ดีเอสไอตั้งท่ารับน้ำมันรั่วเป็นคดีพิเศษ

ดีเอสไอตั้งท่ารับน้ำมันรั่วเป็นคดีพิเศษ


ดีเอสไอรอผลตรวจปตท.ทำน้ำมันรั่วลงทะเล อุบัติเหตุ-ประมาท ชุดสอบขอเวลา 10 วัน สรุปชัดสาเหตุเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.  นายธาริต  เพ็งดิษฐ์  อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงการส่งชุดเจ้าหน้าที่ นำโดยนายภูวิช  ยมหา  ผอ.ส่วนบริหารระบบงานคดีพิเศษ  ศูนย์บริหารคดีพิเศษ เข้าไปตรวจสอบกรณีเกิดเหตุท่อรับส่งน้ำมันของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือพีทีทีจีซี บริษัทลูกของ ปตท. รั่วไหลจนทำให้มีคราบน้ำมันกระจายลงทะเลโดยเฉพาะบริเวณอ่าวพร้าว ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ว่า  จากการเข้าไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดคาดว่าเร็ว ๆ นี้จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด 

 ซึ่งเบื้องต้นหากพบว่าเป็นอุบัติเหตุดีเอสไอคงไม่เข้าไปดำเนินการใด ๆ แต่หากข้อสรุปพบว่าเกิดจากความประมาทเลินเล่อของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะถือว่าเข้าข่ายรับเป็นคดีพิเศษได้ทันที เพราะกรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.แนบท้ายการสอบสวนคดีพิเศษ เกี่ยวกับความผิดว่าด้วยวัตถุอันตราย

ด้านนายภูวิช  กล่าวว่า  เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งการตรวจสอบพยานหลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุ ด้วยการใช้เฮลิคอร์ปเตอร์บินสำรวจพื้นที่โดยรอบที่ได้รับความเสียหาย และการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง  ตลอดจนการรวบรวมรายงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าไปสำรวจในพื้นที่ทั้งกรมเจ้าท่า  กรมทรัพยากรชายฝั่ง  และตำรวจท้องที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลเหล่านี้สรุปเป็นรายงานเสนอต่ออธิบดีดีเอสไอ พิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่

 โดยข้อมูลที่จะนำมาวิเคราะห์สรุปเป็นรายงานจะประกอบด้วยข้อมูลหลายด้านทั้งข้อมูลตามหลักวิศวกรรม  และการสืบสวนที่ต้องทำควบคู่กับหลักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและนิติวิทยาศาสตร์  อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ออกมาชี้ชัดถึงสาเหตุ 

 ดังนั้นดีเอสไอจะพยายามหาสาเหตุเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือความประมาท  ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 วันในการประมวลผลข้อมูลทั้งหมด

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์