แม่ทัพภาค3สั่งสอบปมอุ้ม 2 ตชด.ไทย

กะเหรี่ยงดีเคบีเอปล่อยตัว 2 ตชด.


พาส่งด้าน อ.พบพระ อ้างเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ด้านแม่ทัพภาค 3 สั่งสอบหาสาเหตุที่ถูกจับ ชี้ไม่มีการเสนอเงื่อนไขพิเศษในการปล่อยตัว

"สนธิ" ระบุ

ปัญหาชายแดนมีหลากหลาย แนะเจ้าหน้าที่อย่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ตามแนวชายแดน

จากกรณีกองกำลังพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ


กองพันที่ 901 จับ ร.ต.ต.ชวลิต รัตนพันธ์ ผู้บังคับหมวด ตชด.1342 และ ส.ต.ต.ประยงค์ยุทธ พันธ์รัม ผบ.หมู่ ตชด.1342 อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จากบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ไปไว้ที่ค่ายวาเล่ย์ ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ 3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมานั้น ในที่สุดก็ได้ปล่อย ตชด.ทั้งสองนายให้เป็นอิสระแล้ว

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 26 มีนาคม พ.อ.นะเคามวย ผู้บังคับการยุทธวิธี บก.พล 333 ของฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอ


ประจำค่ายวาเล่ย์ ได้นำ ร.ต.ต.ชวลิต และ ส.ต.ต.ประยงค์ยุทธ ไปปล่อยที่จุดผ่อนปรน บ้านวาเล่ย์เหนือ ต.วาเล่ย์ ขณะที่ฝ่ายไทยมี พ.ต.อ.สาธิต เกตานนท์ ผกก.ตชด.34 จ.ตาก และทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 อ.แม่สอด ไปรับตัว จากนั้นนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์จาก อ.พบพระ ไปยังกองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก แต่ระหว่างทางทัศนวิสัยไม่ดีจึงลงจอดฉุกเฉินที่สนามบิน อ.แม่สอด จ.ตาก กระทั่งสภาพอากาศดีขึ้น จึงเดินทางต่อไปยังจุดหมายอย่างปลอดภัย

พ.อ.นะเคามวย กล่าวว่า


การปล่อยตัวเกิดขึ้นจากฝ่ายดีเคบีเอได้เล็งเห็นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่า อีกทั้งได้รับการประสานงานจากผู้แทน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และนักธุรกิจไทยรายหนึ่ง ซึ่งฝ่ายดีเคบีเอได้ทำความเข้าใจกับฝ่ายไทยแล้วว่า ดีเคบีเอต้องการสันติภาพ และต้องการพัฒนาพื้นที่ชายแดนมากกว่าการสู้รบ

ต่อมาเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพภาคที่ 3 จ.พิษณุโลก


พล.ท.จิรเดช คชรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 และ พล.ต.ท.นิพนธ์ ศิริวงศ์ ผบช.ตำรวจตระเวนชายแดน ได้เปิดแถลงข่าวว่า ฝ่ายไทยไปรับตัว ตชด.ทั้งสองนายที่ชายแดน ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก และทันทีที่ข้ามมาฝั่งไทย

ฝ่ายทหารได้นำตัว ร.ต.ต.ชวลิต และ ส.ต.ต.ประยงค์ยุทธ


จาก จ.ตาก มาถึงสนามบิน พัน ร.4 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในเวลา 10.50 น. จากนั้นพาไปสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา หน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 และนำตัวไปสอบสวนตามวิธีทางทหาร โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

พล.ท.จิรเดช กล่าวว่า


หลังจากที่ได้มีการประสานงานร่วมกัน ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 3 และกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน และได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ประสานขอตัวจากทหารพม่าผ่านทางคณะกรรมการประสานงานชายแดนท้องถิ่น ไทย-พม่า (แม่สอด-เมียวดี) จนกระทั่งฝ่ายทหารพม่าได้นำตัวตำรวจตระเวนชายแดนทั้งสองนายกลับมาส่งที่ชายแดนด้าน อ.พบพระ จ.ตาก

ส่วนผลการสอบสวนหาสาเหตุการถูกจับกุมตัวไปนั้น


ขึ้นอยู่กับกองทัพภาคที่ 1 และกองกำลังสุรสีห์ ซึ่งกองร้อยต้นสังกัดของตำรวจตระเวนชายแดนทั้งสองนาย ขึ้นตรงงานทางด้านยุทธการ กองทัพภาคที่ 3 เป็นเพียงแค่ผู้ที่ดำเนินการช่วยเหลือและส่งกลับไปยังต้นสังกัดเดิม ส่วนผลการสอบสวนนั้นขึ้นอยู่กับหน่วยต้นสังกัด ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้

การป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก


กองทัพภาคที่ 3 จะมีมาตรการต่างๆ ในการป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนเกิดปัญหาขึ้นอีก และจะเข้มงวดกองกำลังต่างชาติที่อยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-พม่า อย่าได้รุกล้ำพรมแดนไทยเข้ามาอย่างเด็ดขาด

ร.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า


ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจและชุดประสานชายแดนไทย-พม่า ที่ได้ช่วยเหลือจนกระทั่งกลับสู่มาตุภูมิอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ระหว่างที่ถูกจับตัวไป ได้รับการปฏิบัติด้วยดีจากกองกำลังกะเหรี่ยง ไม่ได้ถูกข่มขู่หรือทำร้ายแต่อย่างใด เพียงแต่มีการควบคุมจำกัดเสรีภาพตามแบบอย่างของนักรบที่ถูกจับเท่านั้น ระหว่างที่ถูกควบคุมตัว คิดถึงบ้านและครอบครัว โดยเฉพาะผู้ใต้บังคับบัญชากองร้อย ตชด.1342 อย่างมาก

ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คมช. ให้สัมภาษณ์


ถึงมาตรการป้องกันปัญหาการกระทบกระทั่งตามแนวชายแดน ว่า ความเข้าใจระหว่างกองทัพกับเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน และทุกกลุ่มที่อยู่นอกพื้นที่หากมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ปัญหาก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น ส่วนปัญหาที่เกิดกระทบกระทั่งกัน ต้องยอมรับว่าการทำงานภาคสนามตามแนวชายแดนเครียดทุกคน ไม่รู้ใครเป็นมิตรหรือศัตรู ซึ่งเมื่อเจอกัน จะใช้ความเร็วเพื่อแสดงขีดความสามารถ

ส่วนการจับกุม ตชด.ทั้งสองนาย ยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุเกิดจากอะไร


แนวชายแดนอาจจะมีผลประโยชน์ ปัจจัยที่ต้องมาพูดคุยกันคือทำอย่างไรไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ตามแนวชายแดน ส่วนกรณีความขัดแย้งระหว่างดีเคบีเอ กับเคเอ็นยูนั้น เขามีความขัดแย้งกันมานาน ซึ่งเราพยายามไม่ให้คนกลุ่มนี้ส่งผลกระทบตามแนวชายแดน แต่คนที่อพยพอยู่ตามแนวชายแดนมีเป็นแสนคน การแก้ปัญหาจึงต้องใช้ด้านการเมืองมาช่วย ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์