เปิดตัว 2 เด็ก กับ ´ในหลวง´

เปิดตัว 2 เด็ก กับ ´ในหลวง´

เปิดตัว 2 เด็ก กับ ´ในหลวง´




หลังจากคณะกรรมการ จัดงานนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ได้ประกาศตามหาบุคคล ในภาพถ่ายแห่งความทรงจำ 5 ภาพ 5 คน เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จ พระราชดำเนินปฏิบัติ พระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเชิญผู้ที่อยู่ในภาพ มาบอกเล่าเรื่องราวในอดีต และนาทีแห่งความประทับใจ ที่ได้เข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด

บุคคลในภาพถ่ายแห่งความทรงจำคนแรก ที่เปิดตัวออกมาแล้วคือนายพยุงศักดิ์ กาฬมิค อายุ 37 ปี ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่งนิติกร 6 ว. สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเด็กชายที่ก้มกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯ จ.ปัตตานี เมื่อปี 2516 ผู้สื่อข่าวจึงไปที่สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 8 หมู่ 10 ต.ท่าเรือ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ที่ทำงานของนายพยุงศักดิ์ เมื่อตอนสายวันที่ 29 มี.ค. ได้พบกับนายทรงวุฒิ หนูทวี หัวหน้าสำนักงานจัดรูปที่ดินฯ ซึ่งเปิดเผยว่า นายพยุงศักดิ์เดินทางไปอบรมโครงการเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 27 มี.ค.-5 เม.ย. กำหนดกลับนครศรีธรรมราชวันที่ 7 เม.ย.

จากนั้นนายทรงวุฒิได้นำทะเบียนประวัติข้าราชการของนายพยุงศักดิ์มาให้ดู ระบุว่าเกิดวันที่ 28 ส.ค. 2512 เลขประจำตัวประชาชน เลขที่ 3900100135211 บิดาชื่อจิตต์ มารดาชื่อจุฑาลักษณ์ ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 179/126 หมู่ 5 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา นายทรงวุฒิกล่าวด้วยว่า นายพยุงศักดิ์เป็นคนสมถะ พูดจาดี สุภาพเรียบร้อย มีน้ำใจทั้งกับเพื่อนร่วมงานและบุคคลทั่วไป ปกติเช่าห้องพักอยู่ที่วิชิตแมนชั่น สี่แยกหัวถนนศาลามีชัย อ.เมืองนครศรีธรรมราช วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะกลับไปอยู่กับครอบครัวที่ จ.สงขลา ภาพขณะก้มกราบในหลวงสมัยเป็นเด็ก นายพยุงศักดิ์นำมาปิดไว้ที่ผนังเหนือศีรษะและตั้งไว้บนโต๊ะทำงาน บอกกับเพื่อนร่วมงานว่า เป็นภาพตนเองตอนเด็กก้มกราบในหลวง

วันเดียวกัน นายพยุงศักดิ์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่โรงเรียนธุรกิจสารสนเทศ ชั้น 4 อาคารเจ้าพระยาทาวเวอร์ ซอยวัดสวนพลู ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ ว่า รู้สึกดีใจอย่างมากที่ภาพตนเข้าเฝ้าในหลวงได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 ภาพ ร่วมจัดนิทรรศการในวโรกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ทั้งพ่อ แม่ ภรรยา และลูกต่างดีใจ ตื้นตันใจที่พระองค์ทรงเห็นความสำคัญและรักพสกนิกรชาวไทยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แม้ว่าจะเป็นเด็กตัวเล็กๆแต่ พระองค์ก็ทรงหยุดให้ตนได้ทำความเคารพ

เมื่อสองปีก่อน ผู้ตรวจการสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เคยให้เจ้าหน้าที่ของจังหวัดปัตตานีตามหาเด็กในภาพนี้ ซึ่งก็รู้ตัวตั้งแต่ตอนนั้น แต่ข่าวไม่ดังเลยเงียบหายไป จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งโทรศัพท์ไปหา และต่อมาก็เห็นภาพในวัยเยาว์ของตัวเองปรากฏอยู่บนหน้าหนึ่ง นายพยุงศักดิ์กล่าวและว่า วันนั้นแม่ตนคือนางจุฑาลักษณ์บอกให้ไปกราบในหลวง ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเพราะยังเป็นเด็ก และได้ทำตามที่แม่บอก แต่มาวันนี้เป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ทั้งของตนเองและครอบครัว นอกจากนี้ยังได้ทำงานสนองเบื้องพระยุคลบาทด้วย คือทำงานเกี่ยวเนื่องกับโครงการพระราชดำริ เป็นนิติกรสำนักงานจัดรูปที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง

