พบเด็กหญิงวัย 12 ปีสู้ชีวิต พ่อแม่ทิ้งอยู่บ้านเพียงลำพังร่วม 10 ปี

พบเด็กหญิงวัย 12 ปีสู้ชีวิต พ่อแม่ทิ้งอยู่บ้านเพียงลำพังร่วม 10 ปี ต้องเลี้ยงตัวเอง 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดอุบลราชธานีว่า พบชีวิตของเด็กหญิง อายุ 12 ปี ถูกพ่อ แม่ ทิ้งไว้อยู่บ้านเพียงลำพังบ้านเลขที่ 33 บ้านคำหมาไน ม.3 ต.นาเลิน อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ไม่มีเงิน หรือเครื่องใช้สิ่งของอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตประจำวัน อาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าๆยกพื้น มีประตูไม้เก่าๆ ใช้สำหรับป้องกันอันตราย หลังคามุงด้วยสังกะสี ภายในบ้านพบเด็กหญิงพิสมัย งอกสุก หรือน้องเขียว อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำหมาในร่องเข อยู่ภายในบ้านเมื่อขึ้นไปบนบ้านพบราวเสื้อผ้าของเด็กหญิงพิสมัยอยู่ 1 ตะกร้า ในครัวมีเพียงเตาถ่านกระติ๊บข้าวเหนียว และ ถ้วย 2 ใบ สำหรับใส่ข้าวทาน


เด็กหญิงพิสมัยเล่าว่า เรียนอยู่ ชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านคำหมาในร่องเข

ซึ่งอยู่ตรงข้ามบ้าน พักอาศัยหลับนอนอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง ในวันธรรมดาตนเองก็จะไปโรงเรียนทานข้าวกลางวันที่โรงเรียน และ แม่บ้านที่โรงเรียนก็จะห่อกับข้าวตอนกลางวันมาให้ทานที่บ้านในตอนเย็นด้วย 


พบเด็กหญิงวัย 12 ปีสู้ชีวิต พ่อแม่ทิ้งอยู่บ้านเพียงลำพังร่วม 10 ปี

หลังจากเลิกเรียนจะรับจ้างไปดูแลคนป่วยทำความสะอาดบ้าน อยู่ในหมู่บ้านเพื่อแลกเงิน 5 บาท 10 บาท
 
ไปซื้อขนมในโรงเรียน บางวันหากไม่มีใครจ้างก็ไม่มีเงินซื้อขนม ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะไปอยู่ร้านขายของข้างบ้านคอยดูแลคนป่วยเพื่อแลกเงินไว้ไปโรงเรียนในวันธรรมดา


เมื่อถามถึงพ่อแม่ เด็กหญิงพิสมัยเล่าว่าไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่มานานหลายปีแล้ว จนจำหน้าแทบจะไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าพ่อกับแม่ไปทำงานที่กรุงเทพตั้งแต่ตนยังเด็ก จากนั้นก็ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลยแล้วก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อกับแม่ เป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงอยากเจอหน้าพ่อกับแม่ เมื่อวันแม่ที่ผ่านมาโรงเรียนได้จัดงานวันแม่ตนเองก็ได้เข้าร่วมงานแต่ต้องไปไหว้แม่คนอื่น ซึ่งตนเองก็ไม่รู้จักว่าเป็นใครชื่ออะไร


ด้านนางกาญจนาโกเมนไปรรินทร์ อายุ 62 ปี และ นางธัญญา  คงทน 45 ปี
 
อยู่บ้านเลขที่ 169 ม.3 ต.นาเลิน อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี เพื่อนบ้านที่คอยดูเด็กหญิงพิสมัยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองตั้งแต่มาอยู่หมู่บ้านนี้ 9 ปี ยังไม่เคยเห็นหน้า พ่อแม่ของเด็กหญิงพิสมัยเลย 


ซึ่งเด็กหญิงพิสมัยเป็นเด็กที่นิสัยดี ขยันรับจ้างทั่วไปเพื่อจะได้มีเงินไปโรงเรียน

ตกเย็นก็จะกลับไปนอนที่บ้านหลังนี้ทุกคืนไม่ยอมมานอนกับตน  ส่วนตัวแล้วตนเองเป็นห่วงเนื่องจากเด็กหญิงพิสมัยเริ่มจะโตเป็นสาวแล้วบ้านที่อยู่ก็ไม่แข็งแรง แถมยังอยู่คนเดียวซึ่งอันตรายมากสำหรับเด็กผู้หญิงเกรงว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่ดีกับเด็ก 


นางกาญจนา กล่าวว่า สิ่งที่ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจะเป็นในเรื่องความเป็นอยู่ การเรียนอยากให้เด็กหญิงพิสมัยได้เรียนสูงๆ เพราะการศึกษาเป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต 


สำหรับการช่วยเหลือขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของเด็กหญิงพิสมัย
 
มีเพียงนายศรีมูล ช่วยสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนคำหมาในร่องเข และนางกีรติญา  สืบเหล่า ครูที่ปรึกษา ทำเรื่องถึงสำนักงานการปฐมศึกษาเขต 3 อุบลราชธานี รายงานความเป็นอยู่ของเด็กในความรับผิดชอบเท่านั้น 


แม้ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลนาเลินจะอยู่ห่างจากบ้านของเด็กแค่100 เมตรเท่านั้น ก็ยังไม่มีการเจ้าหน้าที่มาดูแลให้การช่วยเหลือ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์