ว่อนเน็ตคนเข้าวัดไม่ถึง50ปลดเจ้าอาวาส เจ้าคณะเมืองเพชรลั่นสั่งจริง

ว่อนเน็ตคนเข้าวัดไม่ถึง50ปลดเจ้าอาวาส เจ้าคณะเมืองเพชรลั่นสั่งจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่หนังสือประทับตราด่วน ที่ออกจากสำนักงานเจ้าคณะจังหวัด (จจ.) หนึ่งในภาคกลาง วันที่ 22 มิถุนายน 2558 ส่งถึงเจ้าคณะอำเภอในเขตปกครองผ่านสังคมออนไลน์ ข้อความในหนังสือระบุว่า


ด้วยการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เจ้าคณะจังหวัดได้มีคำสั่งให้พระสังฆาธิการทุกระดับรีบดำเนินการ

 แต่เท่าที่ติดตามดูการขับเคลื่อนของแต่ละวัด ส่วนมากได้ตระหนักในหน้าที่ และช่วยดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีอีกหลายวัดที่ไม่มีชื่อวัดปรากฏ และอีกหลายวัดที่มีชื่อวัดปรากฏ แต่สถิติคนมาทำบุญที่วัดประจำไม่ถึง 50 คน จึงขอให้เจ้าคณะอำเภอตรวจสอบว่าในอำเภอที่ปกครอง มีวัดไหนบ้างที่มีคนมาทำบุญที่วัดประจำไม่ถึง 50 คน ถ้าเป็นวัดของเจ้าคณะตำบล ให้เจ้าคณะอำเภอออกคำสั่งตำหนิโทษเป็นเวลา 3 เดือน และถ้าพระสังฆาธิการที่ถูกตำหนิโทษยังไม่ดำเนินการตามมติของมหาเถรสมาคม (มส.) อีก


ให้เจ้าคณะผู้ปกครองทำเรื่องเพื่อเสนอขอปลดพระสังฆาธิการรูปนั้น และให้เจ้าคณะจังหวัดออกคำสั่งปลดออกจากตำแหน่ง
ด้วยเหตุขัดมติ มส.และไม่สนองงานคณะสงฆ์จังหวัดฯ ในโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5" ปรากฏว่ามีทั้งพระสงฆ์ และฆราวาส เข้าไปวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อความหนังสือฉบับดังกล่าวมากมายถึงความไม่เหมาะสม


พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง กรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เห็นหนังสือดังกล่าวแล้ว

หากเจ้าคณะปกครองต้องการกำชับพระสังฆาธิการในเขตปกครองให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามคำสั่งของเบื้องบน เพื่อเป็นการกระตุ้นนโยบายหมู่บ้านศีล 5 จึงทำให้เจ้าคณะจังหวัดดังกล่าวออกคำสั่งมาเช่นนี้ ดูแล้วเหมือนเป็นการทำยอด เพื่อใช้ในการประเมินผลเชิงปริมาณของโครงการหมู่บ้านศีล 5 จากคำสั่งดังกล่าวทำให้คนมองว่านอกเหนือจากการเชิญชวนให้ประชาชนมาเข้าร่วมโครงการแล้ว ยังกลายเป็นการบังคับให้โยมเข้าวัดไม่ก่อให้เกิดผลดีเชิงบวกใดๆ เลย การออกคำสั่งเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับการขายสินค้า ที่ต้องทำยอดตามหัวหน้าสั่ง


พระมหาไพรวัลย์กล่าวอีกว่า ไม่ทราบว่าผู้ที่ออกคำสั่งดังกล่าวคิดอะไรอยู่หรือคิดว่าเมื่อออกคำสั่งเช่นนี้ จะทำให้นโยบายโครงการหมู่บ้านศีล 5 ประสบความสำเร็จได้


