ป๋าชื่น สู้คดีหมิ่นเบื้องสูง ออกโฉนดที่ทหารขายไฮโซ

ป๋าชื่น สู้คดีหมิ่นเบื้องสูง ออกโฉนดที่ทหารขายไฮโซ


เมื่อวันที่3ส.ค. ที่ห้องพิจารณา907ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐานคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ.1716/2558ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา9เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายบุญธรรม หรือ ป๋าชื่น บุญเทพประทาน อายุ65ปี กรรมการผู้มีอำนาจบริษัท บ้านชุมทอง จำกัด และบริษัท เขาใหญ่ เบเวอร์ลี่ฮิลล์ จำกัด เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นองค์รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112

ตามฟ้องของอัยการโจทก์เมื่อวันที่15พ.ค.58 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อระหว่างปี2550-2551วันเวลาใดไม่ปรากฏชัดที่ดินบริเวณเขาหนองเชื่อม ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีบางส่วนมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน บางส่วนเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับที่ดินที่ทางฝ่ายทหารมีหนังสือขอใช้พื้นที่อย่างเป็นทางการเมื่อปี2534และบางส่วนเป็นพื้นที่ที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินแห่งชาติได้กันไว้เป็นพื้นที่ทดแทนพื้นที่ต้นน้ำซึ่งไม่สามารถออกโฉนดที่ดินได้

ต่อมานายบุญธรรม จำเลย ซึ่งเป็นเจ้าของและเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ บจก.บ้านชุมทอง และ บจก.เขาใหญ่ฯ ประกอบธุรกิจจัดสรรและซื้อขายที่ดินประสงค์จะนำที่ดินบริเวณดังกล่าว มาขอออกโฉนดเพื่อจัดสรรขายให้ผู้ที่ต้องการซื้อที่ดินไปปลูกบ้านพักตากอากาศในราคาสูงเพื่อทำกำไรให้ได้มาก นายบุญธรรม จึงร่วมมือกับนายเสฏฐวุฒิ หรือ ตั๊ก เพ็งดิษฐ์ จำเลยคดีหมายเลขดำ อ.1666/2558อาชีพนายหน้าค้าที่ดิน ให้ไปดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินบริเวณดังกล่าวซึ่งมีเนื้อที่หลายร้อยไร่ โดยนายบุญธรรม ได้พูดกับนายเสฏฐวุฒิ มีถ้อยคำบางตอนเป็นการแอบอ้าง จาบจ้วง ล่วงเกินที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์รัชทายาท เพื่อให้ตนเองสมประโยชน์ เหตุเกิดที่ ต.ขนงพระอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายบุญธรรม หรือ ป๋าชื่น มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพื่อร่วมกระบวนพิจารณา โดยมีภรรยา บุตรและญาติสนิทมาให้กำลังใจด้วย

ทั้งนี้ศาลได้อ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถาม ปรากฏว่า นายบุญธรรม จำเลย ยืนกรานให้การปฏิเสธตามเอกสารคำให้การ ซึ่งทนายความจำเลยต่อศาลเตรียมพยานนำสืบต่อสู้คดีรวม6ปาก ส่วนอัยการโจทก์แถลงนำสืบพยาน12ปาก พร้อมยื่นเอกสารรวม37ฉบับ และแผ่นดีวีดีบันทึกเกี่ยวกับข้อมูลข่าวเรื่องที่ดินทับซ้อนดังกล่าวใช้เวลานำสืบรวม3นัด ส่วนจำเลยใช้เวลานำสืบ1นัด

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตตามที่คู่ความร้องขอ และนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรก วันที่ 16 ก.พ.59 เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเสฏฐวุฒิ หรือ ตั๊ก เพ็งดิษฐ์ อายุ 52ปี ซึ่งเป็นน้องชายนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นั้น พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา9 ได้ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานเดียวกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112ต่อศาลอาญา เมื่อวันที่12พ.ค.58 โดยนายเสฏฐวุฒิ ให้การรับสารภาพศาลจึงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่14พ.ค.58ให้จำคุก5ปี คำรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุกไว้ 2ปี6เดือน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์