เชียงใหม่แผ่นดินไหว4.5ริคเตอร์พระประธาน300ปีร้าว

เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ จ.เชียงใหม่ อีกแล้ว สำนักแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ได้รายงานว่า เมื่อเวลา 12.05 น. วันที่ 19 มิถุนายน เกิดแผ่นดินไหวรู้สึกได้ในทุกอำเภอของ จ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะ อ.แม่ริม อ.เมือง และบางส่วนของ อ.เมือง จ.ลำพูน แผ่นดินไหวครั้งนี้วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.5 ริคเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ริม บริเวณละติจูดที่ 18.9 องศาหนือ ลองจิจูด 99.0 องศาตะวันออก

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากรอยเลื่อนแม่ทา

ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมีจุดศูนย์กลางอยู่บริเวณเดียวกัน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2549 ขนาด 5.1 ริคเตอร์ ทำให้เกิดรอยร้าว สร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนถึง 13 หลัง ในหมู่บ้านน้ำหลง หมู่ 10 ต.สันโป่ง อ.แม่ริม ขณะที่แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้ ทำให้ราษฎรในหมู่บ้านดังกล่าว รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาคารสำนักงานและตึกสูง พากันแตกตื่นวิ่งหนีออกมาจากตัวอาคาร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

ช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีเหตุแผ่นดินไหวหลายครั้ง เมื่อวันที่ 3 แผ่นดินไหววัดความรุนแรงได้ 5.6 ริคเตอร์ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน และอยู่ห่างจาก จ.เชียงราย วันที่ 8 เกิดแผ่นดินไหว ขนาดความแรง 5.3 ริคเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่พรมแดนไทย-พม่า ห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศเหนือประมาณ 90 กิโลเมตร และวันที่ 18 เกิดแผ่นดินไหวบริเวณพรมแดนไทย-พม่า แถบ จ.แม่ฮ่องสอน ความรุนแรงวัดได้ 4.2 ริคเตอร์

นายบุญเสริม จิตเจนสุวรรณ นายอำเภอแม่ริม

กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเสียหาย ส่วนในพื้นที่ อ.แม่ริม นั้นไม่มีอาคารสูง หรือเขื่อนสำคัญ คาดว่าหากเกิดความเสียหายคงไม่รุนแรง แต่จะต้องตรวจสอบบ้านเรือนราษฎรว่ามีรอยร้าวหรือไม่ เนื่องจาก จ.เชียงใหม่ เพิ่งเกิดแผ่นดินไหวได้ไม่นาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหว ทำให้ "พระเจ้าตองตั๋น" ขนาดหน้าตักกว้าง 2 เมตร สูง 2.50 เมตร องค์พระประธาน อายุ 300 ปี ภายในวิหารวัดร้องอ้อ หมู่ 1 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง เกิดรอยร้าวที่ด้านหลังและบริเวณฐาน

พระอธิการศรีธน สิริธรรมโม เจ้าอาวาสวัดร้องอ้อ กล่าวว่า

เหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา พระประธานได้เกิดรอยร้าวด้านหลังตั้งแต่ฐานถึงเศียร และทองคำเปลวที่หุ้มไว้หลุดออกมาหลายชิ้น โดยวัดได้บูรณะด้วยการปิดทับด้วยทองเปลวไปเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผ่านไปเพียง 3 วันก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกจนทำให้มีความเสียหายอีก ครั้งนี้พบว่า มีรอยร้าวบริเวณฐานและด้านหลังมีลักษณะคล้ายกับมีรอยแตกออกมาจากด้านใน ซึ่งคาดว่าอาจมาจากรอยเดิมที่เพิ่งบูรณะเสร็จ จึงประสานไปยังกรมศิลปากรให้เข้ามาตรวจสอบ

ได้รับรายงานในเบื้องต้นและกำลังตรวจสอบว่า พระพุทธรูปดังกล่าวถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้อมูลความเสียหายแล้ว

แผ่นดินไหวเกิดจากแนวรอยเลื่อนใหม่

รศ.ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยภัยพิบัติแผ่นดินไหว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ไปทางทิศเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร ถือเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวมากว่า 40 ปี แต่กลับเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะนี้

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวใน อ.แม่ริม ที่เกิดขึ้น

อยู่นอกเหนือจากแนวรอยเลื่อนแม่ทา ซึ่งจะอยู่ทางทิศตะวันออกของ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ อ.ดอยสะเก็ด อ.สันกำแพง ไปจนถึง จ.ลำพูน จึงยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากรอยเลื่อนแม่ทาตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเกิดจากรอยเลื่อนที่พาดผ่านใจกลาง จ.เชียงใหม่ จากแนวทิศเหนือไปยังทิศใต้ คือ ตั้งแต่ อ.แม่แตง อ.แม่ริม อ.เมือง ไปจนถึง อ.เมือง จ.ลำพูน

รอยเลื่อนนี้เมื่อดูจากภาพถ่ายดาวเทียวอาจมองเห็นไม่ชัด เหมือนกับรอยเลื่อนอื่นๆ ที่เป็นแนวร่องเขา เนื่องจากรอยเลื่อนนี้ถูกดินตะกอนจากแม่น้ำปิงถมมาเป็นเวลานานจนกลายเป็นที่ราบและทุ่งนา แต่รอยเลื่อนนี้มีข้อมูลยืนยันจากดินตะกอนที่พบใน อ.แม่แตง ซึ่งอยู่สูงกว่าระดับน้ำถึง 50 เมตร ซึ่งเป็นลักษณะของการยกตัวของเปลือกโลก อย่างไรก็ตาม รอยแลื่อนที่พาดผ่านใจกลาง จ.เชียงใหม่ ยังไม่มีการตั้งชื่อ แต่เรียกกันเบื่องต้นว่า "รอยเลื่อนแม่แตง" โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาวิจัย ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมการป้องกันภัยพิบัติในอนาคต


นายทศพร นุชอนงค์ ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่ จ.เชียงใหม่ ยังยืนยันว่า

เป็นแผ่นดินไหวที่เกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ซึ่งกลุ่มรอยเลื่อยแม่ทานั้นยาวหลายกิโลเมตรและไม่ได้มีเส้นเดียว มีบางส่วนที่พาดผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย จึงเรียกว่า กลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา

จากกรณีที่มีรอยเลื่อนเกิดขึ้นใหม่ผ่านใจกลางเมืองเชียงใหม่นั้น

นายทศพร สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นแขนงกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทาที่ยังมีพลังอยู่ แต่คงไม่ใช่รอยเลื่อนเกิดใหม่ เพราะโอกาสเกิดการแตกของรอยเลื่อนใหม่นั้นคงเป็นไปได้ยาก หรืออาจเป็นผลพวงจากการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 นั้น ก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน อย่างไรก็ตาม จะลองประสานขอข้อมูลจากศูนย์วิจัยภัยพิบัติแผ่นดินไหวจังหวัดเชียงใหม่มาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก