โผล่แล้ว!อดีตพระแต๋วยันสึกนานแล้ว

โผล่แล้ว!อดีตพระแต๋วยันสึกนานแล้ว

โผล่แล้ว!อดีตพระแต๋ว'นาตาลีร้อยหน้า'ยันสึกนานแล้ว ลั่นโดนกลั่นแกล้งเอารูปตอนบวชมาโพสต์เฟซบุ๊ก พศ.เตรียมนำเรื่องเข้า มส. พระ-เณรเล่นเฟซบุ๊กไม่เหมาะ

เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)

กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามพระแต่งหญิง หรือ นาตาลีร้อยหน้า เจ้าของเฟซบุ๊ก “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋” ว่า ขณะนี้สั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทุกจังหวัดดำเนินการค้นหาบุคคลดังกล่าวว่าสังกัดอยู่ที่ใด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยประสานงานกับเจ้าคณะปกครองให้ช่วยกันค้นหา คาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม วันที่ 21 เมษายนนี้ ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) จะรายงานเรื่องดังกล่าวให้กรรมการ มส.รับทราบ โดยเฉพาะการใช้เฟซบุ๊กของพระสงฆ์ สามเณร ที่จะต้องให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะปกครองทั่วประเทศเข้มงวดและกำชับตรวจสอบ
    
นายนพรัตน์ กล่าวต่อว่า การห้ามใช้เฟซบุ๊กเลยนั้น ห้ามยาก เนื่องจากพระหลายรูปใช้ในการศึกษาหาความรู้และมีบางส่วนที่ใช้ในทางที่ผิด
 
โดยโพสต์ในสิ่งที่ไม่เหมาะสม จนเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งขอเน้นย้ำต่อพระสงฆ์ สามเณรว่า การใช้โซเชียลมีเดียต้องใช้อย่างเหมาะสม หากใช้ไม่เหมาะสมโพสต์ในสิ่งที่เกินเลยความเป็นสมณะก็อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ อาทิ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ พศ.ได้ร่วมมือกับสำนักงานศาลยุติธรรม จัดอบรมให้แก่พระภิกษุ สามเณร ให้มีความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อให้รู้ว่า บทบาทของตนเป็นอย่างไร และไม่ทำพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย
    
“ผมได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า บุคคลดังกล่าวอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะพฤติกรรมที่แสดงออกมาก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำว่า พระสงฆ์ สามเณร ที่ปฏิบัติดียังมีอยู่อีกมาก” ผอ.พศ.กล่าว
    
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊ก “นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋”
 
พบว่า มีนำภาพและคลิปบางส่วนออกจากหน้าเฟซของตนเองแล้ว แต่ยังไม่ได้ปิดเฟซดังกล่าว และยังเข้าไปโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กสมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย ว่า ไม่กลัว ไม่เปลี่ยนชื่อ เพราะดังแล้ว และทำถูกต้องที่ไม่ปกปิด กำลังเตรียมหลักฐานในการที่จะสึกแล้ว นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความที่มีเนื้อหาลักษณะท้าทาย อ้างมีฤทธิ์เยอะ และเชื่อว่าตนเองไม่ผิด ผู้ที่เป็นชาวพุทธน่าจะเข้าใจ
    
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ออกแถลงการณ์ใจความว่า
 
ตามที่มีปรากฏข่าวเกี่ยวกับการประพฤติตนไม่เหมาะสมของบุคคลที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์และคฤหัสถ์ ตามสื่อต่างๆ โดยอ้างว่าศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ในการนี้ มจร  ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งคณะสงฆ์ไทยได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักทะเบียนและวัดผลจากคณะต่างๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีชื่อหรือบุคคลตามที่ปรากฏในสื่อว่าศึกษาใน มจร.แต่อย่างใด จึงแถลงมาเพื่อยืนยันว่าบุคคลตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นนิสิตของ มจร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น พระธรรมสุธี อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และนายกสมาคมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
 
ซึ่งมีการระบุข้อมูลของพระฉาวว่าสังกัดวัดตัวย่อ “ม” กล่าวยืนยันว่า ภาพของพระที่ปรากฏเป็นข่าวน่าจะเป็นพระที่มาใช้สถานที่วัดแห่งนี้เป็นสนามสอบพระปริยัติธรรมเท่านั้น เรื่องนี้ได้ตรวจสอบรายชื่อพระทั้งหมดกว่า 200 รูปแล้ว ซึ่งพระรูปดังกล่าวไม่ได้สังกัดวัดมหาธาตุฯ อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามหลังจากในแฟนเพจ FuckGhost ฟักโกสต์: สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย
 
มีการโพสต์เฟซบุ๊กเบอร์โทรศัพท์มือถือเบอร์หนึ่งที่อ้างว่าเป็นเบอร์ของเจ้าของเฟซบุ๊ก "นู๋ร๊ากผัวเขา ผัวเขาก้อร๊ากนู๋" ผู้สื่อข่าวถึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จก็พบบุคคลที่อ้างชื่อว่า นาตาลี หรือน้องโฟกัส  ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นพริตตี้อยู่ที่ภูเก็ต  ยอมรับว่า เป็นภาพของตนจริงที่มีการเผยแพร่ตามสังคมออนไลน์ต่างๆ ซึ่งตนเคยบวชเป็นพระเมื่อปี 2551 ที่วัดชื่อดังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้ออกจากวัดดังกล่าว มาอยู่ยังวัดดังในกรุงเทพมหานคร  สมัยบวชก็ได้เรียนเป็นนักธรรมจนสอบผ่านถึงขั้นนักธรรมเอก แต่ยืนยันว่า ขณะที่บวชก็พยายามปฏิบัติตนไม่ให้ผิดพระธรรมวินัยใดๆ และได้สึกออกจากความเป็นพระมา 2 ปีแล้ว
 
ส่วนกรณีที่เป็นภาพแต่งหญิงนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ตนได้สึกออกมาแล้ว และหลังจากสึกก็ได้เดินทางไปทำงานที่ภูเก็ต

แต่ก็ไม่รุ่งและมีคนแนะนำให้ไปปฏิบัติธรรม จึงโกนหัวนุ่งขาวห่มขาวไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เผยแพร่ภาพดังกล่าวทั้งหมด มองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะภาพแต่ละภาพเกิดขึ้นต่างช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมที่จะเข้าไปที่กองปราบปราม เพื่อชี้แจงข้อมูล เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียต่อวงการพระพุทธศาสนา
                
“ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวต้องการอะไร ซึ่งข้อมูลที่มีการนำไปเผยแพร่นั้นก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด มีการมโนเอาเอง เพราะตนไม่เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยสงฆ์อะไรทั้งนั้น และก็ไม่อยากให้ไปดึงมหาวิทยาลัยพระหรือพระผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง” นาตาลี กล่าว



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์