ทำกันได้ลง!! ธนาคารชื่อดัง ขายที่ดินชาวเพชรบุรีทอดตลาดโดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องมาก่อน!!

"เกษตรกรเมืองเพชร" เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ "ทีนิวส์" หลังพบว่าที่ดินของตนถูกขายทอดตลาด  โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องจนวันที่รถเเทรกเตอร์จะเข้ามาปรับที่ดินเเปลงของตน จึงสงสัยว่า "ทำไมที่ดินของตนถึงถูกขายทอดตลาดทั้งที่มีสัญญาว่า ธกส.หัวหิน ได้ขายที่ดินผืนนี้ให้กองทุนฟื้นฟูเกษตรกรเมืองเพชร" เเล้ว

วันนี้(18 มิ.ย. 58) นางสาวกิมอัง พงษ์นารายณ์ ผู้ประสานงานสภาเครือข่ายองค์กรเกษตรกรแห่งประเทศไทย (สค.ปท.)

และนายวัชรินทร์ สมบูรณ์ กรรมการฝ่ายจัดการหนี้กลุ่มฟื้นฟูเกษตรกรเมืองเพชร ได้เดินทางเข้าพบสำนักข่าวทีนิวส์ พร้อมกับนางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อทางสำนักข่าวทีนิวส์ ใน ในกรณีที่ต้องการให้ช่วยติดตามเรื่อง "การขายที่ดินทอดตลาดของ ธกส. " ซึ่งที่ดิน 2 เเปลงนี้ เเปลงที่ 1 จำนวน 35ไร่ 7 งาน 4 ตารางวา เเละแปลงที่ 2 จำนวน 19 ไร่ 1 งาน 6 ตารางวา  ซึ่งเป็นของ นางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์อยู่ เเต่ภายหลังได้ทราบว่าที่ดินของตนได้ถูกขายไปเเล้ว เพราะมีรถเเทรกเตอร์เข้ามาที่ดินของตน เพื่อจะทำการปรับพื้นดิน จึงได้ทราบว่าที่ดินของตนได้ถูกขายไป

ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งเเต่ พ.ศ. 2535 ในสมัยของนายเสาร์ พิมงาม ซึ่งเป็นคุณพ่อของนางสวยเเละนางละมัย สมรวย

 ที่ได้กู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรเเละสหกรณ์การเกษตรฯ(ธกส.) สาขาชะอำ จำนวน 7เเสนบาท หลังจากกู้เงินมาเเล้ว มีการผ่อนชำระที่ไม่สม่ำเสมอ และดอกเบี้ยก็ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่นายเสาร์ คิดว่าตนนั้นผ่อนชำระหนี้ไม่ไหวเป็นแน่

ในพ.ศ. 2538 นายเสาร์ พิมงาม จึงได้ไปกู้เงินจาก  ธนาคารเพื่อการเกษตรเเละสหกรณ์การเกษตรฯ(ธกส.) สาขาหัวหิน จำนวนเงิน 1 ล้าน 5 เเสน เพื่อนำมาชดใช้หนี้ของ ธกส. สาขาชะอำ

เเละในปี พ.ศ. 2539 นายเสาร์ พิมงาม ได้เสียชีวิตลง จึงทำให้ นางสวย สมรวย เข้ามาดูเเลจัดการในส่วนของหนี้จำนวนนี้เเทน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2542 ทาง ธกส. สาขาหัวหิน ได้ยื่นฟ้องนางสวย สมรวย  ให้นำเงินมาใช้หนี้ พร้อมประกาศขายที่ดินเเปลงดังกล่าวออกทอดตลาด

เเละ พ.ศ. 2546 นางสวย สมรวย ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิก "กองทุนฟื้นฟูเกษตรกรเมืองเพชร" เเละได้ทำสัญญากับ ธกส. สาขาหัวหิน โดยมีมติว่า "ธกส. สาขาหัวหิน ไม่สามารถขายที่ดินเเปลงนี้ได้เเละทางกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรเมืองเพชรจะนำเงินมาชดใช้หนี้ให้ หรือเรียกว่า "ซื้อหนี้ก้อนนี้จาก ธกส. หัวหิน" เเละมีการยื่นเอกสารของดการขายที่ดินทอดตลาดมาโดยตลอด

