ผบก.น.8 ยัน ไม่มีการตั้ง กก. สอบชุดจับกุมแว้น

ผบก.น.8 ยัน ไม่มีการตั้ง กก. สอบชุดจับกุมแว้น

ผบก.น.8 ยันไม่มีการตั้ง กก.สอบชุดจับกุมแว้นกับสาวสก๊อย จากปฏิบัติการราชพฤกษ์โมเดล เพื่อหาความบกพร่อง จนศาลต้องลงความเห็นผัดฟ้อง ชี้ตำรวจทำงานครบถ้วน ตามกรอบอำนาจที่มี ซึ่งยังไม่พบ จนท.ปฏิบัติงานบกพร่อง ...

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.8 ประกอบด้วย สน.ตลาดพลู สน.บางยี่เรือ สน.สำเหร่ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ชป.พท.ร้อย รส.ป.พัน.19 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี และหน่วยกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง รวม 150 นาย ทำการจับกุมเด็กแว้นและสก๊อย ตามแผนปฏิบัติการราชพฤกษ์โมเดล ได้ผู้ต้องหารวม 437 คน เป็นชาย 371 คน หญิง 66 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชน 237 คน และผู้ใหญ่ 200 คน ส่วนรถ จักรยานยนต์ของกลางยึดได้ 272 คัน จากนั้นคัดกรองผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชน แจ้งข้อหาขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้ 125 คน ส่วนผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ขับขี่อีก 125 คน ส่งศาลแขวงธนบุรีในข้อหาเดียวกัน

ซึ่งต่อมา ศาลแขวงธนบุรี มีวินิจฉัยให้ทำการผัดฟ้องปล่อยตัวผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ทั้ง 125 คน จนขณะนี้มีข่าวลือหนาหูว่า ผู้บังคับบัญชาอาจพิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงาน เพื่อหาความบกพร่อง จนศาลต้องลงความเห็นผัดฟ้อง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 มิ.ย. 58 พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ ผบก.น.8 กล่าวถึง ข่าวลือดังกล่าวว่า ตนขอยืนยัน ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด มีเพียงรายงานชี้แจงการปฏิบัติให้ผู้บังคับบัญชาทราบข้อเท็จจริง ตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผนจับกุมจนถึงการนำตัวส่งศาลเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่พบว่า มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานระดับใดบกพร่อง เนื่องจากตำรวจทำงานได้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบแล้วตามกรอบอำนาจที่เรามี เริ่มจากวันแรกที่จับกุม นำตัวผู้ต้องหา 437 คน ไปที่ สน.ตลาดพลู และการรวบรวมรถจักรยานยนต์ของกลาง 272 คัน นับว่าเป็นเรื่องโกลาหลมาก ไหนจะมีผู้ปกครองของผู้ต้องหาไปดูตัวบุตรหลานอีก ในที่นี้ตำรวจได้แก้ไขสถานการณ์ด้วยการรีบคัดแยกผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชนและเป็นผู้ใหญ่ออกจากกัน รวมถึงแยกผู้ขับขี่และบุคคลซ้อนท้าย จากนั้นยังต้องแบ่งผู้ต้องหาทั้ง 437 คน เหล่านี้ไปแยกสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนในสังกัด บก.น.8 อีกหลายโรงพัก

พล.ต.ต.ฤชากร กล่าวอีกว่า ขั้นตอนต่างๆ ตำรวจทำในกรอบอำนาจที่มีอยู่คือต้องส่งตัวผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน 125 คน ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อนำตัวไปที่ศาลในช่วงเช้าวันที่ 1 มิ.ย. 58 แล้ว ก็ได้รับความเมตตาจากท่านอธิบดีศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เดินทางมาควบคุมการวินิจฉัยคดีด้วยตนเอง ผลคือ ให้ส่งตัวผู้ต้องหาเยาวชนทั้ง 125 คน เข้าสถานพินิจโดยไม่ให้ประกันตัว แต่ท่านได้เมตตา ให้ผู้ปกครองของเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งมีอยู่ราวๆ 10 คนมารับตัวกลับได้ แต่ต้องผ่านการอบรมร่วมกันกับบุตรหลาน สำหรับเยาวชนที่มีอายุเกิน 15 ปีนั้น ถูกสั่งให้นำเข้าอบรมบ่มจริยธรรมในสถานพินิจก่อนอย่างต่ำ 7 วัน แล้วจึงเรียกผู้ปกครองมาเข้าร่วมอบรมก่อนรับกลับ ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้ผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อยในวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา

"สำหรับที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้คือ ผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใหญ่ 125 คน พนักงานสอบสวนได้ทำการสืบสวนสอบสวน นำสำนวน และควบคุมตัวไปส่งศาลแขวงธนบุรี ในวันที่ 2 มิ.ย. 58 ตามอำนาจควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง โดยวันนั้นตนเดินทางไปสั่งการพนักงานสอบสวนที่ศาลด้วยตัวเองตั้งแต่เช้า ปรากฏว่า ได้รับการวินิจฉัยให้ผัดฟ้องปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งก็เป็นดุลยพินิจของศาลตำรวจไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะต่างฝ่าย ต่างก็มีบทบาทหน้าที่ถ่วงดุลกันอยู่ โดยหลังจากนี้หากมีคำสั่งให้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 125 คน ไปส่งฟ้องอีกครั้ง ตำรวจก็ต้องติดตามผู้ต้องหาทั้งหมดไปศาลแขวงธนบุรีอีกครั้ง แต่ยืนยันได้ว่าตำรวจทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบแล้ว และไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้บกพร่องแต่อย่างใด" ผบก.น.8 กล่าว.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์