โวยรพ.จ่ายยาผิด เป็นเจ้าชายนิทรา

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 ก.ค.

นายอนุสรณ์ จารุวัฒนานุกูล อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/89 หมู่บ้านปริญญดา ซอยเสมอ ดามาพงศ์ ถนนนาคนิวาส แขวง-เขตลาดพร้าว กทม. เดินทางมาร้องเรียนที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พร้อมกับหอบ หลักฐานเอกสารบันทึกการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน

ระบุวันที่ 17 มิ.ย.

ว่าโรงพยาบาลเพชรเวช ถนนเพชรบุรี แขวงห้วยขวาง เขตบางกะปิ จ่ายยาผิด ทำให้ นายจิระเดช จารุวัฒนานุกูล อายุ 72 ปี บิดาต้องกลายเป็นผู้ป่วยอาการโคม่า นอนไม่ได้สติอยู่ในห้องไอซียูนานร่วม 20 กว่าวัน โดยนำตัวยาแก้โรคเบาหวานบรรจุอยู่ ในซองโรงพยาบาลเพชรเวช ระบุชื่อยา DEPIZIDE ที่ทางโรงพยาบาลสั่งจ่ายมาแสดงเป็นหลักฐาน

นายอนุสรณ์ลำดับเหตุการณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า

บิดาเป็นคนไข้ประจำของโรงพยาบาลดังกล่าว เข้ารับการรักษาด้วยโรคมือเท้าสั่น (พาร์กินสัน) แต่สามารถพูดคุย เดินได้ตามปกติ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยนางศรีประไพ ราชเสม อายุ 45 ปี พาคนไข้มาตรวจและรับยาตามนัดแพทย์

หลังจากแพทย์ เวรตรวจดูอาการแล้ว ให้รอรับยาที่ห้องจ่ายยา

ปรากฏว่าเภสัชกรได้จ่ายยาแก้โรคเบาหวานเพิ่มมาให้อีก 1 ชุด กินเช้า-เย็น พอกลับมาบ้าน คนไข้ได้กินยาตามแพทย์สั่งได้เพียง 5 ครั้ง ในวันที่ 12 มิ.ย. คนไข้เกิดอาการช็อกและชัก เกร็งจนหมดสติ จึงรีบนำตัวส่งมาโรงพยาบาลเพชรเวชอีกครั้ง เบื้องต้นนายแพทย์สุโรจน์ พลาลิขิต เข้าตรวจดูอาการ และรีบนำคนไข้เข้าห้องไอซียู พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดลดฮวบ เหลือเพียงแค่ 4 เท่านั้น และนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน คนไข้ต้องนอนแบบไร้สติ กลายเป็นเจ้าชายนิทรา  


นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า

จากนั้นได้สอบถามถึงสาเหตุจากแพทย์และผู้เกี่ยวข้องอยู่หลายครั้ง กลับไม่ได้ รับคำชี้แจงที่ชัดเจนว่าคนไข้เป็นอะไร หรือแสดงความรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับบ่ายเบี่ยง อ้างว่าต้องรอการวินิจฉัยของแพทย์ไปเรื่อยๆ อีกทั้งมีข้อพิรุธ

หลังจากคนไข้ได้กินยาแก้โรคเบาหวานตามแพทย์สั่งเข้าไป

ทางโรงพยาบาลได้พยายามติดต่อขอให้ทางญาติพี่น้องนำตัวยาทั้งหมดกลับส่งคืนโดยไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบ เมื่อเห็นว่าไม่ได้รับความกระจ่างจากทางโรงพยาบาล จึงต้องเข้ามาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนดังกล่าว พร้อมจะเดินหน้าหาความจริงให้ปรากฏ โดยจะไปร้องต่อแพทยสภา และกรมการประกอบโรคศิลปะ

โดยขณะนี้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในสภาพวิตกกังวลและเครียดกันทุกคน

เมื่อเห็นภาพผู้เป็นที่รักของครอบครัวเป็นเช่นนี้ ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบหลักฐานจากทะเบียนเวชกรรม เพื่อดูประวัติการรักษาคนไข้รายนี้ พบว่าในวันที่ 9 มิ.ย. การตรวจของแพทย์ไม่ได้ระบุว่าคนไข้เป็นโรคเบาหวาน หรือเข้ารับการเจาะตรวจเลือดเพื่อวัดปริมาณของน้ำตาลแต่อย่างใด

ส่วนในห้องไอซียู สภาพของคนไข้ นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียง

ร่างกายบวม มีสายระโยงระยาง และใช้เครื่องออกซิเจนช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นได้ติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงจากทาง รพ. ซึ่งก็ได้รับการเปิดเผยจากนายสมพงษ์ สนกนก ผอ.โรงพยาบาลเพชรเวช ฝ่ายบริหาร ยอมรับว่าเกิดการผิดพลาดจากตัวบุคคล ที่เกิดจากการจ่ายยาของเภสัชกร แต่ไม่ได้ ทอดทิ้งคนไข้ รับผิดชอบต่อการรักษาคนไข้เต็มที่ ไม่ได้ ปฏิเสธการรักษาแต่อย่างใ ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการขึ้นมา สอบสวนเป็นการภายในแล้วว่า ขั้นตอนคลาดเคลื่อนตรงไหน

เบื้องต้นทราบผลว่าเกิดจากการจ่ายยา

แต่ไม่เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ซึ่งทีมแพทย์อยู่ระหว่างทำการรักษาและวินิจฉัยโรคที่เกิดขึ้น ว่าเกิดจากอะไร ยังไม่ได้สรุปว่าเกิดจากการจ่ายยา หรือเกิดจากระบบสมอง ต้องรักษาจนกว่าจะทราบผล อาจทำให้ญาติคนไข้วิตกกังวล ทางโรงพยาบาลไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ มีการพูดคุยในเรื่องความรับผิดชอบของทางโรงพยาบาลตลอดเวลา แต่ด้วยอารมณ์ที่เกิดจากความวิตกกังวลต่อคนไข้ จึงยังไม่สามารถหาข้อสรุปออกมาได้ว่าต้องให้ทางโรงพยาบาลดำเนินการอย่างไร
 
ซึ่งไม่ใช่ว่าทางโรงพยาบาลรับผิด

แต่เป็นความรับผิดชอบที่ทางโรงพยาบาลมีต่อญาติคนไข้ และพร้อมจะดำเนินการทุกอย่างให้ทางญาติเกิดความพึงพอใจ เพียงขอให้ทีมแพทย์เฉพาะทางในด้านต่างๆวินิจฉัยสาเหตุที่ชัดเจนเสียก่อนว่าเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์