รามาฯหนุนสธ.สั่งสลับเปิดทีวี-ไม่แช่ช่องนักเล่าข่าว

กรณีมีการเผยแพร่หนังสือที่ สธ 0228.07/14 ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ที่ลงนามโดย นพ.วิชระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 30 ม.ค. 2558 ที่ส่งถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ เรื่อง "เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปิดโทรทัศน์ของโรงพยาบาลรัฐ" โดยมีเนื้อหาระบุว่า มีผู้ร้องเรียนว่า รพ.ของรัฐเปิดรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์เพียงบางแห่ง แช่เอาไว้ให้ผู้มารับบริการรับชม ซึ่งเป็นรายการที่ไม่เหมาะสม เพราะพิธีกรผู้ดำเนินรายการท่านหนึ่ง เป็นผู้ที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าทำความผิดเรื่องการทุจริต และอัยการสูงสุดได้สั่งฟ้องแล้ว อีกทั้งมีการนำเสนอข่าวที่ไม่ครบถ้วน ตัดตอน บิดเบือน โกหก ไม่มีจรรยาบรรณ จึงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่โรงพยาบาลของรัฐ จะเปิดรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ช่องดังกล่าว ให้กับแพทย์ พยาบาล และประชาชน ที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลให้ได้รับชมกันต่อไป ทั้งนี้ทางสธ.จึงให้ "สสจ." แจ้งต่อรพ.ต่างๆ ให้หมุนเวียนการเปิดรายการโทรทัศน์ของแต่ละสถานีในแต่ละวัน โดยให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผอ.รพ.นั้นๆ เพื่อลดความขัดแย้ง และข้อร้องเรียนของประชาชน

ในเรื่องนี้ นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผอ.รพ.รามาธิบดี

กล่าวถึงกรณีการการเปิดโทรทัศน์ช่องดังกล่าวให้กับประชาชนระหว่างรอรับ บริการในรพ.ว่า เมื่อประมาณ 3-5 เดือนก่อน รพ.รามาฯก็เคยถูกร้องเรียนเรื่องการเปิดสถานีโทรทัศน์เพียงช่องเดียว ซึ่งผู้ดำเนินรายการข่าวช่องดังกล่าว ก็เป็นผู้ที่มีข้อกล่าวหาทางกฎหมาย หลังจากนั้นเป็นต้นมา ทางรพ.รามาฯ จึงพยายามปรับปรุงด้วยการมอบหมายให้ฝ่ายสื่อสารองค์กรของรพ. ดูแลควบคุมจากส่วนกลางในการเปลี่ยนสถานี ไม่ใช่เปิดแช่ที่สถานีใดสถานีหนึ่งนานเกินไป ซึ่งจะมีทั้งรายการทางฟรีทีวี และรายการของทางรพ.เองชื่อว่า “รามาชาแนล” ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ที่มารับบริการที่รพ.รามาฯ ได้รับชมรายการทางสถานีโทรทัศน์ได้อย่างหลากหลาย ส่วนในบางจุดที่มีการติดตั้งโทรทัศน์รุ่นเก่า ก็ให้เจ้าหน้าที่คอยดูแลและสับเปลี่ยนสถานีโทรทัศน์ ไม่ปล่อยให้ญาติหรือผู้ป่วยปรับเปลี่ยนเอง เพื่อป้องกันการทะเลาะกัน

ผอ.รพ.รามาฯ กล่าวย้ำว่า สำหรับกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขได้ออกหนังสือสั่งการไปยังรพ.ในสังกัดคอยดูแล

สับเปลี่ยนสถานีโทรทัศน์ไม่ให้เปิดแช่ที่สถานีใดสถานีหนึ่งตลอดเวลานั้น โดยหลักการก็ไม่น่าจะมีปัญหา อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า ทางรพ.ไม่ได้มีความเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง จึงไม่น่าจะเป็นการปิดกั้นการรับรู้ข่าวสารของประชาชนแต่อย่างใด เนื่องจากบางครั้งโทรทัศน์อาจจะตั้งอยู่ในจุดที่อับสัญญาณ จึงจำเป็นต้องเปิดแช่เอาไว้ที่สถานีโทรทัศน์ที่สัญญาณการรับส่งภาพและเสียง ดีที่สุดเอาไว้ ตรงนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจเรื่องข้อจำกัดตรงนี้ด้วย.