2โหรดัง! เตือนไทยดินไหวใหญ่ อ้างเขย่าทั่วปท.

โหรดังพยากรณ์เตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในไทย "โสรัจจะ นวลอยู่" นอสตราดามุสเมืองไทย เตือนให้ระวังถึง 12 ก.ค. ชี้รุนแรงชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ผลจากปรากฏการณ์ ดาวเสาร์ ดาวราหู และดาวมฤตยู โคจรตั้งมุมฉากกัน แถมยังมีดวงอาทิตย์เป็นตัวเร่ง 


ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งประเทศไทย คาดเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศเริ่มจากทางเหนือก่อนไล่ลงไปใต้ นายกสมาคมโหรนานาชาติก็ระบุ เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว มักตามมาด้วยเหตุแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรืออุบัติภัยร้ายแรง

 ขณะที่รองอธิบดีกรมอุตุฯแจงรอยเลื่อนในไทยอาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่ความรุนแรงปานกลางเท่านั้น

2โหรดัง! เตือนไทยดินไหวใหญ่ อ้างเขย่าทั่วปท.

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดัง เจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" กล่าวถึงกรณีการทำนายดวงเมืองประเทศไทยกับการเกิดแผ่นดินไหวว่า ในทางโหราศาสตร์มีสัญญาณที่ไม่เคยเกิดมาก่อนตั้งแต่ตั้งประเทศไทยมา คือปรากฏ การณ์ดาว 3 ดวง โคจรในมุมหักศอกกัน ประกอบด้วย ดาวเสาร์ ดาวราหู และดาวมฤตยู ขณะนี้ดาวเสาร์โคจรอยู่ในราศีพิจิก ดาวราหูโคจรอยู่ในราศีกันย์ และดาวมฤตยูกำลังจะโคจรเข้าอยู่ในราศีเมษในวันที่ 12 ก.ค.นี้ ทำให้เกิดเป็นมุม 3 เหลี่ยม


นายโสรัจจะกล่าวว่า ดาวทั้ง 3 ดวง ไม่เคยโคจรในลักษณะแบบนี้มาก่อน ถือเป็นมุมที่เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องภัยพิบัติ นอกจากนี้ ยังมีดาวอาทิตย์อีกหนึ่งดวงที่เป็นตัวเร่ง ซึ่งจะทำมุมกับดาวราหูช่วงกลางเดือนนี้ คือวันที่ 16 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นมุมที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มากชนิดที่ไม่เคยเกิดมาก่อน โดยเกิดขึ้นพร้อมๆ กันทุกภาคทั่วประเทศ โดยจุดศูนย์กลางอาจเกิดทางภาคเหนือ จากนั้นจะมีอาฟเตอร์ช็อกมาเรื่อยๆ ไล่ลงไปยังตอนล่างของประเทศ


"เหตุแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ก่อนหน้านี้มักมีศูนย์กลางเกิดในต่างประเทศ ก่อนส่งผลกระทบต่อเราและประเทศอื่นๆ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ อาจจะเกิดขึ้นในบ้านเราเอง ซึ่งผมก็ได้ทำนายเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว เหตุอาจจะเกิดตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงก่อนวันที่ 12 ก.ค. ดังนั้นประเทศไทยต้องระมัดระวัง อย่าประมาท หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องต้องให้ความรู้ประชาชนว่าจะมีวิธีป้องกันอย่างไร เพราะเราไม่เคยประสบและรับมือกับภัยพิบัติแบบนี้ ถ้าเกิดขึ้นอย่างรุนแรงก็คงสร้างความเสียหายหนักแน่นอน" นอสตราดามุสเมืองไทยกล่าว


ด้านนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหรนานาชาติ กล่าวว่า เรื่องแผ่นดินไหวเป็นความรู้ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองและโหราศาสตร์อุตุนิยม ซึ่งตามตำราแบ่งเป็น 2 หลักใหญ่ คือ 1.เมื่อเกิดอุปราคาครั้งสำคัญๆ ขึ้น และมีดวงดาวใหญ่ๆ ตั้งแต่ 3 ดวงขึ้นไป เข้ามาทำมุมสัมพันธ์กับแนวอุปราคามักตามมาด้วยเหตุการณ์แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และอุบัติภัยครั้งสำคัญ


"2.แม้ไม่มีปรากฏการณ์อุปราคา แต่เมื่อดาวใหญ่ เช่น ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ หรือดาวมฤตยู เข้ามาทำมุมที่สำคัญก็จะเกิดอุบัติภัยในทำนองเดียวกันเช่นกัน ฉะนั้น จะเห็นว่าตอนนี้เป็นช่วงหลังการเกิดอุปราคามาได้ 1 เดือน และมีดาวบนท้องฟ้าโคจรสัมพันธ์กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งราหูสถิตที่ราศีกันย์ซึ่งเป็นธาตุดิน ส่วนพระมฤตยูเล็งพระราหูอยู่ที่ราศีมีนซึ่งเป็นธาตุน้ำ อยู่ในนวางค์ขาด (แนวโคจรของดวงดาวอยู่ในตำแหน่งที่เป็นโทษ) โดยมีดาวพฤหัสบดีทำมุมตรีโกณอยู่ตรงราศีกรกฎ ซึ่งเป็นราศีธาตุน้ำ" นายกสมาคมโหรนานาชาติกล่าว