ขณะที่นางจุฑาลักษณ์ กาฬมิค มารดานายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ได้ตัดภาพที่ลูกชายตัวน้อยก้มกราบในหลวงจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเก็บไว้ และครั้งใดที่ในหลวงเสด็จฯมาที่สงขลาหรือใกล้เคียง ตนกับครอบครัวจะไปรับเสด็จฯทุกครั้ง สอนให้ลูกกราบไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ไม่ว่าจะในธนบัตร ปฏิทิน และยังช่วยอบรมสั่งสอนหลานชาย ชื่อ ด.ช.นนทพันธ์ กาฬมิค อายุ 1 ขวบ 3 เดือนให้รักในหลวงด้วย สำหรับเหตุการณ์ที่เป็นภาพประทับใจไปชั่วชีวิต วันนั้นตนและครอบครัวไปรับเสด็จฯ ที่สนามบินบ่อทอง จำได้ว่าเป็นวันที่ 18 ส.ค. 2516 ระหว่างรอรับเสด็จฯ ลูกชายนำหน้ากากไอ้มดแดงมาสวมเล่น คอยถามว่าเมื่อไหร่ในหลวงจะเสด็จฯมา เมื่อพระองค์ท่านเสด็จฯมาถึงก็ถอดหน้ากากออกวิ่งแทรกไปแถวหน้าเข้าไปกราบพระองค์ท่าน และกราบทุกพระองค์

สำหรับภาพเด็กชายกราบในหลวง เคยได้รางวัลภาพข่าวยอดเยี่ยมของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เมื่อปี 2517 ผู้ที่ถ่ายภาพนี้คือนายดิน ณ วังเก่า ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดปัตตานี เป็นเหตุการณ์ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จขึ้นเครื่องบินพระที่นั่ง ณ ท่าอากาศยานปัตตานี หน้าค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก เพื่อกลับกรุงเทพฯหลังจากเสด็จฯเยี่ยมพสกนิกร เด็กน้อยได้วิ่งออกจากฝูงชนก้มลงกราบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทราบภายหลังว่าชื่อ ด.ช.พยุงศักดิ์ กาฬมิค ตอนนั้นอายุแค่ 4 ขวบ

ส่วนบุคคลในภาพถ่ายอีกคน เป็นเด็กในชุดชาวเขา ที่พ่ออุ้มให้ในหลวงป้อนยา ล่าสุดได้เปิดตัวแล้วเช่นกัน ชื่อนายจาเขอ ไพรประดิษฐ์ผล ชาวมูเซอแดง ปัจจุบันอายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 2 ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน โดยนายจะเขอพร้อมด้วยครอบครัวได้ เดินทางเข้ากรุงเทพฯแล้ว ผู้สื่อข่าวทราบข้อมูลจากนายดนัย สิทธิพรคำลือ นายก อบต.ถ้ำลอด ว่า เมื่อปี 2513 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ที่บ้านแสนคำลือ หมู่ 2 ต.ถ้ำลอด นายจาแตะ ไพรประดิษฐ์ผล ได้อุ้มลูกชายคือนายจาเขอ ซึ่งป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจไปเฝ้ารับ เสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงป้อนยาให้ ด.ช. จาเขอที่ขณะนั้นอายุ 2 ขวบ และการเสด็จฯครั้งนั้นชาวบ้านได้ถวายอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อกระทิง พร้อมเหล้าป่าดองเขากวางอ่อนให้เสวยด้วย

ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ของสถานีโทรทัศน์ไอทีวีได้นำนายจาเขอ ไพรประดิษฐ์ผล อดีตเด็กชายชาวเขาเผ่ามูเซอแดง ที่ปรากฏอยู่ในภาพถ่ายขณะรับพระราชทานยา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. พ.ศ.2513 มาเปิดตัวแถลงข่าวที่ตึกนารีสโมสร โดยนายจาเขอเดินทางมาพร้อมกับนายจาแตะ ไพรประดิษฐ์ผล บิดา และนายจ่าฟู น้องชาย ซึ่งทำหน้าที่เป็นล่าม