จากที่อาตมาได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงโครงการนี้ หลายคนบอกว่าเรื่องศีล 5 อยู่ในวิถีชีวิตมาตลอด ต่อให้รณรงค์ก็ไม่ได้ช่วยส่งผลอะไรมากมายนัก หมายความว่าวิธีการนำศีล 5 เข้าไปในวัด หรือชุมชน ยังไม่ตอบโจทย์ในเชิงคุณภาพ หรือยังไม่สามารถทำให้คนในสังคมหันหน้าเข้าหากันและอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข เกิดความปรองดองสามัคคีกันตามแบบที่โครงการอยากให้เป็นได้ ประเด็นปัญหาอยู่ที่วิธีการนำเอาศีล 5 ไปสื่อให้ชาวบ้านเข้าใจเรื่องของศีลได้มากน้อยแค่ไหนอย่างไร


นอกจากนี้ สังคมยังได้ตั้งคำถามมากมายว่าการออกป้ายศีล 5 ติดตามวัด หรือหมู่บ้าน จะเกิดผลจนสามารถทำให้คนหันมารักษาศีล 5 ได้จริงหรือ
และเมื่อมีคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดให้พระสงฆ์บังคับชาวบ้านเข้าวัดเกิน 50 คน สังคมก็เกิดคำถามว่า ขณะนี้วัดข่มขืนประชาชนให้ทำบุญแล้วหรือ


"อาตมาไม่ได้ปฏิเสธโครงการหมู่บ้านศีล 5 แต่วิธีดำเนินการบางอย่างมันผิด นอกจากไม่สนับสนุนให้คนเข้าวัดแล้ว ยังทำให้คนรู้สึกเบื่อหน่ายไม่อยากให้ความร่วมมือ เพราะเป็นไปด้วยการบังคับ หากโครงการหมู่บ้านศีล 5 หวังว่าจะทำให้สัมฤทธิผล ต้องเกิดจากความร่วมมือของชาวบ้านที่ยินยอมพร้อมใจ และพระสงฆ์เองต้องมีวิธีในการสอนให้มีมิติหลากหลาย ไม่ใช่สอนแค่เชิงปัจเจก และท่านต้องชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจว่าศีล 5 นอกจากจะปฏิบัติเป็นการส่วนตัวแล้ว ยังต้องคำนึงถึงสังคมส่วนรวมด้วย และควรเน้นให้ประชาชนหันมาสนใจโครงการศีล 5 ในมิติของการมีส่วนร่วมด้วยใจ ไม่ใช่แค่การเอาป้ายไปมอบแล้วติดตามผลเหมือนที่ผ่านมา" พระมหาไพรวัลย์กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เกิดจากความประสงค์ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ต้องการเสริมสร้างความสมานฉันท์ของคนในชาติให้เกิดความสงบสันติสุขและความสามัคคี โดยให้พุทธศาสนิกชนยึดหลักศีล 5 มาปฏิบัติตามกรอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)


จากนั้นได้นำเข้าที่ประชุม มส.และออกเป็นมติ มส.ครั้งที่พิเศษ/2557 เรื่องความเห็นชอบโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์

 โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 และออกเป็นระเบียบ มส.ว่าด้วยการดำเนินงานโครงการหมู่บ้านศีล 5 พ.ศ.2557 โดยอาศัยอำนาจตามความ 15 ตรี แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มีผลบังคับใช้ วันที่ 18 มิถุนายน 2557 หลังจากนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จึงได้สนองงานโดยการร่วมขับเคลื่อนการดำเนินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 และถือว่าโครงการนี้มาจากมติของ มส.ผู้ใดขัด หรือไม่ปฏิบัติตาม ถือว่าขัดต่อ พ.ร.บ.คณะสงฆ์


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีคำสั่งจากพระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม) เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์

สั่งพักงานพระธรรมปัญญาภรณ์ (ไพบูลย์ ชินวํโส) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุ ด้วยสาเหตุที่อ้างว่าไม่สนองงานในการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 โดยไม่สืบสวนใดๆ และหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ได้กล่าวสัมโมทนียกฐาในงานมอบป้ายหมู่บ้านรักษาศีล 5 ที่วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ว่าโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 เป็นโครงการตามมติของ มส.พระสงฆ์ขัดข้องมิได้ เพราะมติ มส.เปรียบได้กับกฎหมาย หากเพิกเฉยอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่อาจทราบได้


