พ่อเฒ่ารักอมตะ เจ้าตัวยันเก็บศพเมียรักต่อ หลังเสร็จพิธีฯ

จากกรณี นายยม จู๋ยืนยง อายุ 76 ปี อดีตพ่อค้าจับหมูขายเมืองนครปฐม 

รักอมตะนอนกอดศพ นางซกกี จู๋ยืนยง ภรรยาวัย 83 ปี นานนับ 10 เดือน หลังเสียชีวิตด้วยโรคชรา โดยเก็บเอาร่างไร้วิญญาณไว้บนบ้าน พร้อมนำอาหาร ของคาวหวานมาให้กินทุกวัน จนชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นสาบสางคล้ายกลิ่นศพโชยออกมา แจ้งผู้ใหญ่บ้าน นายกฯ อบต.เข้าตรวจสอบถึงกับผงะ เมื่อเห็นศพนางซกกีเหลือแต่โครงกระดูก สอบถามนายยมอ้างว่า เป็นความประสงค์ของภรรยา ที่สั่งเสียไว้ว่าให้เก็บศพไว้ที่บ้าน ไม่ต้องนำศพไปบำเพ็ญกุศล ไม่ต้องเผา เพราะไม่อยากรบกวนใคร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ลุงยม กล่าวว่า หลังพิธีเสร็จสิ้นก็จะเก็บศพภรรยาไว้ที่บ้านเหมือนเดิม จะไม่เผา เพราะเวลาที่มีชีวิตอยู่อากาศก็ร้อนพออยู่แล้ว เวลาจากไปยังจะเผาให้ร้อนไปอีกเพื่ออะไร ส่วนจะฝั่งเมื่อไหร่ก็ค่อยว่ากันอีกที อาจจะฝังใกล้บ้าน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่ดินของตนเอง แต่จะต้องคุยกับเพื่อนบ้านให้เรียบร้อยก่อน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข 

พร้อมแพทย์จากสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังลุงยม จู๋ยืนยง ขณะเดียวกันอบต.ท่ากระชับ ได้บรรจุศพในโลง จัดเตรียมสถานที่ รับเป็นเจ้าภาพจัดพิธีบำเพ็ญกุศลให้เป็นเวลา 3 วัน แต่จะไม่เผา เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ตาย

ทางด้าน พญ.ดวงตา ไกรภัสสร์พงษ์ แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์กล่าวต่อว่า 

กรณีของลุงยม น่าจะเป็นตัวอย่างของความรักในครอบครัวทั้งนี้ต้องเคารพในการตัดสินใจ เพราะหากทำอะไรไปตามใจสังคมหรือความรู้สึกของคนนอกอาจกระทบกระเทือนจิตใจและส่งผลกระทบตามมาในภายหลัง วันนี้เข้ามาเพื่อรับทราบความรู้สึกของลุงยม หลังจากเสร็จพิธีสวดพระอภิธรรมศพแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลสภาพจิตใจ เพื่อให้ลุงยมสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติสุขต่อไป..