนฯซิตี้ ก็ถือเป็นสมบัติของคนไทย และก็เป็นชื่อเสียงกับประเทศไทยให้ทั่วโลกรู้จัก คาดว่าน่าจะมีคนไปในช่วงเวลาดังกล่าวเยอะมาก ส่วนตัวอยากให้มีการยกคณะไทยรักไทยไปทั้งหมด 290 คน เหมาเครื่องไปกันให้หมด กลับมาจะได้สดใสกันมากขึ้น คิดว่าจะเสนอเรื่องนี้ดูว่าจะมีใครเห็นด้วยหรือไม่ คนอื่นๆที่อยากไปดูกีฬา ไปดู ทีมฟุตบอลของคนไทยก็สามารถไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย ก็เชิญไปด้วยกัน ดีกว่าหลบๆซ่อนๆไปกัน


ทรท.ประชุมกรรมการบริหารนัดแรก
 


นายสุรชัย เบ้าจรรยา คณะกรรมการบริหารกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารกลุ่มไทยรักไทยชุดใหม่ จะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 25 ก.ค. เวลา 14.00 น. ณ ที่ทำการกลุ่มไทยรักไทย อาคารไอเอฟซีที ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยวาระการประชุมจะมีการคัดเลือกผู้บริหารกลุ่ม จำนวน 9-11 คน และคาดว่าจะมีการคัดเลือกชื่อพรรค การวางโครงสร้างการทำงาน เช่น การแต่งตั้งประธานภาค ตลอดจนการเตรียมพร้อมสำหรับจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ด้วย


ประเกียรติ อ้าง ทักษิณ จ้างมา


ส่วนกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า นายประเกียรติ นาสิมมา และนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ได้ยุติการทำหน้าที่ทีมทนายความตระกูลชินวัตรไปแล้วนั้น นายประเกียรติได้เปิดแถลงข่าวที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทารา แกรนด์ ว่า ไม่ทราบว่าทำไมนายนพดลถึงออกมาพูดเช่นนั้น เพราะล่าสุดที่ออกมาพูดถึงเรื่องการจัดสัมมนากระบวนการยุติธรรมไทย ก็ไม่ได้บอกว่าทีมทนายจะเป็นแกนหลักในการจัดเวทีสัมมนา เพียงแต่นายวิบูลย์ แช่มชื่น ทีมทนายความตระกูลชินวัตร ที่เป็นเลขาธิการแนวร่วมกฎหมายนักวิชาการเพื่อสิทธิมนุษยชนด้วย ต้องการเข้ามาสนับสนุนในการจัดงานกับเรา ก็มีแนวคิดตรงกันก็เห็นว่าน่าจะจัดสัมมนาที่สหประชาชาติ แต่ก็ไม่คิดว่าการสัมมนาดังกล่าวจะทำให้เกิดภาพว่า ทีมทนาย พ.ต.ท. ทักษิณจะไปฟ้องสังคมโลก เพราะเห็นว่าเป็นการสัมมนาเชิงวิชาการที่จะพูดถึง คตส.ว่า ได้ออกระเบียบโดยชอบหรือไม่ชอบ เรื่องคดีต่างๆที่มีการกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงเรื่องต่างๆที่วินิจฉัยแล้ว 


คุณนพดลคงสำคัญตัวผิดไปนิดนึงว่าเป็นนายจ้าง

เข้าใจผิดว่าการทำงานของผมและคุณวิชิต เกี่ยวข้องกับคุณนพดล จึงมาพูดผ่านสื่อมวลชนว่ามีอำนาจโยกย้ายแต่งตั้ง ทั้งที่การทำหน้าที่ของผมก็ทำตามที่ตกลงกันไว้ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณไม่จ้างเราคงไม่มาทำ และถ้าเราไม่อยู่ในตำแหน่งนี้คงไม่มาทำอย่างนี้ แต่ที่แน่ๆเราไม่ได้ถูกรับคำสั่งจากคุณนพดลให้มาทำอย่างนี้แน่นอน ผมก็เป็นทนายอาชีพ ไม่ใช่ทนายนักการเมือง เมื่อเป็นส.ว.ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่” นายประเกียรติกล่าว 


