โวยศุลกากร!ดอกไม้ฮอลแลนด์หายปริศนา

ผู้ใช้เฟซบุ๊กอัดคลิป ระบายความในใจ หลังตรวจสอบหัวดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศหายไปเพียบ ด้านประชาสัมพันธ์แจงกรมศุลฯมีสิทธิ์ตรวจสอบสินค้า เพื่อตรวจหาคุณภาพ หรือสารเสพติด ยันรู้ผลข้อเท็จจริง 21 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่20ต.ค ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์รายงานว่า ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย

มีการโพสต์คลิปวีดีโอ เกี่ยวกับการแสดงความไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวทำธุรกิจเกี่ยวกับต้นไม้ต่างประเทศรายหนึ่ง โดยภายในคลิปปรากฏ เป็นภาพของกล่องลังกระดาษที่มีหัวดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศ มีถุงบรรจุหัวดอกไม้ถูกฉีกเสียหาย พร้อมกับเสียงของหญิงสาว อ้างว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นผลงานของศุลการกรไทย หลังจากเพิ่งไปรับสินค้า กลับมาเปิดดูที่บ้านก็พบกับความเสียหาย เนื่องจากมีหัวดอกไม้หายไปหลายหัว

ทั้งนี้ผู้ที่โพสต์คลิปดังกล่าว ยังระบายความไม่พอใจอีกว่า "ถามว่าใครเสียหาย เพราะทุกถุงมีลูกค้าจ่ายเงิน พรีออเดอร์หมดแล้ว และถูกขโมยเยอะมาก หายไปประมาณเกือบ20หัว และไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ขอกันดี ๆ ทำไมอยากได้ของฟรีจากหนู หนูลงทุนสั่งซื้อจากฮอลแลนด์ เสียทั้งเงินค่าขนส่ง และค่าภาษี และไม่ได้แจกฟรี แต่มาขอเอาไปปลูก ทำไปเพื่อ"

ภายหลังคลิปดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้คนที่พบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปในวงกว้าง

โดยส่วนใหญ่ไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่ หากเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองว่าอาจเป็นเพราะทางเจ้าหน้าที่ต้องการนำตัวอย่างไปตรวจสอบหาสารเสพติด หรือสิ่งแปลกปลอมตามกฎระเบียบก็เป็นได้ ขณะที่บางรายแสดงความเห็นชี้นำให้ทางเจ้าของดอกไม้ไปแจ้งความดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อหาคนรับผิดชอบ เพราะสินค้าสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ส่วนประชาสัมพันธ์ของกรมศุลกากร และแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ

ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ระบุว่า ทางกรมศุลกากรรับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมนำเสนอไปยังนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้รับทราบเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่าอย่างช้าจะทราบรายละเอียดทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค.57) ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อธิบายว่า กรมศุลกากรสามารถเปิด นำเอาสินค้าที่ส่งมาจากต่างประเทศ และมีสิทธิ์ตรวจสอบสินค้านั้น ๆ เพื่อตรวจหาสารต่าง ๆ และคุณภาพของสินค้า หรือสารเสพติดที่อาจซุกซ้อนเข้ามา แต่ความเข้มขวดในการตรวจนั้นขึ้นอยู่กับมาตรฐานของแต่ละประเทศด้วย.