บิ๊กบัง เผยอนาคตหลังเกษียณ

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
 
ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงอนาคตทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ ในรายการ “ข่าวเข้ม ประเด็นข้น” ทาง FM 96.5 อสมท. เช้าวันนี้ (13 ก.ค.) ว่า อนาคตเป็นเรื่องของอนาคต จะบอกว่าได้หรือไม่ได้ ใช่หรือไม่ใช่ ต้องการหรือไม่ต้องการ ในขณะนี้คงไม่ได้ ขณะนี้ยังมีเวลา การที่จะทำอะไรสักอย่างต้องมีองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้น ปัญหาอยู่ที่ว่าเวลานี้องค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านั้น มีพร้อมหรือยัง 

ยังมีเวลาอีกหลายเดือน ผมคิดว่า

 “ถ้าคิดจะทำ ต้องดูว่าองค์ประกอบของเราพร้อมหรือยัง การที่จะเข้าไปทำงานพวกนี้ ที่สำคัญคือ ตัวเราเองพร้อมหรือยัง สังคมหรือประชาชนยอมรับเราแค่ไหน ผมคิดว่าสิ่งนี้คือปัจจัยสำคัญ ส่วนพรรคการเมือง หรืออื่น ๆ ผมคิดว่าเป็นส่วนประกอบมากกว่า ผมคิดว่ายังมีเวลาสำรวจความพร้อมของตัวเอง” พล.อ.สนธิ กล่าว

ส่วนเสียงเตือนจากรุ่นพี่

เช่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หรือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ให้พิจารณาให้รอบคอบนั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ทุกคนไม่รู้ว่า ตนมีความพร้อมหรือไม่พร้อมอะไร อย่างไร และส่วนตัวยังไม่ได้บอกว่าจะเดินหน้าในทางการเมือง หรือจะไปทางไหน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่จะต้องประเมินตัวเองว่า เรามีความเหมาะสมที่จะไปสู้กับการเมือง ที่เขาพูดกันว่าน่ากลัวอย่างนั้น อย่างนี้หรือไม่ 

 “ในช่วงเวลาที่เหลือ ผมต้องประเมินตัวเอง ประเมินสังคม ประเมินประชาชน ต้องศึกษาว่าเรามีศักยภาพ มีฐานข้อมูลเพียงพอหรือยัง ถ้าผมจะเล่นการเมือง ผมต้องศึกษาสังคมที่เป็นส่วนของประชาชนล้วน ๆ ที่จะเป็นผู้ที่กาบัตรให้เรา เป็นเรื่องรายบุคคล ซึ่งผมคิดว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญยิ่งในเวลานี้” พล.อ.สนธิ กล่าว

  พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยว่า

มีวิธีการประเมินปัจจัยต่าง ๆ และได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลที่ออกมาจะเป็นตัวกำหนดว่าจะเดินไปทางใด เวลานี้มองว่าชีวิตมีทางเดินข้างหน้า 4 ทาง ซึ่งเป็นทางที่จะต้องกำหนดว่า ทางไหนเดินไปได้หรือไม่ และว่าทุกคนต่างต้องการจบอย่าง Happy ending เสมอ พร้อมกับเปรียบเทียบชีวิตเหมือนกับการเล่นว่าว ถ้าปล่อยให้ว่าวติดลมบน แสดงว่าคนนั้นขาดเรื่องธรรมะ 

“คนเราจะเดินถึงจุดไหน ถ้ารู้ว่าปลายทางของชีวิตคืออะไร ก็จะรู้จักพอ รู้จักจบจักสิ้น ถ้าคนเราขาดการไม่รู้จักพอ เชื่อว่าว่าวตัวนั้นจะขาดลอย ถ้ารู้จักพอก็จะค่อย ๆ สาวตัวเองลงมา ถ้าเราอยากจะลงดีหรือไม่ดี ก็อยู่ที่ตัวเรา อย่าให้ใครมาชักจูง ดึงเราจนลงมาไม่ได้ แล้วจะขาดลอยไป ผมขอเป็นว่าวที่จะติดลมบน ก็ติดลมด้วยตัวเอง และถ้าจะลง ก็ขอลงด้วยตัวเอง” พล.อ.สนธิ กล่าว

นอกจากนี้
 
พล.อ.สนธิ ยังปฏิเสธเรื่องการไปร่วมกับพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เวลานี้มีชื่อ พล.อ.สนธิ ไปโผล่ที่พรรคนั้น พรรคนี้ ทั้งพรรคที่มีอยู่แล้ว และพรรคที่กำลังจะเกิดใหม่ โดยกล่าวว่า ไม่เคยได้ยินว่ามีใครมาชวน ยังไม่มีใครมาชวน เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผู้ฟังต้องใช้วิจารณญาณ คนเดียวคงอยู่หลายที่ไม่ได้ ขอให้ฟังจากปากตนเอง อย่าไปฟังเสียงร่ำลือ ส่วนจะมีความชัดเจนเมื่อไร ขอให้ติดตามดูต่อไป และย้ำว่าปัจจัยต่าง ๆ ที่ศึกษาอยู่ จะเป็นตัวกำหนดว่าจะตัดสินใจอย่างไร ไม่มีใครมาชี้ให้ได้