เตือนพายุลูกแรกในรอบปีจ่อถล่มไทย6-7ต.ค.ระวังฝนหนักน้ำท่วม

ภาพจากแนวหน้าภาพจากแนวหน้า


เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมอุตุนิยมวิทยา  แถลงข่าวการ"เกิดพายุดีเปรสชัน"บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง  ซึ่งมีผลกระทบต่อประเทศไทย ว่า 


เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 1 ต.ค.  เกิดพายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 600  กม.ทางตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม หรือละติจูด 15.5 องศาเหนือ  และลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 30  นอต หรือ 55 กม./ชม. แต่พายุเกือบจะไม่เคลื่อนที่  ซึ่งลักษณะเช่นนี้มีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุโซร้อนภายใน วันที่ 2-3  ต.ค.นี้

จากนั้น ช่วงวันที่ 4-5 ต.ค. คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งตอนกลางของประเทศเวียดนาม วันที่ 6-7  ต.ค. จะเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่าง  และเคลื่อนตัวมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย  ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้  และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทย  จะมีฝนตกหนาแน่นสะสมเฉลี่ยมากกว่า 90.1 มิลลิเมตร บริเวณภาคเหนือตอนล่าง  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน

นายสมชายกล่าวอีกว่า แต่ช่วง 1-2 วันนี้ ก่อนพายุดีเปรสชันจะเข้ามายังประเทศไทย  ร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก มีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน  ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง  ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจายและมีฝนตกหนักบางแห่ง

“ทั้งนี้ พายุดังกล่าวถือว่าเป็นลูกแรกที่เข้าประเทศไทยในปี 2555  และลักษณะคล้ายกับพายุกิสนา ซึ่งจะทำให้ในหลายพื้นที่มีน้ำเพิ่มขึ้น  ในลักษณะน้ำท่วมขัง แต่จะไม่เลวร้ายเหมือนปี 2554  เพราะการเคลื่อนตัวของพายุค่อนข้างเร็ว คาดว่าน่าจะอยู่ในประเทศไทยประมาณ  2-3 วัน จึงประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมพร้อมรับมือดูแลอย่างใกล้ชิด”นายสมชายกล่าว

และว่า นอกจากนี้ บริเวณทะเลจีนใต้ใกล้กับพายุดีเปรสชันดังกล่าว  ยังตรวจสอบพบมีพายุก่อตัวเกิดขึ้นอีก 4 ลูก  และมีแนวโน้มที่จะเข้าประเทศไทย 1 ลูก  ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้  ส่วนจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจะเป็นภาคใต้  จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากสภาวะอากาศดังกล่าว   ส่วนฤดูหนาวในภาคเหนือและภาคอีสาน จะเริ่มมีอากาศเย็นลงในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้  และภาคเหนืออากาศทั่วไปในช่วงเดือนธันวาคมนี้ จะหนาวเย็นต่ำกว่า 10 องศา  ส่วนยอดดอย จะมีอากาศเย็นลงถึงติดลบองศาได้  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฤดูหนาวด้วย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์