จนมาถึงปี พ.ศ. 2552  ทางกองทุนฯได้ยื่นเงินพื่อขอซื้อหนี้ก้อนนี้ ซึ่งมีกระบวนการเกิดขึ้นเเล้ว และได้มีการสั่งจ่ายเช็คไปแล้วอีกด้วยเช่นกัน เเต่กลับถูกตีกลับมา เหตุเพราะทางธกส. สาขาหัวหิน ต้องการให้เเต่งตั้งผู้จัดการมรดกในการจัดการทรัพย์สินส่วนนี้ เเละต้องรอเวลา 90 วัน เพื่อยืนยันว่าไม่มีใครคัดค้าน ซึ่งในช่วงระยะที่มีการรับรองทางด้านนางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย ได้ยืนยันว่าตนทั้งสองได้ยื่นหนังสือของดขายทอดตลอดอย่าสม่ำเสมอ

จนเมื่อวันที่ 19 ก.ย. พ.ศ. 2555 ทางกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรเมืองเพขร ได้รับหนังสือตอบรับจาก ธกส. สาขาหัวหิน ซึ่งยืนยันว่าจะขายหนี้ก้อนหนี้ให้กองทุนฯเเล้ว เเละได้มีการสั่งจ่ายเช็คเรียบร้อยเเล้ว

หลังจากนั้น นางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย ก็ต้องตกใจเมื่อมีรถเเทรกเตอร์เข้ามาในที่ดินของตน เพื่อจะทำการปรับพื้นดิน เเละได้บอกว่า "ไม่รู้หรือว่าที่ดินตรงนี้มีคนซื้อไปเเล้ว " ทำให้นางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย จึงได้เดินทางไปที่ ธกส. สาขาหัวหิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้บอกว่า "คุณรู้ได้อย่างไรว่าที่ดินของคุณถูกขาย" เมื่อได้คำตอบเช่นนี้ นางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย จึงเดินทางไป  กองบังคับคดี เพื่อตรวจสอบ เเล้วพบว่า ที่ดินเเปลงดังกล่าวได้มีการซื้อขายไปเเล้ว เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ทางกองบังคับคดีจึงบอกว่าหากจะคัดค้านต้องคัดค้านภายใน 15 วัน ซึ่งวันที่รู้คือวันที่ 14 ของการยื่นคัดค้านจึงได้ดำเนินการคัดค้านทันที จนปัจจุบันนี้นางสวยเเละนาง ละมัย สมรวย ยังคงสู้คดีต่อไปเรื่อยๆ เพื่อปกป้องที่ดินทำมาหากินของต้นตระกูลตนเอง

จากข้อมูลทั้งหมดที่ทางนางสวยเเละนางละมัย สมรวย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อทางสำนักข่าวทีนิวส์ ทำให้ทางสำนักข่าวทีนิวส์มีการตั้งข้อสังเกตุว่า

 "เหตุใดเจ้าของที่ดินเเปลงนี้ จึงไม่ทราบว่าที่ดินของตนได้ถูกขายทอดตลาด "  เเละอีกมุมหนึ่งว่า "ในเมื่อธกส. หัวหิน ได้ตอบรับการซื้อหนี้ของกองฟื้นฟูเกษตรกรเมืองเพชรเเล้ว ที่ดินผืนดังกล่าวถูกขายทอดตลาดได้อย่างไร?" หรืออาจะเพราะว่า "มูลค่าของที่ดินเเปลงนี้มีราคาสูง สามารถนำไปขายต่อเพื่อการได้กำไรที่สูงขึ้น  เพราะการซื้อผ่านการขายตลาดได้ราคาถูกกว่านั้นเอง"

ทั้งนี้สาเหตุที่นางสวยเเละนางละมัย สมรวย เข้ามาร้องต่อสำนักข่าวทีนิวส์

เหตุเพราะทางตนนั้นได้ทำทุกอย่างตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมายทุกครั้ง อีกทั้งยังมีเอกสารระบุสัญญาทุกครั้งอีกด้วย จึงได้เดินทางเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ทางสำนักข่าวทีนิวส์ ช่วยตีแผ่ความจริงของเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดและช่วยเหลือในการติดตามนำที่ดินเเปลงดังกล่าวของตนกลับมาให้ได้