เซเลบออนไลน์แห่แชร์! เรื่องเล่า ขนม สยามบานาน่า หลังมีดราม่าใครเจ้าของสูตร

เซเลบออนไลน์แห่แชร์! เรื่องเล่า ขนม สยามบานาน่า หลังมีดราม่าใครเจ้าของสูตร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมจากกรณี บทความ “แบ่งปัน โตเกียวบานาน่าไทย แบบมีกล้วยอยู่จริงๆ ที่แลกมาด้วยน้ำตา” ถูกนำไปแชร์อย่างแพร่หลาย โดยทางซีพีออลล์ได้ส่งแถลงชี้แจง ดังนี้

จากกรณีบล็อกของคุณ @assuming ชื่อว่า “แบ่งปัน โตเกียวบานาน่าไทย แบบมีกล้วยอยู่จริงๆที่แลกมาด้วยน้ำตา” ในเว็บไซต์ www.oknation.net

ข้อความคือ


โดยในข้อเขียนดังกล่าวได้เล่าถึงกรณีขนม SIAM BANANA ที่วางขายในไทย ซึ่งผู้เขียนเป็นพนักงานออฟฟิศ ที่อยากลองทำธุรกิจเล็กๆ โดยความชื่นชอบขนมในตัวทำให้สนใจขนมโตเกียว บานาน่าสุดดังของญี่ปุ่นที่คนไทยหลายคนรู้จักกันดี ซึ่งจุดเด่นที่ไม่มีกล้วย มีแค่คัสตาร์ด ใส่กลิ่นกล้วยเข้าไป แล้วมีแป้งนุ่มกับแพกเกจจิ้งสวยงาม จึงคิดว่าประเทศไทยที่ผลิตกล้วยน่าจะลองทำเพิ่มมูลค่าได้

จึงได้ลองผิดลองถูกใช้เวลาไปครึ่งปี และเงินลงทุนจำนวนมากเพื่อเรียนรู้กระบวนการทุกอย่างและสร้างเทคนิคเอกลักษณ์ของตัวเอง ตั้งแต่การทำแพคเกจจิ้งเพื่อควบคุมอุณหภูมิของแป้งให้เก็บได้นาน 1 เดือน โดยไม่ใช้วัตถุกันเสีย

และได้ทดลองตลาดวางขายตามแหล่งท่องเที่ยวเริ่มต้นที่เขาใหญ่ และหัวหิน  ปรากฏว่าผลตอบรับดีมาก ยอดขายดีกว่าที่คาดหวังไว้  แต่กำลังการผลิตเราก็ไม่มากนัก เพราะเราใช้แรงงานคนในกระบวนการผลิตเยอะ เพื่อทดแทนเครื่องจักรsuper high tech 

กระทั่งเดือนตุลาคม 2557 ได้ไปเสนอสินค้าที่บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีการเห็นสินค้าและลองชิม โดยมีการระบุว่า ประธานบริษัทมีความคิดอยากผลิตโตเกียวบานาน่ามาสองปีแล้ว ไม่สามารถหาโรงงานไทยที่ทำได้เลย แม้แต่บริษัทในเครือ ซึ่งมีคำตอบในเชิงสนใจและระบุว่าจะช่วยดำเนินการให้ทุกอย่าง

จากนั้น เล่าว่ามีการเชิญร่วมประชุมอีกหลายครั้งที่บริษัท กระทั่งได้พบกับซีอีโอ ซึ่งได้รับคำตอบว่า  “ขนมคุณอร่อย”
เดี๋ยวจะขายดีจนผลิตไม่ทันเลยนะ แต่อยากให้ตั้งชื่อใหม่ให้เก๋กว่านี้ ซึ่งก็คิดกันในวันนั้นจนได้ข้อสรุป

ต่อมาทางบริษัทให้ลงทุนสร้างโรงงานเพิ่ม  เพื่อให้เพียงพอต่อกำลังการผลิต เมื่อเห็นความเป็นมืออาชีพจึงได้กู้เงินมาลงทุนมีทีมงานมาช่วยวางแปลนโรงงานให้อย่างละเอียด มีการAuditทุกขั้นตอน เป็นคำสั่งมาจากเบื้องบนให้ทุกฝ่ายต้องช่วยโปรเจคนี้ให้สำเร็จตามกำหนดให้ได้