“วิชิต” หยามไม่ให้ราคา “นพดล”
 


นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทีมทนายความตระกูลชินวัตร กล่าวว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณได้มอบหมายและได้ ตกลงหน้าที่กันภายในว่า นายนพดลจะพูดถึงเรื่องส่วนตัว ประเด็นการเมืองต่างๆที่เป็นรายวันและประเด็นทางกฎหมาย ส่วนตนและนายประเกียรติก็จะทำหน้าที่ที่เกี่ยวกับคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะฟ้องร้อง แต่ตนก็จะพูดในฐานะอดีต ส.ส.ด้วย เพราะว่าเคยอยู่ในพรรคไทยรักไทยมาก่อน  “ผมทำงานกับ พ.ต.ท.ทักษิณมา 8 ปี ซึ่งนายประเกียรติกับผมก็เป็นผู้ใหญ่กว่านายนพดล จึงไม่อยากให้เกิดภาพความขัดแย้ง แต่ก็ต้องบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเคยแต่ให้คุณผมมาก่อน สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย ก็ตั้งผมมาเป็นวิปรัฐบาล เป็นกรรมการบริหารพรรค ผมจึงไม่ค่อยเชื่อคุณนพดลจะพูดอย่างนั้นกับสื่อออกไป แต่บางทีเขาอาจแถลงไม่หมด ตอนนี้ผู้ใหญ่ก็คุยกันแล้ว คุณนพดลเองก็รับปากว่าจะคุยกับสื่อในเรื่องนี้ให้” นายวิชิตกล่าว 


ยูเอ็นไม่ให้ใช้สถานที่ประณาม คมช.


นายวิบูลย์กล่าวว่า ตามที่เคยมีการแถลงว่าจะมีการจัดประชุมทางวิชาการ เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายว่าด้วยความมั่นคง และกฎบัตรสหประชาชาติ ด้านสิทธิมนุษยชน ในวันที่ 15 สิงหาคม ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้เจ้าของตึกมีท่าทียึกยัก ไม่ต้องการให้มีการจัดงาน โดยอ้างว่าผู้มีอำนาจฝ่ายไทยขอมา จึงต้องการชี้แจงให้ทราบถึงวัตถุประสงค์จัดงานเพื่อส่วนรวม ให้เกิดความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง จึงขอความอนุเคราะห์ ความเป็นอิสระทางวิชาการ และสิทธิเสรีภาพในการประชุม สถานการณ์ในขณะนี้จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจว่า เหตุใดต่างชาติไม่ เชื่อถือและหันไปลงทุนที่อื่น เพราะหากไม่ใช้เวทีนี้ชี้แจง ภาพลักษณ์ของไทยจะไม่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความจำเป็นที่ต้องคุยถึงสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ อาทิ การให้ฝ่ายตุลาการมาก้าวก่ายนิติบัญญัติ หรือการระบุนิรโทษกรรมล่วงหน้าไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นการนิรโทษความผิดที่จะเกิดในอนาคต เป็นการผิดหลักนิติธรรมสากลเป็นอย่างยิ่ง 


ยอมรับทำเพื่อปกป้อง “ทักษิณ”


