เตือนอันตรายดำน้ำอันดามัน

ปลายังตายเพิ่ม!ชาวบ้านชี้อาเพศ



เตือนอันตราย ห้ามนักท่องเที่ยวดำน้ำทะเลอันดามัน หลังมีปลาลอยตายเกลื่อนตั้งแต่เกาะลันตา ถึงจ.สตูล

เพราะน้ำทะเลเป็นสีแดงผิดปกติ

ตำรวจน้ำระบุสภาพช่วงนี้น่าเป็นห่วง แพลงตอนขยายตัวเป็นวงกว้าง ปลาตายเพิ่ม นอกจากนี้ปะการังเริ่มตายเพิ่มมากขึ้น ชาวบ้านชี้เป็นเหตุอาเพศ เหมือนช่วงก่อนเกิดสึนามิ ระบุอยู่มากว่า 50 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จนไม่กล้าออกเรือหาปลา

จากกรณีเกิดปัญหาปลาทะเลในฝั่งอันดามัน

โดยเฉพาะจ.สตูล กระบี่ และตรัง ลอยขึ้นมาตายเหนือผิวน้ำจำนวนมาก ขณะที่น้ำทะเลในพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนเป็นสีแดง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสันนิษฐานว่า อาจเกิดมาจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนิญโญ่ จนมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำทะเล ทำให้มีการเพิ่มจำนวนของแพลงตอนอย่างมากนั้น

เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พ.ต.อ.เลิศชาย ถิ่นรัตน์

ผู้บังคับการ 9 ตำรวจน้ำ จ.สตูล กล่าวว่า จากเหตุการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนแปลงเป็นสีแดง และมีปลาตายในพื้นที่ทะเลอันดามัน โดยเฉพาะบริเวณเกาะตะรุเตา เกาะบุโหลนนั้น จากการตรวจสอบพบสภาพท้องทะเลปัจจุบันต่างกับอดีตมาก

อยากเตือนประชาชนที่มาพักผ่อนชายทะเลอันดามัน

เพราะมีปลาทะเลตายเป็นทางยาว ตั้งแต่เกาะลันตา ถึงจ.สตูล สภาพโดยทั่วไปไม่สามารถดำน้ำได้ ตามเกาะแก่งที่มีนักดำน้ำดูปะการัง เกิดแพลงตอนขยายตัวเป็นวงกว้าง สภาพทะเลเปลี่ยนแปลง ปลาบางชนิดที่หากินกลางคืนก็ออกมากลางวัน

พ.ต.อ.เลิศชาย กล่าวต่อว่า

ขณะนี้สภาพโดยทั่วไปน่าเป็นห่วง เช่น ปกติปลาราหูอยู่ตามพื้นทรายใต้ท้องทะเล แต่พบลอยบนผิวน้ำ แสดงว่าพื้นท้องทะเลมีการเปลี่ยนแปลง บริเวณดำน้ำที่มีแพลงตอน ปลาจะไม่ค่อยมี และเวลาถูกแพลงตอน จะมีลักษณะคล้ายถูกแมงกะพรุน คือถูกผิวแล้วคัน



ด้านนายมานิต ดำกุล นายกสมาคมประมงกระบี่

กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าแปลกมาก ตนทำอาชีพประมงมากว่า 50 ปี ไม่เคยพบกับเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน และพบว่าเกิดขึ้นที่เกาะห้า หินแดง หินม่วง ใกล้เกาะลันตา ใกล้ชายฝั่งมาทุกขณะ

เท่าที่ทราบจะมีเพียงปลาน้ำลึกเท่านั้น

และเป็นปลาขนาดใหญ่ ไม่ใช่ปลาผิวน้ำ อย่างไรก็ตามชาวประมงไม่กล้าจะนำปลาที่ลอยตายมารับประทาน และปลาที่ตายก็ลอยออกจากชายฝั่งไปแล้ว จากการสอบถามไปยังศูนย์ป้องกันและ

ปราบปรามประมงทะเลชายฝั่งอันดามัน

จ.กระบี่ ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้ปลาตาย เนื่องจากน้ำที่อยู่ตอนล่างสุดมีความเย็นผิดปกติ ทำให้ปลาช็อกตายกะทันหัน เนื่องจากปรับตัวไม่ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

จากเหตุการณ์ที่มีน้ำทะเลเป็นสีแดงและปลาน้ำลึกลอยตายจำนวนมากนั้น ทำให้ชาวประมงกระบี่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า อาจจะเป็นสัญญาณลางร้ายอะไรสักอย่าง เช่นเดียวกับตอนก่อนเกิดเหตุธรณีพิบัติภัยและคลื่นสึนามิก็มีน้ำบ่อบาดาลขุ่น

หลังจากนั้น 2 วันก็เกิดเหตุการณ์สึนามิทันที

ครั้งนี้ก็เช่นกัน ชาวประมงเชื่อว่าน่าจะเกิดภัยบางอย่างขึ้นในทะเลอันดามัน ขณะที่ชาวเลที่บ้านสังกะอู้ อ.เกาะลันตา ต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนไม่กล้าออกไปจับปลาในทะเล



ที่จ.ตรัง นายวิชัย รัตตมณี

นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง กล่าวว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างปลาที่ตาย ได้ผลสรุปตรงกันว่าเป็นการตายจากธรรมชาติ ไม่ปรากฏพบสารพิษ หรือการระเบิดแต่อย่างใด

ทั้งนี้เป็นผลกระทบมาจากปรากฏการณ์เอลนิญโญ่

ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ำของทะเล เนื่องจากภาวะโลกร้อนขึ้น ทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย จากนั้นกระแสน้ำเย็นไหลลงมาสู่พื้นที่ด้านล่าง และผ่านมาจนถึงทะเลอันดามัน

ปกติแล้วปลาจะอาศัยอยู่ในท้องทะเลลึก

แต่เมื่อต้องมาเจอกับกระแสน้ำเย็นจัด จึงพยายามจะว่ายขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อหาน้ำอุ่น แต่เนื่องจากการปรับเปลี่ยนอุณหภูมิในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทัน จึงตาย

นายวิชัย กล่าวต่อว่า

สิ่งที่น่าห่วงขณะนี้คือปะการังที่หินแดง-หินม่วง แหล่งดำน้ำดูปะการังชื่อดังของทะเลอันดามัน เริ่มตายลงไปบ้างแล้วบางส่วน เพราะกระแสน้ำที่เย็นจัด โดยเฉพาะในท้องทะเลลึกประมาณ 4 เมตร

ในอนาคตอาจจะส่งผลกระทบ

ต่อระบบนิเวศวิทยา ท้ายที่สุดส่งผลกระทบมาถึงเรื่องการท่องเที่ยว แต่ก็หวังว่าเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนั้นคงไม่เกิดขึ้น เชื่อว่านักวิทยาศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านทะเลจะค้นพบหนทางรับมือแต่เนิ่นๆ



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์