ตะลึง.! วาฬออร์ก้า 5ตัว โผล่ที่เกาะสุรินทร์

นักวิชาการระบุเป็นการเข้าใจผิดคิดว่าวาฬออร์ก้าจะอยู่ในเขตน้ำเย็น แต่ความจริงอาศัยอยู่ในเขตใดก็ได้ ที่มีอาหารเพียงพอ ชี้อิทธิพลจากปรากฎการณ์เอลนิโญ ที่ทำให้น้ำเย็นจากใต้ทะเลขึ้นมาอยู่สูงขึ้น น้ำขุ่นขึ้นเล็กน้อยเกิดแหล่งอาหารจำนวนมาก

ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะ ประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยว่า ได้รับแจ้งจากนักดำน้ำ ที่นั่งเรือเร็วจากช่องเขาขาด ใกล้กับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

ซึ่งเป็นวาฬชนิด เดียวกับที่เล่นหนังเรื่องฟรีวิลลี่ จำนวน 4-5 ตัวดำผุด ดำว่ายเล่นอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลานานพอสมควร ซึ่งเรือท่องเที่ยวที่เห็นต่างก็วิทยุบอกต่อกัน สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ที่พบเห็นอย่างมาก ทั้งนี้ออร์ ก้าเป็นวาฬมีเขี้ยว ล่าสัตว์เป็นอาหาร ขนาดตัวอาจยาวถึง 5 เมตรหรือกว่านั้น

"ยังมีหลายคนเข้าใจผิด คิดว่า วาฬออร์ก้าจะอยู่ในเขตน้ำเย็นเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงพวกเขาพบได้ทั่วโลก เพราะวาฬ เป็นสัตว์เลือดอุ่น สามารถอาศัยอยู่ในเขตใดก็ได้ ที่มีอาหารเพียงพอ ออร์ก้ากินแมวน้ำเป็นอาหารหลัก ประชากรส่วนใหญ่จึงพบบริเวณเขตอบอุ่น ที่มีแมวน้ำอาศัยเป็นจำนวน มาก แต่ออร์ก้ากลุ่มหนึ่ง อาศัยอยู่ในเขตร้อน แถบเส้นศูนย์สูตร พวกเขากินอาหารหลากหลาย

โดย เฉพาะฉลาม และแมนต้า อันถือเป็นอาหารหลักของออร์ก้าในถิ่นนี้ โดยวาฬดังกล่าวพบได้เป็นครั้งคราว ในประเทศไทย แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อ เพราะเข้าใจผิด คิดว่าอยู่ไม่ได้ " ดรธรณ์ กล่าว

ดร.ธรณ์ กล่าวว่า เพราะในช่วงนี้ มีอาหาร คือ กระเบนราหู หรือ แมนต้า จำนวนมาก ว่ายเข้ามาหากินทั่วทะเลอันดามัน ตั้งแต่หมู่เกาะสุรินทร์ ลงไปจนถึงเกาะราชา ทางใต้ของภูเก็ต จึงเป็นไปได้ว่า ออร์ก้าฝูงนี้เข้ามา เพราะมี อาหาร คือเหลือเฟือ ส่วนสาเหตุที่มีแมนต้าเข้ามาจำนวนมาก เพราะอิทธิพลจากปรากฎการณ์เอลนิโญ ที่ทำให้น้ำเย็นจากใต้ทะเลขึ้นมาอยู่สูงขึ้น น้ำเลยขุ่นขึ้นเล็กน้อย มีแพลงตอนอาศัยอยู่ในน้ำทะเล ลักษณะดังกล่าวจำนวนมาก

ดร.ธรณ์ กล่าวว่า มีรายงานว่า เจอออร์ก้าในเมืองไทย มีมากว่าสิบปีแล้ว ตั้งแต่มีการเห็นที่ หมู่เกาะสิมิลัน ต่อด้วยการถ่ายภาพใต้น้ำแบบไม่ชัดที่กองหินริเชลิว ใกล้หมู่เกาะสุรินทร์ ครั้งล่าสุด พบ ที่หมู่เกาะสุรินทร์ ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวหลายคนเจอออร์ก้าว่ายวนอยู่รอบเกาะ ออร์ ก้าในเขตร้อน อาจอยู่เพียงสองสามตัว จนถึงฝูงเล็ก 6-8 ตัว ลูกจะได้รับการดูแลจากแม่และทุกตัวในฝูง สำหรับฝูงที่พบแถวเกาะสุรินทร์ มีลูกอยู่ด้วย ออร์ก้าแม้กินสัตว์เป็นอาหาร แต่ไม่มีอันตรายต่อ มนุษย์ แทบไม่มีรายงานว่าออร์ก้าจู่โจมมนุษย์

จาก หนังสือพิมพ์คม.ชัด.ลึก.