“นอกจากนี้ ยังต้องพูดถึงคดียุบพรรคไทยรักไทย ที่ใช้กฎหมายย้อนหลัง การสั่งอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัว รวมไปถึงไม่อยากให้การลงประชามติเป็นการหลอกใช้อำนาจประชาชนฟอกความผิดของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หากเปิดใจกว้างรับฟังความเห็นของนักกฎหมายนานาชาติก็จะรู้ว่าเขายึดถือหลักกฎหมายอย่างไร อย่างไรก็ตาม ทางยูเอ็นยังไม่ตอบรับอนุญาตให้จัด จึงไม่รู้ว่า ยูเอ็นเป็นของประชาชนหรือผู้มีอำนาจในประเทศกันแน่” นายวิบูลย์กล่าว  ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ถูกมองว่าทำเพื่อปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ นายวิบูลย์ตอบว่า ปฏิเสธความจริงไม่พ้น เพราะส่วนตัวชื่นชอบผลงาน พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะเดียวกันเห็นว่าควรต้องปรับปรุงในบางเรื่องเหมือนกัน หาก พ.ต.ท.ทักษิณผิดจริงให้ศาลตัดสิน


“นพดล” อ้างผู้ใหญ่ให้แถลงข่าว
 


นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และตระกูลชินวัตร กล่าวว่า ตนได้แถลงข่าวไปตามมติที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ของทีมทนาย ซึ่งเห็นว่านายวิชิตและนายประเกียรติเป็นคนที่มีความสามารถทำงานด้านอื่นได้ โดยหลังจากนี้หากทั้ง 2 บุคคลจะแถลงอะไรก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับทีมทนาย ยืนยันว่าการทำงานของทีมทนายเราเป็นไปตามลำดับขั้น เป็นมติที่ประชุมและได้มีการหารือกับผู้ใหญ่ตลอด  “ผมทำงานในตำแหน่งนี้มา 7-8 เดือน คนอื่นมาทำงานก็เป็นเรื่องของเขา แต่ผมก็ผ่านช่วงเวลายากลำบากมา หากนายวิชิตและนายประเกียรติรู้สึกไม่พอใจและต่อว่าผมก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ เพราะการให้สัมภาษณ์อย่างไรก็สะท้อนถึงวัยวุฒิคนนั้น แต่การทำหน้าที่ทนายความก็ต้องมีวินัย เก็บรักษาความลับ การแถลงข่าวที่บอกว่าทั้ง 2 คนได้ยุติการทำหน้าที่ ก็เป็นเพราะผู้ใหญ่ขอให้ผมออกมาพูด ผมเป็นนักรบไม่คิดเล็กคิดน้อย” นาย นพดลกล่าว 


แนะลูกความเลิกให้ข้อมูล คตส.


นายนพดลกล่าวถึงกรณีที่ประชุมใหญ่ คตส.มีมติเห็นชอบให้นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบคดีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกฯ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ นางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน และนางบุษบา ดามาพงศ์ ภรรยานายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรมคุณหญิงพจมาน ฐานไม่ให้ความร่วมมือในการให้ถ้อยคำ กับคณะอนุกรรมการไต่สวนการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาครอบครัวชินวัตรได้ให้ความร่วมมือแก่ คตส. เดินทางเข้าชี้แจงซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายครั้ง นางกาญจนาภาไปให้ข้อมูลถึง 4 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าได้ให้ ความร่วมมือมาตลอด แต่สิ่งที่ครอบครัวชินวัตรและคนใกล้ชิดได้รับจาก คตส. คือการเอาข้อมูลที่ชี้แจงกลับมาทิ่มแทงคนในครอบครัวชินวัตรเอง ตั้งหน้าตั้งตาเอาผิด อายัดทรัพย์ต่อเนื่องนับสิบครั้ง ถือว่า คตส.ไม่มีความเป็นธรรม