ด้านพระวชิรธรรมคณี เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดหนองจอก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ประกาศเจ้าคณะจังหวัดฉบับลงวันที่ 22 มิถุนายน 2558

 
ได้เป็นผู้ออกประกาศถึงเจ้าคณะอำเภอในเขตปกครองคณะสงฆ์ในจังหวัดเพชรบุรีจริง เพื่อขานรับนโยบายของมหาเถรสมาคมที่ต้องการให้วัดต่างๆ ชักชวนให้พุทธศาสนิกชนหันมาเข้าวัดมากขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ชาวพุทธในประเทศเราเคยเรียกร้องให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เราไม่เคยมีฐานข้อมูลที่ชัดเจนว่ามีผู้เลื่อมใสศาสนาเรามากน้อยเพียงใด


"ส่วนที่กำหนดว่าให้แต่ละวัดหาคนเข้าวัดให้ได้อย่างน้อย50คนอาตมาเป็นผู้กำหนดเอง จะได้ 50 คนหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ อาตมามองว่าถ้าแต่ละวัดหาคนเข้าวัดได้น้อยกว่า 50 คนก็แย่แล้ว แต่วัดไหนทำไม่ได้ก็ไม่ได้ไปเคร่งครัดอะไร เป็นกุศโลบายที่ต้องการให้คนเข้าวัดเพื่อเข้าถึงธรรมะกันมากขึ้น ฝึกทำบุญสร้างกุศลกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ถ้าวัดแต่ละวัดไม่ออกแรงกระตุ้น ก็ไม่มีการขับเคลื่อน อาตมาได้ขอให้เจ้าอาวาสและพระในวัดต่างๆ ช่วยกันคุยกับญาติโยมเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนในเรื่องนี้"


เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรีกล่าวต่อว่า การออกคำสั่งตำหนิโทษก็ไม่ได้มีเจตนาตำหนิโทษจริงๆ เพียงแค่อยากกระตุ้นให้วัดในจังหวัดร่วมด้วยช่วยกันเท่านั้น


เนื่องจากเจ้าอาวาสหลายวัดไม่กระตือรือร้นและไม่สนใจในเรื่องนี้เท่าที่ควร ส่วนถึงขนาดจะปลดออกจากตำแหน่งพระสังฆาธิการคงไม่ทำกันถึงขั้นนั้น เพราะการจะปลดมิใช่กระทำกันโดยง่าย ต้องมีเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอเสนอขึ้นมาให้เจ้าคณะจังหวัดพิจารณา มีหลายขั้นตอนที่เป็นรายละเอียด เมื่อตนในฐานะเจ้าคณะจังหวัดปรารภขอร้องอย่างนี้แล้วก็ควรที่จะสนองบ้าง เป็นเจตนาดี อย่าได้มองในแง่ลบ


"ก่อนหน้านี้อาตมาเคยออกประกาศไปครั้งหนึ่งแล้ว สั่งให้วัดต่างๆ ขับเคลื่อนในเรื่องนี้มาแล้ว ให้แต่ละวัดเชิญชวนญาติโยมกรอกข้อมูล มีบัตรประชาชนเป็นหลักฐาน จัดทำข้อมูลคนเข้าวัดลงในอินเตอร์เน็ต วัดต่างๆ ให้ความร่วมมือจากเดิมฐานตัวเลขคนเข้าวัดทั้งจังหวัดจริงๆ มีแค่ 260 คน ขณะนี้เพิ่มมากขึ้นเป็น 37,000 กว่าคนแล้ว อาตมาเห็นว่าได้รับการสนองตอบในทางที่ดี ส่วนถึงขนาดจะปลดพระสังฆาธิการที่ไม่สนองตอบคำสั่ง คงไม่ทำถึงขนาดนั้น สิ่งที่ทำเป็นเพียงแค่กุศโลบายและสนองนโยบายของมหาเถรสมาคม" พระวชิรธรรมคณีกล่าว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์