กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
นักท่องเที่ยวแห่ชมผามออีแดง ประตูสู่เขาพระวิหารคึกคัก ส่งท้ายปี
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ที่ผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ได้มีบรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ พากันขึ้นมาเที่ยวชมความสวยงามของผามออีแดง ซึ่งเปรียบเสมือนประตูสู่เขาพระวิหารกันอย่างคึกคัก
โดยนักท่องเที่ยวต่างพากันชื่นชมกับความสวยงามตามธรรมชาติของผามออีแดง และมีลิงป่าที่อาศัยอยู่บริเวณผามออีแดงพากันปีนป่ายที่หินบริเวณหน้าผาให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารัก และชมทะเลหมอกที่ปกคลุมอยู่ใต้หน้าผามออีแดงอย่างสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์
อีกทั้ง นักท่องเที่ยวยังได้เที่ยวชมภาพแกะสลักหินนูนต่ำ อายุกว่า 2,500 ปี รวมทั้งส่องกล้องดูความสวยงามของปราสาทพระวิหารที่มีหมอกปกคลุมปราสาทพระวิหารอยู่
โดยมีเจ้าหน้าที่ ตชด.และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร คอยรักษาความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มที่
นางสีดา หางสิงห์ อายุ 78 ปี ซึ่งมาเที่ยวชมผามออีแดง โดยมีลูกสาวคอยพยุงเดินเที่ยวชมผามออีแดง กล่าวว่า ตนไม่เคยมาเที่ยวชมผามออีแดงและเขาพระวิหาร
แม้ว่าจะเป็นชาวศรีสะเกษ แต่ว่าก็เพิ่งมีโอกาสได้ขึ้นมาเที่ยวชมผามออีแดง ซึ่งรู้สึกว่าสวยงามตามธรรมชาติเป็นอย่างมาก ตนรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ก็ดีใจที่ได้มาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ปีนี้
นางศิริรัตน์ บุญเติม อายุ 42 ปี กล่าวว่า ตนและครอบครัวเพิ่งจะมาเที่ยวชมผามออีแดงและส่องกล้องดูความสวยงามของปราสาทพระวิหารเป็นครั้งแรก ตนเห็นว่า ผามออีแดงสวยงามมาก และตนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นทะเลหมอกเป็นบริเวณกว้างเหมือนกับทะเล หากมีโอกาสตนจะนำครอบครัวมาเที่ยวชมที่ผามออีแดงอีก
ทางด้าน นายเวโรจน์ สายทองแท้ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จำนวน 2 ราย ซึ่งสถิติการเกิดอุบัติเหตุของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตยังน้อยกว่าที่ได้รณรงค์เอาไว้ และในช่วงที่บรรดานักท่องเที่ยวจะพากันเดินทางกลับภูมิลำเนาหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ผ่านพ้นไป
ตนมีความเป็นห่วงใยประชาชน จึงขอฝากเตือนว่า นอกจากจะเตรียมความพร้อมของยานพาหนะที่จะต้องใช้ในการเดินทางแล้ว ก็จะต้องเตรียมความพร้อมร่างกายของผู้ที่จะเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ด้วย เพราะว่าหากร่างกายมีความพร้อม พักผ่อนเพียงพอ ก็จะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ ซึ่งตนได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่รถ รวมทั้งเฝ้าระวังการเกิดอุบัติเหตุตามถนนสายหลักสายรองอย่างเต็มที่
โดยขอให้ผู้ขับขี่รถทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดด้วย ที่สำคัญก็คือ เมาอย่าขับ และพักผ่อนร่างกายให้พอเพียงก่อนขับรถ เพื่อที่จะทำให้ทุกคนเดินทางกลับไปปฏิบัติหน้าที่การงาน และกลับภูมิลำเนาของตนเองโดยสวัสดิภาพ
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
