ด.ญ.ทารก 2 หัวเสียชีวิตแล้ว แพทย์ระบุปอดรั่ว

ด.ญ.ทารก 2 หัวเสียชีวิตแล้ว แพทย์ระบุปอดรั่ว

ด.ญ.ทารก 2 หัวเสียชีวิตแล้ว แพทย์ระบุปอดรั่ว ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้น้อย

ผู้ตรวจฯสธ.ประชุม ร่วมผู้บริหารโรงพยาบาลและแพทย์ที่รักษา ก่อนแถลงเสียใจกับครอบครัว แต่ยืนยันแพทย์ทำการรักษาอย่างเต็มที่แล้ว เตรียมเยียวยาตามระเบียบราชการ ด้านนายกแพทยสภา เผยการอัลตราซาวด์ หากทารกอยู่ในท่าซ้อนกัน ก็ไม่อาจสามารถดูได้ ระบุผู้เชี่ยวชาญในการดูภาพอัลตราซาวด์ในไทย มีไม่ถึงร้อยคน ส่วนพ่อเด็กร้องสอบมาตรฐานการรักษา โดยจะเก็บศพบุตรสาวไว้ก่อน จนกว่าจะทราบว่าเป็นความผิดของใคร

จาก กรณีน.ส.เวียงไฟ คิดทะวงศ์ คลอดทารกเพศหญิง ซึ่งมีความผิดปกติ คือมี 2 หัวในร่างเดียว

 ที่ร.พ.พุทธโสธร ต่อมานายเผชิญ ภัสสร สามีได้เข้าร้องเรียนนางปวีณา หงสกุล รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี (องค์กรสาธารณประโยชน์) ช่วยเหลือให้ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากเคยไปตรวจอัลตราซาวด์ ที่ ร.พ.แปลงยาว แล้วแพทย์แจ้งว่าลูกสาวผิดปกติ ก่อนส่งตัวมารักษาที่ร.พ.พุทธโสธร แต่ทางแพทย์ที่ร.พ.แจ้งผลอัลตราซาวด์ว่าเป็นเด็กแฝด ไม่ได้ผิดปกติ แต่เมื่อผ่าคลอดออกมา ปรากฏว่าบุตรสาวผิดปกติคือมี 2 หัวในร่างเดียว และร่างกายไม่สมบูรณ์ ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่อง นี้ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางญาติพี่น้องได้รับแจ้งจากแพทย์ของร.พ.พระพุทธโสธรว่าทารกน้อย 2 หัว

 ได้เสียชีวิตลงเมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยวันเดียวกันนี้ นพ.วิศิษฎิ์ ตั้งนภากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตบริการสุขภาพที่ 6 พร้อมด้วย นพ.ประสิทธิ์ ตั้งมานะ ผอ.ร.พ.พุทธโสธร และนางทิพวัลย์ ชัยปราการ ผอ.ร.พ.แปลงยาว รวมทั้งแพทย์และพยาบาลผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันประชุมถึงความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวที่ร.พ.พุทธโสธร โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

นพ.ประสิทธิ์เปิดเผยว่า เด็กทารกน้อย 2 หัวเสียชีวิตแล้วเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา

 ขณะนี้ศพยังอยู่ที่ร.พ.พุทธโสธร ทางร.พ.รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะมีการดูแลครอบครัว รวมทั้งเยียวยาตามระเบียบของทางราชการ ส่วนที่เกิดผิดปกติแบบนี้ พบว่าเกิดจากกรรมพันธุ์แน่นอน เป็นความผิดปกติของยีนและร่างกาย ทำให้เด็กเกิดมาผิดปกติ ไม่ได้เกิดจากการบริการทางการแพทย์ ทั้งนี้จากการศึกษาทางวิชาการจากมหาวิทยาลัยและแพทย์ต่างๆ กรณีที่เด็กมี 2 ศีรษะร่างกายเดียวกัน อวัยวะภายในชุดเดียวกัน การผ่าตัดแยกร่าง แทบไม่มีโอกาสรอดเลย และทั่วโลกมีเกิดขึ้น 9 ราย และทั้ง 9 รายเสียชีวิตทั้งหมด จากการชันสูตรพบภาวะวิกฤตของทารก อันเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต เนื่องจากมีถุงลมในปอดรั่ว ทำให้มีลมเกิดขึ้นในปอด หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงในสมองและร่างกายได้น้อย

นพ.ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเครื่องอัลตราซาวด์นั้น การตรวจรพ.พุทธโสธรตรวจพบลักษณะมี 2 ศีรษะ มีกระดูกสันหลังสองชุด

 ส่วนลักษณะอื่น ตรวจพบได้เพียงมีลักษณะนอนตะแคง ภาพซ้อนกันไม่ชัดเจน ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นเด็กที่มี 2 ร่างกายหรือร่างกายเดียว โดยพื้นฐานของอุบัติการณ์ที่พบว่าเด็กภาวะแบบนี้ ใน 250,000 ราย จะพบเพียงรายเดียว ยืนยันว่าร.พ.ได้ดูแลทารกน้อยอย่างเต็มความสามารถแล้ว ส่วนเหตุที่ยังไม่ส่งหรือไม่ส่งไปรักษาต่อที่ร.พ.ที่ 3 นั้น ขอตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าติดขัดปัญหาเรื่องอะไร

