สรรพากรเตือนโอ๊ค-เอม รีบจ่าย ภงด. 1.2 หมื่นล.

อธิบดีกรมสรรพากร ระบุ

พานทองแท้ และ พิณทองทา ชินวัตร เจ้าหน้าที่ได้ออกหนังสือประเมินภาษีจากทั้ง 2 คน แล้ว แต่ขณะนี้ทั้ง 2 คน ยังไม่ได้มารับทราบการประเมิน

นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึง

ความคืบหน้าในการเรียกเก็บภาษีเงินได้จาก นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้ออกหนังสือประเมินภาษีนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร จากการได้มาซึ่งหุ้นชินคอร์ป จากบริษัท แอมเพิลริช อินเวสต์เมนท์ เพื่อให้มารับทราบผลการประเมินและเสียภาษีภายใน 30 วัน แต่ขณะนี้ทั้ง 2 คน ยังไม่ได้มารับทราบการประเมิน

อย่างไรก็ตาม

ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ประเมินภาษีของสรรพากรได้ออกหนังสือประเมินภาษีจากทั้ง 2 คน แล้ว 5.6 พันล้านบาท บวกค่าปรับอีก 1 เท่า หรือ 5.6 พันล้านบาท รวมเงินที่ต้องจ่าย 1.12 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเงินเพิ่มที่ต้องเสียค่าปรับ อีก 1.5% ต่อเดือน ของเงินภาษีที่ยังจ่ายไม่ครบ

นายศานิต กล่าวว่า

การเก็บภาษีหุ้นจากนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ 546 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการอุทธรณ์ภาษี ขณะที่การเก็บภาษีหุ้นจากบริษัท แอมเพิลริช 2 หมื่นล้านบาทนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่


ทั้งนี้ นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา

สามารถส่งตัวแทนมารับทราบการผลประเมินภาษีได้ และหากไม่เห็นด้วยกับการประเมิน ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ภาษีเพื่อแสดงความเห็นแย้งภายใน 30 วัน หลังจากที่ได้รับหนังสือประเมิน บุคคลทั้งสอง จะต้องหาหลักทรัพย์ 1.12 หมื่นล้านบาท จะเป็นเงินสด หรือแบงก์การันตีก็ได้ตามหลักของการอุทธรณ์ภาษี

อย่างไรก็ตาม

หากนายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา หรือตัวแทนของทั้ง 2 คน ไม่มารับทราบการประเมินภาษีจากกรมสรรพากร และไม่ยอมจ่ายภาษีภายใน 30 วัน กรมสรรพากรก็จะต้องพิจารณาว่า จะออกหนังสือเตือนให้มารับทราบการประเมิน หรือจะใช้ อำนาจอธิบดีกรมสรรพากรตามมาตรา 12 กฎหมายประมวลรัษฎากร เพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์ของทั้ง 2 คน มาจ่ายภาษีให้ครบทั้งจำนวนที่ถูกประเมิน

แต่เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษี

ควรจะเตือน 2 ครั้ง จะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งผู้เสียภาษีในภายหลัง แต่หากเตือนแล้วไม่เสียภาษี ก็ต้องใช้อำนาจอธิบดีกรมอายัดหรือยึดทรัพย์ขายทอดตลาด