นายภิญโญกล่าวว่า นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดียังส่งกระแสไปถึงดาวพระเสาร์ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายบาปเคราะห์ที่โคจรถอยหลังอยู่ตรงราศีพิจิก ดาวเสาร์ถูกดาวอังคารที่อยู่ตรงราศีพฤษภเล็งทำมุม 180 องศาสนิท เพราะฉะนั้นที่ดาวเหล่านี้ทำมุมสัมพันธ์กันดังกล่าว จะนำมาซึ่งอุบัติภัยธรรมชาติเกี่ยวกับน้ำ ธรณีพิบัติ รวมไปถึงไฟด้วย ส่วนความรุนแรงก็จะแรงแบบเห็นได้ชัดเจน แต่มั่นใจว่าไม่ถึงขนาดแผ่นดินทางภาคใต้หรือแหลมมลายูจะหายไป อย่างที่เป็นข่าว แต่ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเป็นที่น่าวิตก เพราะดาวทำมุมค่อนข้างแรง การทำนายทางโหราศาสตร์ที่ว่ามานี้ เป็นเครื่องมือเตือนภัยให้ช่วยกันเตรียมการป้องกัน และรับมือเพื่อบรรเทาความเสียหาย


วันเดียวกัน นายบุรินทร์ เวชบรรเทิง รองอธิบดีฝ่ายปฏิบัติการ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ธรรมชาติของแผ่นดินไหวเกิดจากแหล่งกำเนิดภายใน แหล่งแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ในโลกมักเกิดในแนวปะทะของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเรา จุดที่ใกล้ที่สุดคือฝั่งอันดามัน หากเกิดการปะทะที่ใหญ่มากก็อาจส่งแรงสั่นสะเทือนจนรู้สึกได้ แต่ที่นักวิชาการพูดว่าจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศไทยนั้น ตามข้อมูลไทยมีรอยเลื่อนมีพลัง 14 กลุ่ม และแต่ละกลุ่มก็มีแขนงของมันเอง ซึ่งรอยเลื่อนประมาณร้อยละ 80-90 มีโอกาสทำให้เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงระดับกลางๆ


นายบุรินทร์กล่าวอีกว่า รอยเลื่อนเหล่านี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้วแต่มีขนาดต่ำกว่า 6.5 แม็กนิจูด แต่การเฝ้าระวังแผ่นดินไหวอิงตามประวัติการเกิดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณาคุณลักษณะของรอยเลื่อนแขนงต่างๆ ด้วย ซึ่งนักธรณีวิทยาใช้วิธีการขุดลอกสำรวจ แต่ที่ผ่านมาเราสำรวจไปได้แค่บางแขนงเท่านั้น จึงไม่สามารถระบุได้ว่ารอยเลื่อนใดมีความเสี่ยงบ้าง แต่มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดต่ำกว่า 7 แม็กนิจูด ความรุนแรงขึ้นอยู่กับพื้นที่ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงการประมาณค่าเท่านั้น


สำหรับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ที่คนกำลังกังวลอยู่ตอนนี้ ซึ่งมีการอ้างอิงข้อมูลการเคลื่อนแผ่นเปลือกโลกในสเกลระดับโลก ยอมรับว่าเรายังมีความรู้ไม่มากพอ แต่นักธรณีวิทยาก็ทำงานอยู่ ยืนยันว่าหากมีการเกิดจริงจะไม่กระทบถึงประเทศไทยเนื่องจากระยะทางไกลมาก ส่วนในประเทศไทยแผ่นดินไหวเกิดด้วยแหล่งกำเนิดภายใน บริเวณรอยเลื่อนมีพลังทางภาคเหนือซึ่งมีมากถึง 7-8 รอยเลื่อน


"ระบบการป้องกันภัยแผ่นดินไหวต่างจากภัยรูปแบบอื่น อาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น ถ้ารู้ว่ามีความเสี่ยงอยู่ใกล้รอยเลื่อนมีพลังก็อาจไปตั้งบ้านเรือนที่อื่น หรือสร้างอาคารให้เหมาะสมรับความเสี่ยง แผ่นดินไหวเกิดจากการขยับตัวเปลือกโลก บางครั้งมีปัจจัยบางอย่างวัดได้ เช่น การเคลื่อนตัวผิดปกติ ความเครียดสะสมมากขึ้น การปล่อยคลื่นกระแสวิทยุ ระดับน้ำใต้ดินเปลี่ยนแปลง หรือการปล่อยแก๊สเรดอน ส่วนการพยากรณ์แผ่นดินไหวนั้นทำได้ แต่ไม่แน่นอน มีความเม่นยำไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม การพยากรณ์แผ่นดินไหวถูก 1 ครั้ง สามารถช่วยชีวิตคนได้มาก บางประเทศจึงมีการศึกษาวิจัยจนเกิดระบบและเครื่องมือป้องกันที่ดี" รองอธิบดีกรมอุตุฯ กล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์