กรุงเก่าผวาน้ำขึ้นวันละ30ซ.ม.

กรุงเก่าผวาน้ำขึ้นวันละ30ซ.ม.

อำเภอเสนา กรุงเก่า อ่วม 800 หลัง ชลประทานระบายน้ำมากขึ้น น้ำสูงวันละ 30 ซม. ต้องยกของหนีเดินลุยน้ำ นายอำเภอเตรียมศูนย์พักพิงหากน้ำยังสูงพักอาศัยไม่ได้

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่  16 ก.ย. นายเรวัต ประสงค์ นายอำเภอเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ออกสำรวจพื้นที่ต.หัวเวียง
 
ดูผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำน้อยซึ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยพบว่าบริเวณหลังเทศบาลตำบลหัวเวียง หมู่ 9 ต.หัวเวียง บ้านเรือนส่วนใหญ่มีน้ำล้นตลิ่งจากแม่น้ำน้อยเข้าท่วมบริเวณใต้ถุนแทบทุกหลัง  ประชาชนเริ่มเก็บข้าวของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะทางเดินในหมู่บ้านน้ำท่วมสูงจากพื้นประมาณ 20-80 ซม. แล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่เดินลุยน้ำ และที่สร้างความลำบากคือผุ้สูงอายุต้องใช้ไม้เท้าเดินลุยน้ำเพื่อเข้าออกบ้าน บางบ้านก็นำเรือออกมาพายกันแล้ว ส่วนรถจยย.ที่เคยเข้าหมู่บ้านได้ ถูกนำออกมาจอดข้างนอก หากระดับน้ำท่วมสูงขึ้นกว่านี้ ก็อาจจะต้องมีการหาเวรยามมาเฝ้ารถที่เข้าบ้านไม่ได้

นายสนิท กิจเมฆ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/1 หมู่  9  ต.หัวเวียง กล่าวว่า น้ำท่วมใต้ถุนบ้านทุกปีและจะท่วมก่อนจนรู้สึกเบื่อ แต่ก็ต้องทน เนื่องจากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปีนี้ยังหวังว่าน้ำจะไม่ท่วมมาก ทั้งที่ปี54 น้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร

ด้านนางทองใบ ฤกษ์ประกอบ อายุ 88 ปี เดินลุยน้ำออกมาจากบ้านเพื่อไปตลาดในหมุ่บ้าน โดยใช้ไม้เท้า เปิดเผยว่ารู้สึกลำบาก และเจอเหตุการณ์น้ำท่วมทุกปี แต่ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนใต้ถุนบ้านลูกหลานช่วยเก็บของขึ้นที่สูงไปก่อนหน้าแล้ว

นายเรวัติ กล่าวว่า  จากการระบายน้ำของชลประทานช่วงสองสามวันนี้ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเฉลี่ยวันละประมาณ 30 ซม.

ได้แจ้งเตือนชาวบ้านไปก่อนแล้ว แต่อยากให้ชลประทานแจ้งทางอำเภอแต่ละแห่งทราบล่วงหน้า 2-3 วันในการปล่อยน้ำ  ช่วงนี้มีการระบายน้ำอยู่ที่ 900 – 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที และยังจะต่อเนื่องเพิ่มขึ้นในสองสามวันนี้อีก ทำให้ขณะนี้มีน้ำท่วมเข้าใต้ถุนบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาใน 8 ตำบลในเขต อ.เสนา ได้แก่เขตเทศบาลเมืองเสนา บ้านแพน บ้านโพธิ์ รางจระเข้ หัวเวียง บ้านกระทุ่ม บางนมโค และสามกอ รวม 800 หลังคาเรือน แต่ยังไม่ถือว่ากระทบกับชีวิตประชาชนมากนักเนื่องจากเป็นภาวะน้ำล้นปกติ อย่างไรก็ตามทางอำเภอได้มีการเสนอให้ทำคันดินป้องกันเทศบาลหัวเวียง และวัดอีกหลายแห่งสำหรับใช้เป็นศูนย์พักพิง หากเกิดภาวะน้ำท่วมจริงๆ


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์