ในหลวงเสด็จออกท้องพระโรง5ธันวา

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


'ในหลวง'เสด็จออกท้องพระโรงวังไกลกังวล 5 ธันวาคม รัฐ-เอกชนร่วมจัดงานเฉลิมพระเกียรติตลอดเดือน ส่วนราชการจัดนิทรรศการ'พระทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์'

 


เมื่อเวลา 13.50 น.วันที่ 19 พ.ย. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวเตรียมการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2556

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบความคืบหน้าการเตรียมการพระราชพิธี และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในศุภวาระเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 2556 โดยสำนักพระราชวังแจ้งว่าบัดนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีหมายกำหนดการที่จะเสด็จออก ณ ท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม เวลา 10.30 น.

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เสด็จออก ณ ท้องพระโรงศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล โอกาสเดียวกันนี้ ทหารรักษาพระองค์จะได้เฝ้าฯ ถวายคำสัตย์ปฏิญาณด้วย

"รัฐบาลได้รับทราบข่าวที่เป็นมงคลนี้ด้วยความปีติยินดี และจะได้มอบหมายให้สื่อมวลชนของรัฐ และขอความร่วมมือสื่อภาคเอกชน ถ่ายทอดพระราชพิธีสำคัญทั้งทางวิทยุและโทรทัศน์เพื่อให้ประชาชนได้ชื่นชมพระบารมีโดยทั่วถึงกัน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

นายธงทอง กล่าวว่า รัฐบาลประสานกับทุกส่วนราชการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “พระทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์” ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม นี้ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณที่ทรงได้รับยกย่องจากสถาบันและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ เช่น พระราชสมัญญาต่างๆ รางวัล ปริญญากิตติมศักดิ์ และสิทธิบัตรในพระปรมาภิไธย

เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เห็นตระหนักชัดเจนว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรามิได้ทรงเป็นเพียงพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระราชภาระหลักเท่านั้น หากยังทรงมีความรู้เชี่ยวชาญและทรงพระปรีชาสามารถในสรรพวิทยาการหลากแขนง ได้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนคนไทยมาตลอดเวลากว่าหกสิบปี จึงขอเชิญชวนประชาชน ร่วมกิจกรรมในงานนิทรรศการดังกล่าว" ปลัดสำนักนายกฯ กล่าว

นายธงทอง กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนยังได้ร่วมมือร่วมใจจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติอีกมากมายหลายรายการ เช่น การจุดเทียนชัยถวายพระพรในค่ำวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 19.29 น. ณ ท้องสนามหลวงและสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ กระทรวงกลาโหมจัดการแสดงวงโยธวาทิต “1 คีตมหาราชาในดวงใจ โยธวาทิตไทยสู่สากล” และการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน ครั้งที่ 6”

กระทรวงพลังงานจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเรื่อง “พระบิดาแห่งการพัฒนาพลังงานไทย” สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สำนักงาน ก.พ.จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เป็นต้น

ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาล นอกจากการจัดนิทรรศการ “พระทรงเป็นยิ่งกว่ามหากษัตริย์” ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ในวันที่ 7 ธันวาคม เวลา 18.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐบาลจะได้จัดงานสโมสรสันนิบาตเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายชัยมงคลในศุภวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษา เช่นเดียวกันกับทุกปีที่ผ่านมาด้วย

 ด้าน พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1 รอ.) กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 จัดเตรียมทหารรักษาพระองค์ 12 กองพัน และกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพัน เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ส่วนขั้นตอนการปฏิบัติอาจมีการปรับลดกำลังทหารที่ร่วมพิธีเพื่อความเหมาะสมกับสถานที่ ส่วนรายละเอียด และพิธีการจะมีความชัดเจนหลังจากสำนักนายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 พฤศจิกายน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทหารรักษาพระองค์ทั้ง 13 กองพันได้ทำการซ้อมในพระราชพิธีฯ อยู่ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) และในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะทำการซ้อมในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ในสถานที่จริง ณ วังไกลกังวล และในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ จะมีการซ้อมใหญ่ในพระราชพิธีทุกขั้นตอนอย่างละเอียดทั้งหมด
             
 ขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดเตรียมทหารรักษาพระองค์จำนวน 12 กองพัน และกองพันทหารม้ารักษาพระองค์จำนวน 1 กองพัน เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ส่วนขั้นตอนการปฏิบัติอาจมีการปรับลดกำลังทหารที่ร่วมพิธีเพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับสถานที่ ส่วนในรายละเอียด และพิธีการที่ชัดเจนนั้น จะต้องรอรับทราบในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ภายหลังสำนักนายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามขณะนี้ทหารรักษาพระองค์ทั้ง 13 กองพันได้ทำการซ้อมในพระราชพิธีฯอยู่ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) และในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ทหารรักษาพระองค์ทั้งหมดจะทำการซ้อมในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ในสถานที่จริง ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และในวันที่ 3 ธันวาคมนี้จะมีการซ้อมใหญ่ในพระราชพิธีทุกขั้นตอนอย่างละเอียดทั้งหมด


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์