ตร.สุรินทร์สอบเครียดมือแชร์คลิปซ้อมลูกช้าง หวั่นกระทบท่องเที่ยว

โดยเมื่อเวลา 19.20 น.วานนี้ (27 ต.ค.56) ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า นายอนุวัฒน์ เสาทอง ถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์
 
เชิญตัวตรวจสอบปากคำเครียดอยู่ภายในห้องที่ทำการฝ่ายสืบสวน นานร่วม 2 ชั่งโมง เมื่อเห็นนานผิดปกติผู้สื่อข่าวได้เข้าไปภายในห้องดังกล่าว กับถูก ร.ต.อ.ณัฐฐ์ฐนนท์ สีฟ้า รอง สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ ไล่ตะเพิดให้ออกไปข้างนอกก่อนอ้างอยู่ระหว่างทำการสอบปากคำ และเป็นสถานที่ราชการห้ามเข้ามาถ่ายภาพ พร้อมถ่ายบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวไว้เป็นหลังฐาน จึงจำต้องออกมานั่งรออยู่ข้างนอกนานนับชั่วโมง ปรากฏว่า ไม่เห็นตัว นายอนุวัฒน์ เสาทอง จึงเข้าสอบถาม ร.ต.อ.ณัฐฐ์ฐนนท์ สีฟ้า รอง สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์ แจ้งว่าได้ให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่งบ้านพักเรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวจึงรุดเดินทางเพื่อสอบถามข้องเท็จจริง ที่ร้านแอ๋ม ดีไซน์เวดดิ้งสุรินทร์ บริเวณสี่แยกวัดไตรรัตนราม

นายอนุวัฒน์ เสาทอง กล่าวว่า ตามที่ตนได้แชร์คลิปมีชื่อว่า "ซ้อมลูกช้าง! เหตุเดินไม่ไหว"ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า แอ๋มดีไซน์ เวดดิ้ง สุรินทร์ ตามที่มีข่าวออกไปว่า ตนเป็นคนถ่ายได้ ไม่รู้ว่ามีข่าวออกไปอย่างไรบ้าง ตนก็ไม่ได้ดูโทรทัศน์ด้วย พอมาดูทีหลังปรากฏว่า การนำเสนอข่าวเหมือนว่าตนเป็นเจ้าของคลิปดังกล่าว ตนก็พูดไปตามประสาคนไม่ได้นอน เพราะทำงานหนักมากช่วงนี้ ที่แชร์ออกไปเพราะรู้สึกสงสารช้างขนาดยังไม่ได้กดดูวีดีโอแค่เห็นภาพนิ่งก็เห็นเป็นช้างถูกทำร้ายแล้วก็แชร์ออกไปผ่านเฟสบุ๊คของตนเอง โดยไม่มีเจตนาว่า ใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากตรงนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาสอบถามและเชิญตัวไปโรงพักแล้วสอบถามว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นที่สุรินทร์มั้ย เพื่อหาข้อมูลในการไล่ล่าจับควาญช้างที่ทำร้ายช้างดังกล่าว แม้จะเสียเวลาทำมาหากินบ้างก็จำเป็นต้องไปให้ปากคำและกลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย พอข่าวนี้ออกไปจังหวัดสุรินทร์เสียชื่อเสียง

นายอนุวัฒน์ กล่าวอีกว่า ตนก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ตนจะได้ออกข่าว

ตำรวจถามตนว่า ได้คลิปและข้อมูลควาญซ้อมลูกช้าง เหตุเดินไม่ไหว มาจากไหนตนก็ตอบไปว่าได้เห็นคลิปในโลกออนไลน์แล้วแชร์ต่อออกไปคลิปดังกล่าวไม่ใช่ของตนเอง ตนมองว่า ไม่ควรมาหาที่มาของคลิป น่าจะหาวิธีการแก้ปัญหาช้างเร่ร่อนขอทาน อย่างเร่งด่วน ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยคนคนเดียว ทุกๆ คนต้องให้ความร่วมมือและจริงใจทั้งควาญช้างและหน่วยงานที่เกี่ยงข้องทุกภาคส่วน คนไทยทุกจังหวัดทั้งประเทศต้องร่วมกันแก้ปัญหาช้าง การที่ตำรวจเข้ามาสอบถามและเชิญตัวไปโรงพักตนไม่คิดว่าเป็นการคุกคามประชาชน ตำรวจแค่ต้องการข้อมูลที่มาที่ไปว่าไปออกข่าวได้อย่างไร ตนพอใจที่มีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถือว่า เรื่องดังกล่าวได้เข้าสู่ระบบราชการหลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวออกไป ตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันสืบหาที่หาของคลิป "ซ้อมลูกช้าง! เหตุเดินไม่ไหว" ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ตอนนี้พอจะรู้แล้วว่ามีที่มาจากจังหวัดอุบลราชธานี เด็กซึ่งเป็นควาญช้าง 2 คนพูดภาษาลาว ต่างจากคนเลี้ยงช้างสุรินทร์จะพูดภาษาส่วย

เจ้าของร้านแอ๋ม ดีไซน์ฯ กล่าวอีกว่า การเอาผิดกับควาญช้าง 2 คน
 
ตนอยากให้เขารู้สำนึกในสิ่งที่สังคมรับไม่ได้เมื่อเห็นภาพในสิ่งที่พวกเขาทำ เขาคงทำตามหน้าที่ประสาเด็กพอช้างล้มก็ต้องพยายามบังคับให้ช้างลุกเดินต่อไปให้ได้ แต่เราเองสงสารช้าง วันนี้ตนได้ไปพบกับผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานช้างสุรินทร์เพื่อแสดงความเสียใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ที่พูดออกไปไม่มีจุดประสงค์ว่า จะทำร้ายชื่อเสียงจังหวัดสุรินทร์ เพียงแค่สงสารช้าง อยากจะเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวทุกคนทั่วโลกมาเที่ยวงานช้างสุรินทร์ ซึ่งจัดปีละครั้ง มาดูการแสดงของช้างที่น่ารักและความอลังการจัดได้ยิ่งใหญ่  ระหว่างวันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามแสดงช้าง จ.สุรินทร์