มส.ชี้พระสงฆ์กราบไหว้ยันตระไม่สมควร

มส.ชี้พระสงฆ์กราบไหว้ยันตระไม่สมควร

พศ.ชี้อดีตพระยันตระใช้คำ 'อาตมา'แทนตัวเองไม่เหมาะสมเหตุใช้สำหรับพระสงฆ์เท่านั้น กรรมการ มส.ชี้พระสงฆ์เข้ากราบไหว้ไม่สมควร

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2557 นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์  ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)

กล่าวถึงกรณีนายวินัย ละอองสุวรรณ หรืออดีตพระยันตระ อมโรว่าจากการตรวจสอบข้อมูลคดีความของอดีตพระยันตระ พบว่า คดีหมิ่นประมาทได้หมดอายุความลงไปแล้ว ส่วนคดีของการไม่ทำตามมติมหาเถรสมาคมให้สึกจากความเป็นพระ เนื่องจากปาราชิกนั้น พศ.ต้องขอไปตรวจสอบข้อมูลว่าเรื่องเกิดขึ้นมากว่า 20 ปี และกรมการศาสนา(ศน.)ในขณะนั้นได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอดีตพระยันตระไว้เมื่อใดและคดีหมดอายุความแล้วหรือไม่คงต้องมีตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนอีกครั้ง
 
ส่วนมีข้อถามมายังพศ.ว่า ปาราชิกแล้วกลับมาบวชใหม่ได้หรือไม่

 ตอบได้ว่า พระธรรมวินัยได้กำหนดไว้ว่าหากภิกษุ ต้องปาราชิก แล้วไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ในพระพุทธศาสนาได้ตลอดชีวิต ส่วนกรณีที่พบว่าพระบางรูปที่ต้องปาราชิกแล้วกลับมาบวชใหม่นั้น ต้องไปถามอุปัชฌาย์ซึ่งตามหลักการแล้ว ผู้ที่เป็นอุปัชฌาย์ จะต้องสืบประวัติผู้ที่บวชต้องรู้ประวัติเบื้องต้นว่า เคยปาราชิกหรือไม่หากเคยก็ไม่สามารถบวชให้ได้ แต่ถ้ายังบวชทั้งที่รู้อยู่แล้ว พระอุปัชฌาย์ถือว่ามีความผิดเช่นกัน ทั้งนี้ ในส่วนกรณีของอดีตพระยันตระก็ไม่สามารถมาบวชใหม่ได้ เพราะถือว่า ต้องปาราชิก หากมีพระอุปัชฌาย์รูปใดบวชให่ถือว่ามีความผิดเนื่องจากจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ประวัติอดีตพระยันตระ
    
นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่าส่วนที่ถามว่าตอนที่อดีตพระยันตระไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้วมีการออกบิณฑบาตนั้นจะมีความผิดไม่

ซึ่งการออกบิณฑบาตก็ไม่ผิดเพราะไม่ได้แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์หรือว่าแต่งตัวเป็นพระซึ่งมีหลายๆ คนเป็นฤาษีก็ออกบิณฑบาตได้ส่วนที่ถามอดีตพระยันตระใช้คำแทนตัวเองว่าอาตมานั้นไม่มีข้อกฎหมายกำหนดไว้ว่าห้ามใช้คำว่าอาตมาแต่ในความเป็นจริงถ้าไม่ได้เป็นพระก็ไม่สมควรนำไปใช่เพราะดูไม่เหมาะสมเพราะอย่างที่ทราบว่าคำว่า อาตมานั้นใช้สำหรับพระสงฆ์อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีหลายคนที่ไม่ได้บวชเป็นพระสงฆ์แต่ก็นำคำว่าอาตมาไปใช้อยู่

ด้านพระเทพวิสุทธิกวี (เกษม สัญฺญโต) เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร กล่าวว่า

สาเหตุที่ไม่สามารถจัดการปัญหาความวุ่นวายของวงการสงฆ์ในปัจจุบันได้ มีแต่เรื่องที่ไม่เหมาสมะเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เพราะปัจจุบันกฎหมายบ้านเมืองขัดกับพระธรรมวินัยไม่เอาผิดและลงโทษอย่างจริงจัง บางคนปาราชิกไปแล้วก็พ้นผิดโดยที่ไม่เอาผิดทางกฎหมายบ้านเมือง ทั้งนี้ที่ผ่านก็พยายามผลักดัน พ.ร.บ.อุปภัมภ์พระพุทธศาสนา เพื่อร่างกฎหมายและกำหนดบทลงโทษให้รัดกุมมากขึ้น ไม่ใช่แค่ปาราชิกแล้วทุกอย่าจบหรือว่าผ่านไประยะหนึ่งแล้วคดีความหมดอายุโดยที่ไม่สามรถทำอะไรได้ อย่างกรณีอดีตพระยันตระก็คงไม่สามารถทำอะไรได้คงต้องปล่อย เพราะคดีความหมดอายุแล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์