ทั้งจว.นราธิวาสเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อวันที่ 27 พ.ย.54  ที่ จ.นราธิวาส บรรยากาศโดยทั่วไป
ท้องฟ้าเริ่มแจ่มใส และฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก 4-5 วันติดต่อกันที่ผ่านมานั้น

 ขณะนี้ได้หยุดตกแล้ว ทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรที่ปลูกสร้างอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก แม่น้ำบางนรา และแม่น้ำสายบุรี มีปริมาณน้ำท่วมขังทรงตัว มีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง

  
ขณะที่ นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.นราธิวาสได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพิ่มเติมจากวันที่ 26 พ.ย. จำนวน 8 อำเภอ เป็น 13 อำเภอแล้ว

 เนื่องจากต้องตั้งงบประมาณฉุกเฉินในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังเจ้าหน้าที่ ทีมสำรวจความเสียหาย ในการเร่งฟื้นฟูความเสียหายต่อบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร รวมไปถึงทรัพย์สินต่าง ๆ ที่ถูกน้ำท่วม ไม่สามารถใช้การได้

         
โดยศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม จังหวัดนราธิวาสได้สรุปสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ จำนวน 63 ตำบล 221 หมู่บ้าน

 มีผู้ประสบภัย จำนวน 48,583 คน รวม 13,473 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้เสียหายจากน้ำท่วมขัง จำนวน 12,080 ไร่ บ่อเลี้ยงปลา จำนวน 26 บ่อ สัตว์ปีกสูญหายไปตามกระแสน้ำ จำนวน 309 ตัว บ้านเรือนถูกกระแสน้ำพัดเสียหายบางส่วน จำนวน 30 หลัง ถนนถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย จำนวน 56 สาย คอสะพานถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย จำนวน 14 แห่ง และโรงเรียนถูกน้ำท่วมขัง จำนวน 26 โรงเรียน ซึ่งล่าสุดยังประกาศปิดการเรียนการสอน

ทหารลงพื้นที่นำน้ำดื่ม-ถุงยังชีพ แจกประชาชนริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 สำนักงานพัฒนาภาค 4 บ้านเจาะวา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นำโดย พอ.ชาญณรงค์ อินทร์นอก รองผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 พร้อมกำลังพล 50 นาย นำน้ำดื่มสะอาด 2,400 ขวด ถุงยังชีพ 200 ถุง ลงเรือท้องแบน 2 ลำ แจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โดยตามท่าเรือต่าง ๆ ตลอดแนวที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมขังมี 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนบือเร็ง , ชุมชนท่าโรงเลื่อย , ชุมชนท่าประปา , ชุมชนหัวสะพาน , ชุมชนท่ากอไผ่ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเกี่ยวกับน้ำดื่ม และอาหารการกิน นอกจากนี้น้ำดื่มสะอาดที่เหลือจากการแจกจ่าย ได้นำมอบให้กับตัวแทนชุมชน เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยที่ยังไม่ได้รับอีกครั้ง 

เมืองคอน ยังอ่วมพื้นที่เกษตรจมน้ำ รอง'มทภ.4'บินสำรวจ-นำถุงพระราชทานให้ชาวบ้าน  

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่นครศรีธรรมราช ฝนยังคงตกลงอย่างต่อเนื่องเป็นระยะในหลายพื้นที่ ขณะที่บางพื้นที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้น บางพื้นที่ระดับน้ำลดลง เนื่องจากสภาพการระบายน้ำของแต่พื้นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะในพื้นที่แถบ อ.เฉลิมพระเกียรติ , อ.เชียรใหญ่ , อ.ชะอวด พื้นที่เกษตรกรรมทั้งในส่วนของ นาข้าว , สวนปาล์ม เต็มไปด้วยน้ำที่ท่วมขัง โดยเฉพาะปาล์มที่เพิ่งปลูกใหม่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

         
 ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน พล.ต.กิตติ อินทศร รองแม่ทัพภาค 4 พร้อมด้วย นายทหารระดับสูงของกองทัพ

ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งพบว่าในพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการพระราชดำริ ในการส่งเสริมอาชีพของประชาชนในสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ บ้านเนินธัมมัง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยพบว่า สภาพน้ำในพื้นที่เกษตรกรรมยังคงท่วมสูง บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังจำนวนมาก พร้อมกันนั้นได้เข้าตรวจเยี่ยมประชาชน และนำถุงยังชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เข้าให้การช่วยเหลือท่ามกลางความปลาบปลื้ม โดยเฉพาะเมื่อเห็นถึงที่สกรีนข้อความว่า 'พระราชทาน'