แน่นวัดพระธาตุพนมฯ ฮือฮา! พบพญานาคโผล่กลางน้ำโขง

แน่นวัดพระธาตุพนมฯ ฮือฮา! พบพญานาคโผล่กลางน้ำโขง

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม   ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  อ.ธาตุพนม จ.นครพนม 

พระเทพวรมุนี วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชน  ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์  สัตนาคารำลึก  หรือพิธีบวงสรวงพญานาค  ที่จัดสืบทอดมานานกว่า 50  ปี  ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลออกพรรษา  ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ  เดือน 11 ของทุกปี  โดยความร่วมมือของจังหวัดนครพนม  คณะสงฆ์จังหวัดนครพนม  และพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศ  เพื่อเป็นการสักการบูชาพญานาค หรือองค์สัตนาคา ทั้ง 7 ตน  ผู้ดูแลปกปักรักษา องค์พระธาตุพนม  สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง 

โดยภายในได้บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

และเป็นโอกาสสำคัญที่สมเด็จหลวงพ่อพญานาค หรือองค์สัตนาคา จะได้มีโอกาสมาประทับร่างทรง โปรดพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญ  รวมถึงปรึกษาปัญหาทั้งทางโลกและทางธรรม ที่ถือปฏิบัติมาแต่อดีต   และในบางปีจะมีชาวบ้านพบเห็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์มีแสงสีพวยพุ่งมายังองค์พระธาตุพนม  และมีการเกิดเงาพระธาตุบนท้องฟ้า เป็นประจำตลอดทุกปี  ทำให้มีพุทธศาสนิกชนเดินทางมาร่วมพิธี เพื่อเป็นสิริมงคล  ขอพรจากองค์พญานาค และองค์พระธาตุพนม จำนวนมาก


ขณะเดียวกันในปีนี้ได้มีศิษยานุศิษย์ คณะลูกศิษย์พระเทพวรมุนี  ที่เดินทางมาร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสมทบทุนบำรุงวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  จาก กทม. 

พบเหตุการณ์แปลกประหลาดช่วงกลางวันก่อนทำพิธีสัตนาคารำลึก  เชื่อว่า เป็นการแสดงปาฏิหาริย์ขององค์พญานาค  ภายหลังได้มีการซื้อปลาจากหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  จำนวน 67 กิโลกรัม เพื่อนำไปปล่อย ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ด่านตรวจคนเข้าเมืองในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม   โดยพบสิ่งแปลกประหลาด ที่เชื่อว่าเป็นพญานาค   โผล่ขึ้นเหนือน้ำ ชูเศียรชัดเจน ลำตัวเป็นสีเหลืองทองอร่าม ความยาวประมาณ 30 – 40  เมตร  ลอยวนเวียนไปมาทวนกระแสน้ำเสียงดังถึงริมฝั่ง   เป็นเวลาประมาณ เกือบ 30 นาที  ในระยะห่างจากฝั่งประมาณ 300 – 400  เมตร  โดยมีผู้พบเห็นเหตุการณ์ร่วมกัน จำนวนถึง 6 คน   สร้างความตกใจให้กับคนที่พบเห็นด้วยกัน  จึงตั้งจิตอธิษฐาน ขอพรตามความเชื่อ  เพราะเชื่อว่าองค์พญานาคมากฎกายให้เห็น ในโอกาสที่มาร่วมงานสัตนาคารำลึก 

ที่สำคัญยังสามารถบันทึกภาพนิ่งด้วยกล้องไว้บางส่วน  ก่อนนำมาอัดขยายถวายให้กับวัดให้พุทธศาสนิกชนได้ชม และกราบไหว้  ซึ่งทางผู้พบเห็นยอมรับว่าเป็นเรื่องแปลกมากและไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องของความเชื่อแต่ละบุคคล  และยืนยันว่า ภาพที่เห็นมีความชัดเจนมาก

ด้่านเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร     กล่าวว่า  พิธีศักดิ์สิทธิ์สัตนาคารำลึก  หรือพิธีบวงสรวงพญานาค เกิดขึ้นตามประวัติความเป็นมาจาก  ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 ปี พ.ศ.2500  ได้มีชาวบ้านในเขต อ.ธาตุพนม เห็นแสงประหลาดเป็นลำงามโตเท่าลำต้นตาลขนาดใหญ่มีสีต่าง ๆ กันถึงเจ็ดสี  พุ่งแหวกอากาศแข่งกันเป็นลำยาวหลายเส้น  จากทางด้านทิศเหนือ  มองเห็นแสงสีงามประหลาด  แล้วหายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม  ต่อมาได้เกิดปฏิหารย์มีประทับร่างทรงสามเณรในวัด  พร้อมกล่าวบอกว่า    ลำแสงที่ชาวบ้านพบเห็นเป็นพญานาค  7  องค์  มีนามตามลำดับเป็นมงคลตามอริยทรัพย์อันประเสริฐ  คือ  1.  พญาสัทโทนาคราชเจ้า  เป็นประธาน  2. พญาศีลวุฒินาโค 3.  พญาหิริวุฒนาดโค  4. พญาโอตตัปปะวุฒนาโค  5. พญาสัจจะวุฒินาโค  6. พญาจาคะวุฒนาโค  7. พญาปัญญาเตชะวุฒนาโค ที่มีวิชาความรู้แตกต่างกัน ได้เสด็จมารักษาพระอุรังคธาตุ เนื่องจากเทพยดาที่รักษาองค์พระธาตุอยู่ก่อน  นิสัยไม่ดีอาศัยกินสินบนและเครื่องเซ่นสรวงของชาวบ้าน ที่จะทำให้เกิดเสื่อมศรัทธา  ต้องมาประทับรักษาแทน  หลังจากนั้น เมื่อมีเหตุการณ์หรือเรื่องเดือดร้อนต่างๆ  พญานาคก็จะมาประทับร่างทรง เพื่อโปรดชาวบ้านเทศนาสั่งสอน  สนธนาทางโลกและทางธรรม และรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ  จนชาวบ้านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา  ยึดถือปฏิบัติทำให้มีการจัดทำพิธีบวงสรวงบูชาพญานาคทั้ง 7  สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน  และเป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของนครพนมในช่วงก่อนวันออกพรรษา  หากใครที่ได้มาร่วมพิธีถือว่าเป็นบุญกุศลจะทำให้มีความสุข และเจริญรุ่งเรืองตลอดไป  ส่วนในเรื่องตำนานพญานาคนั้นมีตัวตนแน่นอน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์