สำหรับ การเยียวยารายดังกล่าว เด็กที่เกิดใหม่ทุกคนจะมีสิทธิตามหลักประกันสุขภาพ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่อย่างใด ส่วนการเยียวยานั้น จะได้แจ้งต่อคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพ ตามมาตรา 41 ของหลักประกันสุขภาพ ว่าจะสามารถเยียวยาได้อย่างไรบ้างต่อไปŽ นพ.ประสิทธิ์กล่าว

ด้าน นพ.วิศิษฎิ์กล่าวว่า รู้สีกเสียใจกับเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ เจ้าหน้าที่ทุกคนพยายามทำงานด้วยความตั้งใจ แต่มาเกิดปัญหา


 ในเรื่องอัลตราซาวด์ที่ผู้ปกครองเด็กต้องการความมั่นใจ แต่การวินิจฉัยก็อยู่ในกรอบของทางแพทย์ทุกประการ ไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่สนใจกับการร้องขอ โดยดูจากอัลตราซาวด์แล้ว สามารถดำเนินการให้ความช่วยเหลือได้ ซึ่งต้องยอมรับกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งเข้าใจในความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลก็ต้องดูแลรับผิดชอบ ตามระเบียบทางราชการ โดยเฉพาะหลักของมนุษยธรรม ซึ่งจะต้องเจรจากับครอบครัวของผู้เสียหาย ระยะนี้ก็ต้องดูแลรักษามารดาของเด็ก ให้มีสุขภาพแข็งแรงก่อน

ด้านนาย เผชิญ บิดาของด.ญ. กล่าวว่า จะร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯต่อไป เพื่อดำเนินการหาผู้ที่รับผิดชอบ

โดยเฉพาะเรื่องของผลอัลตราซาวด์ที่แตกต่างกัน เมื่อร้องขอจากแพทย์ร.พ.พุทธโสธร เพื่อไปอัลตราซาวด์ที่ร.พ.ชลบุรี เพราะเข้าใจว่าเครื่องมือ อุปกรณ์ดีกว่า แต่ได้รับการปฏิเสธ ส่วนศพบุตรสาวยังจะขอเก็บไว้ก่อนจนกว่าผลการสอบสวนจะออกมาว่าเป็นความผิดของ ใคร ตนเองไม่อยากให้ครอบครัวของรายต่อไปตกเป็นเหยื่อ เหมือนครอบครัวตนเอง

ต่อ มาศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า การอัลตราซาวน์เป็นเทคโนโลยีการดูภาพจากเงาสะท้อน

ซึ่งเป็นแบบสองมิติ ไม่ได้มีความชัดเจนคมชัด เหมือนระบบสามมิติหรือการถ่ายภาพ โดยจะเห็นเพียงความผิดปกติในจุดใหญ่ๆ เช่น หัวโตผิดปกติ หัวใจ แขน ขา ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ผิดปกติ เป็นต้น โดยเฉพาะหากลักษณะท่าเด็กในครรภ์อยู่ในท่าซ้อนหรือบังกัน ก็จะทำให้เห็นได้ไม่ชัดเจน โดยปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญในการดูภาพอัลตราซาวน์ในประเทศไทย มีไม่ถึงร้อยคนเท่านั้น

ความผิดปกติของเด็กส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น จะเป็นจากพันธุกรรม หรือปัจจัยจากสิ่งแวดล้อมตั้งแต่แรกเกิด

 การโทษการวินิจฉัยของแพทย์ เป็นสิ่งที่ทำให้แพทย์เสียกำลังใจพอสมควร ซึ่งการทำอัลตราซาวน์เพื่อดูความผิดปกตินั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่จะวิเคราะห์การยุติการตั้งครรภ์ ในกรณีที่มีความผิดปกติมากจนอาจเป็นอันตรายต่อแม่หรือเด็ก ซึ่งแพทย์โดยมากจะสามารถดูได้ในความผิดปกติจุดใหญ่เท่านั้น แต่หากเกิดการซ้อนกัน บางครั้งก็อาจทำให้ไม่ทราบ หรือนึกไม่ถึงได้ว่าจะเป็นอย่างไรŽนพ.สมศักดิ์กล่าว

ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า


 ในวันนี้ทีมงานของน.ส.ปวีณา และนายเผชิญ บิดาของเด็กหญิงได้เข้าร้องเรียนเรื่องคุณภาพมาตรฐานการให้บริการของ ร.พ.พุทธโสธร โดยเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้เพื่อประสานต่อไปยังสำนักงานปลัดซึ่งเป็นผู้ ดูแลโดยตรง เบื้องต้นทางผู้ตรวจราชการกระทรวง และผอ.ร.พ.ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับญาติในเบื้องต้นแล้ว เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์