ทั้งนี้ ผู้เขียนได้เล่าถึง ค่าโง่ที่แพงที่สุดก็คือ การต้องกรอกเอกสารจำนวนมาก เพื่อเปิดเผยข้อมูลการผลิตทุกขั้นตอน ส่วนผสมทุกอย่าง เทคนิคการผลิตทั้งหมด ละเอียดเป็นกรัม เป็นมิลลิเมตร โดยมีเจ้าหน้าที่ย้ำว่าจำเป็น เพื่อที่จะช่วยวางแผนการผลิตได้   ความลับเรื่องการนำคาสตาร์ดหรือว่าไส้กล้วยเข้าไปในแป้งก็ถูกเปิดแผย  มันเป็นกระบวนการระหว่างการลงทุนก่อสร้างโรงงานไปด้วย  ก็จะโดนถามอย่างละเอียดทุกเม็ดในที่ประชุม 

โดยขั้นตอนเตรียมการทั้งหมดดำเนินการมาราว 4 เดือน มีกำหนดวางจำหน่ายก็ออกมาแล้วคือ 1 เมษายน 2558

กระทั่งช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์มีการติดต่อจากบริษัทว่า “ทางเราได้ผลิตของเราเองแล้ว” ต้องขอยกเลิกดีลที่ตกลงกันไว้ด้วย

ซึ่งผู้เขียนบอกว่ามีคำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว จากการที่ได้ร่วมประชุมร่วมวางแผนงานกันมา กระทั่งวันที่ 1 มีนาคม 2558 ที่ได้เห็นสินค้านี้วางตลาด

#ร้องไห้หนักมาก มันคงจะน้อยไปกับความรู้สึกที่เราได้เจอ   เราอยากจะถามบริษัทยักษ์ใหญ่ว่า ถ้าคุณจะทำเอง  ทำไมต้องให้เราลงทุนขนาดนี้ เป็นหนี้เป็นสิน มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น100เท่า แต่ไม่มีคำสั่งซื้อจะมีความหมายอะไร  คุณมาให้ความมั่นใจเราไม่งั้นเราจะกล้าเสี่ยงขนาดนี้เพื่ออะไร

นี่เป็นเรื่องราวโดยย่อ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร คงมีคำตอบในไม่ช้า โปรดติดตาม!!



บริษัทขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบดังนี้

1.บริษัทได้สอบถามไปยังผู้ผลิตดังกล่าว ซึ่งผู้ผลิตได้แจ้งกับบริษัทว่า ไม่ได้เป็นผู้เขียนบทความนี้ ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง ซึ่งต่อมาคุณ @assuming ได้ยอมรับในบล็อกว่าตนเป็นผู้เขียน ไม่ใช่เจ้าของ ผู้ผลิต และได้ลบบทความดังกล่าวออกจากบล็อกแล้ว

2.บริษัทขอเรียนชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขนมปังรสกล้วยของบริษัทที่ได้ถูกพาดพิงนั้น ไม่ได้ลอกเลียนแบบมาจาก suppliers รายใด และมีกรรมวิธีการผลิตเฉพาะที่แตกต่าง  พัฒนาโดยทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทเอง  ซึ่งมีอยู่กว่า 200 คน

3. บริษัทยืนยันว่าได้มีการเจรจาธุรกิจกับซัพพลายเออร์ขนมรสกล้วยเจ้านี้อยู่จริง และขณะนี้ก็ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนเจรจา และพัฒนาสินค้าร่วมกันโดยมีข้อตกลงจะนำขนมนี้ไปวางที่ร้านคัดสรรเบเกอรี่ ซึ่งเป็นร้านขนมปังกาแฟระดับพรีเมี่ยม ที่ มีอยู่ 200 กว่าสาขาทั่วประเทศ ภายในร้าน  7-11ส่วนขนม "เลอแปง บานาน่า" เค้กสอดไส้คัสตาร์ด รสกล้วย ของบริษัท นั้นเป็นสินค้าสำรับลูกค้าทั่วไปวางจำหน่ายใน 7-11 เช่นกัน

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบข้อเท็จจริง และขอความกรุณาท่านหยุดเผยแพร่บทความ ของคุณ @assuming เพราะเข้าข่ายการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นความผิดทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญา

สำนักสื่อสารองค์กร
บมจ.ซีพี ออลล์

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์