นายจาเขอกล่าวสั้นๆว่า ในสมัยเด็กไม่รู้สึกอะไรเพราะจำความไม่ได้ แต่เมื่อทราบเรื่องจากบิดาว่าเคยได้รับพระราชทานยา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็รู้สึกภูมิใจ ดีใจมาก ขณะที่นายจ่าฟูกล่าวว่า ทราบข่าวเรื่องภาพถ่ายของนายจาเขอจากหนังสือพิมพ์ และบิดาเล่าให้ฟังว่า เด็กอายุ 2 ขวบ ที่ได้รับพระราชทานยาจากในหลวง คือนายจาเขอ โดยวันนั้นในหลวงเสด็จฯมาที่หมู่บ้านแอโก๋ อ.ปางมะผ้า นายจาเขอกำลังป่วย ไม่ยอมกินยา แต่เมื่อได้รับพระราชทานยาจากในหลวงก็ยอมกินยา และเป็นคนเดียวในหมู่บ้านที่ได้รับพระราชทานยาในครั้งนั้น จากนั้นพ่อเฒ่าแสนคำลือผู้นำชาวมูเซอแดง ได้ชวนในหลวงไปหมู่บ้านแสงคำลือที่อยู่ใกล้เคียงกัน โดยพ่อเฒ่าแสนคำลือได้ชวนในหลวงเสวยเหล้ายาดองกระดูกเสือ ในหลวงตรัสว่า ถ้าผู้เฒ่าแสนคำลือกินได้ ในหลวงก็กินได้ แล้วในหลวงได้เชิญผู้เฒ่าแสนคำลือไปเที่ยวในวัง แต่ผู้เฒ่าแสนคำลือบอกว่า ยังไปไม่ได้เพราะติดธุระ นอกจากนี้ ในหลวงทรงแนะนำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านเลิกปลูกฝิ่นให้หันมาปลูกพืชอื่นแทน

ด้าน น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้วจะประสานกับกรมการปกครอง สำนักพระราชวัง รวมถึงพยานบุคคลที่สามารถยืนยันในเหตุการณ์ได้ เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้อง หากได้ข้อมูลเป็นที่ชัดเจนแล้วจะประกาศ อย่างเป็นทางการอีกครั้งพร้อมกับบุคคลในภาพถ่ายที่เหลืออีก 4 คน สำหรับภาพถ่าย เด็กก้มกราบในหลวง ทางคุณหญิงแสงดาว สยามวาลา ประธานมูลนิธิช่วยเหลือเด็กกำพร้าของสตรีไทยมุสลิมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสำนักงานจังหวัดปัตตานี แจ้งมาว่า บุคคลในภาพถ่ายชื่อนายพยุงศักดิ์ กาฬมิค ปัจจุบันรับราชการเป็นนิติกร 6 สำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับบนพื้นดินและ มีพระราชปฏิสันฐานกับชายสูงอายุที่คุกเข่าอยู่นั้น ได้รับแจ้งว่าชายดังกล่าวชื่อนายดี ศรีรัตน์ ราษฎรบ้านโคกกระท่อม ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว เหลือเพียงภรรยาอยู่ที่หมู่บ้านโพธิ์ทอง ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส แต่วันเวลาและสถานที่ถ่ายภาพยังไม่ชัดเจนต้องตรวจสอบอีก รวมทั้งภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานของให้ชาวไทยมุสลิมเป็นภาพถ่ายที่ จ.สตูล แต่ไม่ทราบวันเวลาที่ถ่าย ต้องตามหาบุคคลในภาพต่อไป

สุดท้ายเป็นภาพที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งทรงผนวช ถ่ายขณะทรงรับอาหารบิณฑบาตจากราษฎรในกรุงเทพฯ ซึ่งมีการระบุว่า ภาพดังกล่าวถ่ายเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2499 สถานที่คือบริเวณด้านข้างวัดบวรนิเวศวิหาร กำลังสืบหาตัวบุคคลในภาพ ทั้งนี้ ขอเรียนว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่ทุกฝ่ายได้พยายามติดตามบุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายเหล่านี้ เพื่อจะได้ สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกของแต่ละคนที่มีโอกาส ได้ใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจะเชิญมาปรากฏตัวตามสื่อต่างๆ และจะให้เข้าร่วมในพิธีเปิดงานนิทรรศการ โดยบุคคลในภาพถ่ายจะปรากฏตัวในจุดที่มีการแสดงภาพถ่ายนั้นด้วย น.พ.สุรพงษ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ช่วงสายวันเดียวกัน ได้มีนายบรรพต ไพรปรีเปรม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เข้าพบนายสุชาติ ทีคะสุข นายอำเภอปางมะผ้า ยืนยันว่าเป็นผู้ชายในภาพที่อุ้มเด็กให้ในหลวงป้อนยา เด็กที่อุ้มเป็นลูกสาวคนที่ 2 ของตน ปัจจุบันชื่อนางนาเจ๊อะ รัตนผาแดง อายุ 37 ปี ซึ่งนายสุชาติ นายอำเภอปางมะผ้า กล่าวว่า ดูจากภาพเปรียบเทียบกับใบหน้านายบรรพตก็มีส่วนคล้ายคลึง จึงยังไม่รู้ว่าใครเป็นตัวจริงตัวปลอม ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนนายจาเขอกับครอบครัวตอนที่มีคนมารับพาเข้ากรุงเทพฯ ไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์