แพทย์ชี้ “เด็กรับสมัครFC” ขวนขวายการยอมรับจากสังคม

„แห่อัดคลิปรับสมัคร FC เทรนด์ใหม่ของเหล่าเยาวชน แพทย์แนะผู้ปกครองดูแลใกล้ชิด ให้ความรักสร้างความเข้าใจ ไม่ปล่อยให้เด็กหมกมุ่นแต่เทคโนโลยี"

 


แพทย์ชี้ “เด็กรับสมัครFC” ขวนขวายการยอมรับจากสังคม

„กรณีเกิดกระแสการโพสต์คลิปรับสมัครเอฟซี (FC) หรือแฟนคลับ ของกลุ่มเด็กช่วงอายุประมาณ 10-15 ปี ที่เกิดอยากมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง ทำให้มีพฤติกรรมการอัดคลิปเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว ทั้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือไอดีไลน์ โพสต์ไว้ในโลกโซเชียลมีเดีย เพื่อตามหาบุคคลที่ชื่นชอบตนเอง พร้อมระบุกฎต่างๆให้คนที่จะมาเป็นแฟนคลับของตนทราบ เช่น จะต้องเป็นเพื่อนที่ดี มีความซื่อสัตย์ ไม่ทะเลาะกันในกลุ่ม พร้อมยังกำหนดช่วงอายุของแฟนคลับด้วย ทั้งนี้แฟนคลับจะต้องสามารถส่งของให้ตนเองได้ทุกเดือน หากส่งของให้ได้ จะตั้งเป็นเพื่อนรัก หรือ FC ดีเด่น และอีกสารพัดกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้


 จนเกิดเป็นเทรนด์ใหม่ของเด็กวัยใสที่ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมโดยถูกรุมประณามว่าเป็น "ขอทานออนไลน์" อีกทั้งการกระทำลักษณะดังกล่าวอาจกลายเป็นช่องทางที่อาชญากรใช้ล่อลวงเด็กไปทำมิดีมิร้ายได้ 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. พ.ญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้แสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าวผ่าน "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า กระแสการอัดคลิปรับสมัครแฟนคลับของกลุ่มเด็กในช่วงวัยดังกล่าว เป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเด็ก ที่มีความพยายามหาการยอมรับทางสังคม เพราะอยากได้รับความสนใจตามค่านิยมปัจจุบัน ยิ่งหากมีคนมาสมัครเป็นแฟนคลับกันเยอะ เด็กเหล่านี้ก็จะยิ่งรู้สึกดี เช่นเดียวกับการอัพรูปเรียกยอดไลค์ เด็กบางคนถึงกับเกิดอาการเครียดหากไม่มีใครมาสนใจ 

และอาจเกิดความรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า จึงต้องหาคุณค่าจากจำนวนคนที่จะมาสมัครเป็นแฟนคลับแทน และการอัดคลิปโชว์สิ่งของที่มีคนส่งให้จะทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับแล้วนั่นเอง ทั้งนี้สาเหตุของพฤติกรรมอาจเป็นเพราะโลกโซเชียลมีเดียที่เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเด็กเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการเลียนแบบดาราเซเลปคนดัง หรือเน็ตไอดอล โดยมีความคิดว่า หากเป็นคนดังแล้วชีวิตจะดี มีหน้ามีตา และสบาย เมื่อเด็กเหล่านี้มีช่องทางที่จะสามารถสร้างความนิยมดังกล่าวได้ จึงทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่สมควร"

 


แพทย์ชี้ “เด็กรับสมัครFC” ขวนขวายการยอมรับจากสังคม

„วิธีแก้ที่ดีที่สุด มาจากผู้ปกครองที่ควรให้คำแนะนำ ปลูกฝังโดยการให้ความรัก การเอาใจใส่ ทำให้เด็กรู้สึกมีตัวตน พร้อมแนะวิธีหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว ด้วยการสร้างความเข้าใจ พูดคุยกับเด็กให้รับรู้ข้อดีข้อเสียของการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด แต่ไม่ควรใช้การบังคับเพราะจะทำให้เด็กเกิดการต่อต้านมากขึ้น


 พร้อมหากิจกรรมอื่นๆที่เหมาะสมให้เด็กได้เรียนรู้ และไม่ปล่อยให้เด็กหมกมุ่นอยู่แต่กับเทคโนโลยีตลอดเวลา"

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์