ส่งหนังสือถึงเจ้าของรถสวนเลนจ่ายค่าปรับ

ส่งหนังสือถึงเจ้าของรถสวนเลนจ่ายค่าปรับ

โปลิศพญาไทร่อนหนังสือเรียกเจ้าของรถวิ่งสวนเลนมาจ่ายค่าปรับแล้ว เปรยอยู่ที่ว่าจะมาหรือไม่มาเป็นสิทธิของเขา เผยกม.ไทยไม่มีพ.ร.บ.รองรับว่าภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอนำมาใช้เป็นหลักฐานใน ชั้นศาล แถมคลิปวันเกิดเหตุไม่ได้มาจากกล้องของทางราชการด้วย

จากกรณีผู้ขับรถยนต์ "ปริศนา" ซึ่งเป็นนั่งส่วนบุคคลสีดำ ยี่ห้อแลนด์โรเวอร์ ทะเบียนสีฟ้า (ทะเบียนองค์กร) อ11-0060

ที่ขับรถย้อนและบีบแตรไล่รถยนต์คันอื่นที่วิ่งมาอย่างถูกกฎหมายตามกฎจราจร ให้ถอยหลัง จนกลายเป็นเรื่องวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม จนมีคำยืนยันจากสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ยูเอ็นดีพี ว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ปฎิบัติงานในสังกัดจริงเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ในโลกของสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊กเพจ “ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02”

ได้โพสต์ภาพพร้อมคำชี้แจงความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับรถปริศนาดังกล่าว ว่า “สำหรับเรื่องคลิป รถแลนด์โรเวอร์ ทะเบียนองค์กรระหว่างประเทศ อ11-0060 วิ่งสวนเลนออกมา ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถของ สหประชาชาติ ได้ออกหมายไปยัง องค์กร ให้ส่งตัวคนขับมาดำเนินคดี แต่ขณะนี้ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด”

ทั้งนี้ทางทีมข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ ได้สอบถามไปยัง พ.ต.ท.จุมพล คณานุรักษ์ รองผกก.จร.สน.พญาไท แล้วได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า

ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังต้นสังกัดของรถยนต์คันดังกล่าวจริง เพื่อแจ้งข้อความผิดฐานขับรถฝืนฝ่าเครื่องหมายจราจร และขอให้ส่งตัวแทนมาดำเนินการเสียค่าปรับตามกฎหมาย หากไม่มาขั้นตอนต่อไปก็ต้องติดตามทวงถาม ซึ่งเราถือว่าได้ทำตามหน้าที่แล้ว อย่างไรก็ตามการที่หน่วยงานดังกล่าวจะมาเสียค่าปรับหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานนั้น ๆ เองด้วย เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าวมีเอกสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองอยู่จริง การจะกระทำการใด ๆ ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนด้วยความระมัดระวัง อีกทั้งความผิดจราจร ไม่เหมือนความผิดทางอาญา คือถ้าผู้กระทำไม่มาเสียค่าปรับ แล้วเจ้าหน้าที่จะต้องไปตามจับกุม

"ส่วนตัวเข้าใจว่าหลายฝ่ายอาจจะมองว่ามีหลักฐานเป็นภาพวิดีโอชัดเจนน่าจะ จับกุมมาเสียค่าปรับได้ แต่ในความเป็นจริงกฎหมายของไทยยังไม่มี พ.ร.บ. รองรับว่าภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอจะสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลได้  เป็นได้เพียงหลักฐานประกอบเท่านั้น อีกทั้งภาพถ่ายหรือคลิปดังกล่าวไม่ได้มาจากกล้องของทางราชการ ซึ่งในทางกฎหมายผู้กระทำผิดเองก็สามารถหาหลักฐานอื่นมาใช้อ้างแก้ต่างได้ เช่นกัน หากทางหน่วยงานมีหลักฐานมายืนยันว่าวันเกิดเหตุรถคันดังกล่าวถูกใช้งานอยู่ ที่อื่น เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้" พ.ต.ท.จุมพล กล่าว


ส่งหนังสือถึงเจ้าของรถสวนเลนจ่ายค่าปรับ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์