เจ้าของอู่ แขวนจตุคามฯ โดนรถไฟชนดับ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 เม.ย.


พ.ต.ต.วินัย โห้เหรียญ สารวัตรเวร สภ.อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดเหตุรถไฟชนรถเก๋งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย

เหตุเกิดบริเวณ

ถนนตัดทางรถไฟในซอยบ้านหนองหิน หมู่ 8 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อุดม จันทร์พิทักษ์ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.นพดล ศรสำราญ ผกก.สภ.อ.บางละมุง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิส่างบริบูรณ์พัทยา

รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ

รถไฟที่มีโบกี้บรรทุกน้ำมัน ขบวนรถหมายเลข 536 หมายเลขหัวรถจักร 4047 มุ่งหน้าจาก จ.ชลบุรี ไปยัง จ.ระยอง พุ่งชนกับรถเบนซ์ สีฟ้า รุ่น 500 SEL ทะเบียน 9 ช-4756 กรุงเทพมหานคร โดยรถไฟได้ลากซากรถเก๋งจากจุดเกิดเหตุไปไกลราว 500 เมตร

ภายในซากรถเก๋ง


พบศพคนขับชื่อนายวิศิษฏ์ ลักษณะฉิมพลี หรือช่างหนุ่ม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/831 หมู่ 5 ต.บางคล้า อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สภาพแขนขาหัก ศีรษะแตก

และที่เบาะด้านหลังคนขับ

พบศพนายตาล ไม่ทราบนามสกุล อายุ 17 ปี สภาพกะโหลกแตก

นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ชื่อ

นายสมใจ ยาดี อายุ 25 ปี และ
นายรังสรรค์ บัวแพง อายุ 27 ปี
ทั้งคู่นั่งอยู่ที่เบาะฝั่งซ้ายของตัวรถได้รับบาดเจ็บสาหัส

เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างตัดซากรถ

นำศพและร่างผู้บาดเจ็บออกมาอย่างทุลักทุเล นำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.กรุงเทพพัทยา ตรวจสอบในรถเก๋งด้านฝั่งคนขับซึ่งถูกรถไฟชนพังยับเป็นเศษเหล็ก พบที่กระจกมองหลังแขวนจตุคามรามเทพ รุ่นมหาเศรษฐี ของวัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 1 องค์ และยังพบเงินสดอีกจำนวนหนึ่งจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายอดิศักดิ์ เท้าศรีสกุล อายุ 40 ปี พนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าวให้การว่า


ก่อนเกิดเหตุขับรถไฟที่มีโบกี้สำหรับบรรทุกน้ำมัน แต่เป็นโบกี้เปล่าจำนวนกว่า 20 โบกี้ ออกจาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อไปรับน้ำมันที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง โดยใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ

กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ

เป็นถนนตัดทางรถไฟเข้าหมู่บ้านหนองหิน ได้เปิดสัญญาณเตือนก่อนหน้าที่จะมาถึงจุดตัดราว 2 กม. แต่พอรถไฟแล่นมาถึงทางแยกซึ่งไม่มีแผงเหล็กกั้น

จู่ ๆ รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับพุ่งออกจากหมู่บ้าน ตัดหน้ารถไฟกะทันหัน

ทำให้ถูกรถไฟชนอย่างแรงแล้วลากซากรถเก๋งติดหัวรถจักร ห่างจากจุดทางแยกไปกว่า 500 เมตร ก่อนที่จะเบรกรถไฟให้หยุดไว้ได้ เมื่อรถไฟหยุดนิ่งจึงรีบลงมาดูผู้บาดเจ็บที่ติดคาอยู่ในรถเก๋ง โดยมีชาวบ้านที่ได้ยินเสียงอุบัติเหตุพากันมาช่วยกันคนเจ็บ และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดังกล่าว

ญาติของนายวิศิษฏ์ที่เดินทางมาดูศพเล่าว่า


นายวิศิษฏ์ หรือช่างหนุ่ม เป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิทใกล้สถานีตำรวจทางหลวงพัทยา ก่อนเกิดเหตุ ขับรถเก๋งพาลูกน้องอีก 3 คน ออกจากอู่ซ่อมรถ เพื่อไปดูเรือสปีดโบ๊ตที่สั่งต่อไว้ที่อู่ต่อเรือแห่งหนึ่ง ภายในซอยหมู่บ้านหนองหิน หลังตรวจสภาพเรือเรียบร้อยแล้ว ก็นัดให้เจ้าของอู่เรือลากเรือไปลงน้ำเพื่อลองขับและทดสอบเครื่องยนต์ที่หาดจอมเทียน

โดยนายวิศิษฏ์ขับรถออกมาก่อน


แต่เมื่อมาถึงจุดตัดทางรถไฟ คาดว่าคงไม่ได้ยินเสียงหวูดเตือนว่าจะมีรถไฟแล่นผ่าน ประกอบกับเส้นทางข้ามทางรถไฟไม่มีแผงเหล็กกั้น นายวิศิษฏ์จึงเร่งเครื่องพุ่งข้ามทางไปอย่างรวดเร็ว เป็นจังหวะเดียวกับที่มีขบวนรถไฟผ่านมาพอดี ทำให้เกิดชนกันอย่างแรง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์