อ้างเป็นการใช้สิทธิในรัฐธรรมนูญ


“ทั้งนี้ จากการหารือของคณะทนายความได้ลงความเห็นว่า จะใช้สิทธิที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญ คือ ถ้าหากคำให้การของคนในครอบครัวชินวัตร จะส่งผลให้ต้องได้รับโทษทางอาญา เนื่องจาก คตส.นำคำให้การนั้นมาเป็นเหตุดำเนินคดีแล้ว เราก็จะขอปฏิเสธให้ข้อมูลในชั้นคตส. โดยยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาบิดพลิ้ว แต่เป็นการดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญรองรับไว้ อย่างไรก็ตาม หากคตส.ดำเนินคดีอาญาจริง ทางคณะทนายความก็จะส่งตัวแทนไปพบเจ้าพนักงานตำรวจ มั่นใจว่าจะชี้แจงและพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่า คำให้การของคนในครอบครัวชินวัตรเป็นผลร้ายต่อตัวเขาเอง” นายนพดลกล่าว


ไอซีทีจับตาเว็บไซต์ ทรูทักษิณ


นายนพดลกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการตรวจสอบเงินที่ซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โอนเงินจากบริษัทไทยซัมมิท ผ่านธนาคารบาร์เคลย์ ประเทศอังกฤษนั้น เรื่องนี้เป็นเพียงข้อกล่าวอ้าง ขอยืนยันว่าเงินที่ไปซื้อสโมสรฟุตบอลของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเงินสะอาดบริสุทธิ์ พร้อมให้ตรวจสอบทุกเมื่อ ใครอยากที่จะตรวจสอบก็ขอให้ตรวจสอบได้เลย เพราะเงินที่ซื้อนั้นเป็นเงินที่สะอาด อีกทั้งทางประเทศอังกฤษเองมีการตรวจสอบอย่างละเอียดและเข้มข้น ถ้าเป็นเงินที่ไม่บริสุทธิ์จริง ทางนั้นคงไม่ให้ ผ่านเข้าไปแน่นอน แต่ทางเราก็สามารถผ่านเข้าไปได้ โดยในวันที่ 25 ก.ค.นี้ เวลา 11.00 น. จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ รวมทั้งจะพูดถึงการเปิดตัวเว็บไซต์ www.truethaksin.com โดยจะเป็นวันแรกที่ พ.ต.ท. ทักษิณสื่อสารถึงผู้สนับสนุนผ่านทางเว็บไซต์ด้วย   ทางด้านนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)

ซึ่งตัวเว็บไซด์ถ้ามีเนื้อหาผิดกฎหมายจะถูกปิดทันที

 กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเปิดเว็บไซต์ เพื่อเผยแพร่ประวัติการทำงานและวิสัยทัศน์ต่างๆ มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบอยู่แล้ว ถ้าพบว่ามีเนื้อหาผิดกฎหมายก็ต้องถูกสั่งปิด และดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย แต่เบื้องต้นคงไปห้ามไม่ให้เปิดไม่ได้ เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะเปิดเว็บไซต์ได้ 


บัวแก้วขอดูเนื้อหาหนังสือทักษิณ


นายธฤต จรุงวัฒน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกหนังสือ “24 ชั่วโมงของทักษิณภายหลังรัฐประหาร” เป็นภาษาจีน ที่งานฮ่องกงบุ๊กแฟร์ 2007 ว่า กระทรวงการต่างประเทศกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ในข้อความภายในหนังสือดังกล่าวเรายังไม่ทราบรายละเอียดของเนื้อหาภายในหนังสือนั้น  ว่าจะส่งผลกระทบต่อความเข้าใจของต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยหรือไม่ ตรงนี้ตนยังไม่ขอพูดถึงท่าทีของกระทรวงต่อเรื่องนี้  แต่จะศึกษาในรายละเอียดภายในหนังสือก่อน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ต้องดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ และเรื่องนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาเล่าเรื่องของตนเอง และเหตุการณ์ในประเทศไทย เราไม่มีหน้าที่ที่จะไปตอบโต้เรื่องที่เกิดขึ้นทุกครั้ง แต่มีข้อเท็จจริงอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น หรือจะต้องชี้แจงที่สืบเนื่องมาจากเรื่องไม่จริง  เราก็ต้องอธิบายให้ต่างชาติได้รู้ว่าความจริงคืออะไร 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์