นํ้าป่าซัด2ศพ ถล่ม-ปางหมู เถินก็อ่วม บ้านจมอื้อ ปภ.เตือน! 15จังหวัด รับพายุฝน

 นํ้าป่าซัด2ศพ ถล่ม-ปางหมู เถินก็อ่วม บ้านจมอื้อ ปภ.เตือน! 15จังหวัด รับพายุฝน


นํ้าป่าซัด2ศพ ถล่ม-ปางหมู เถินก็อ่วม บ้านจมอื้อ ปภ.เตือน! 15จังหวัด รับพายุฝน


ระทึก เมืองสามหมอกน้ำป่าทะลักกลางดึก ท่วมตำบลผาบองและตำบลปางหมู ไร่นาจมบาดาลกว่า 1.5 พันไร่ พัด 3 แรงงานต่างด้าวที่นอนเฝ้านาหายไป 4 คน รุ่งเช้าพบ 2 รายรอดระทึกเพราะกระโดดเกาะต้นไม้ไว้ กลายเป็นศพ 1 ราย ส่วนอีกคนยังไร้ร่องรอย ส่วนลำปางก็โดนถล่ม 5 หมู่บ้านใน อ.เถิน ชาวบ้านเดือนร้อน 5 พันหลังคาเรือน บุรีรัมย์ก็หนักไม่แพ้กันโดนฝนถล่ม 2 วันซ้อน น้ำทะลัดท่วมโรงเรียนอนุบาลที่สตึกจนต้องสั่งปิดเรียน

วัน ที่ 27 ส.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ บริเวณภาคใต้ตอนบนและภาคตะวันออก ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ในช่วงวันที่ 27-29 ส.ค.นี้

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ปภ.ได้ประสาน 15 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ตอนบน 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรี ธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 3 ปราจีนบุรี เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 17 จันทบุรี เขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง

"รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วย เหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก หากไม่มั่นคงแข็งแรงและเป็นอันตรายให้พิจารณาสั่งปิดและอพยพประชาชนไปยัง พื้นที่ปลอดภัยทันที" อธิบดีปภ.กล่าว

นายฉัตรชัยกล่าวว่า สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและ ประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรม ชาติจะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดและสำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

วันเดียวกันนาย เพิ่มวิทยา กันทะทรง ปภ. แม่ฮ่องสอน รับแจ้งเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ บ้านห้วยเสือเฒ่า ม.8 ต.ผาบ่อง อ.เมือง และบ้านในสอย ม.4 ต.ปางหมู อ.เมือง ไร่นาได้รับความเสียหายประมาณ 1,500 ไร่ โดยที่บ้านในสอยมีผู้สูญหายไป 4 ราย ส่วนถนนทางเข้าบ้านห้วยเสือเฒ่า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวรถนักท่องเที่ยวไม่สามารถวิ่งผ่านได้ เนื่องจากระดับน้ำในลำห้วยเสือเฒ่าสูงมาก จึงได้รายงานให้กับนายสุรพล พนัสอำพล ผวจ.แม่ฮ่องสอน ทราบและนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุด กู้ภัยปภ. ร่วมกับทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 ม่อนตะแลง, ตำรวจตระเวน ชายแดน ร้อยตชด.336 ปางหมู, เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย อบต.ปางหมู, อส.เมืองแม่ฮ่องสอน, มูลนิธิบรรเทาสาธารณภัย และตำรวจ สภ.เมือง แม่ฮ่องสอน รุดไปช่วยเหลือ

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุที่ทุ่งนาบ้านในสอย ห่างจากตัวหมู่บ้านประมาณ 1 ก.ม. เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกโยงระหว่างสองฝั่งแม่น้ำสอย เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก และข้ามแม่น้ำไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อให้การช่วยเหลือ ผู้ที่สูญหาย เบื้องต้นพบผู้รอดชีวิต 2 ราย คือ นายซ่อ อายุ 20 ปี ผู้อพยพ อยู่บ้านเลขที่ 51 คุ้มที่ 1 ศูนย์อพยพบ้านในสอย และนาย บูแหละ อายุ 55 ปี ผู้อพยพอยู่บ้านเลขที่ 112 คุ้มที่ 9 ส่วนอีก 1 ราย สูญหายยังไม่ทราบชะตากรรม ทราบชื่อว่านายเต่อ อายุ 55 ปี อยู่คุ้มที่ 9 ต่อมาเวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ได้พบศพผู้เสียชีวิตไม่ไกลจากกระท่อมกลางนาที่พัก จำนวน 1 ศพ คือ นายเด่ อายุ 40 ปี เป็นผู้อพยพอาศัยอยู่คุ้ม ที่ 18

นาย ประจักษ์ พิศไหว ผู้ใหญ่บ้านในสอยเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 24.00 น. เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่เทือกเขาและในหมู่บ้านในสอย จนกระทั่งต่อมา เวลาประมาณ 01.30 น. เกิดน้ำป่าไหลทะลักลงมาในแม่น้ำสอยซึ่งอยู่ติดหมู่บ้าน โดยขณะเกิดเหตุแรงงาน รับจ้างทำนาซึ่งเป็นผู้อพยพทั้ง 4 คน นอนพักในกระท่อมทุ่งนาติดกับแม่น้ำสอย ทำให้น้ำป่าพัดกระท่อมคนงานทั้ง 4 กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง พอรุ่งเช้าจึงพบว่ามี 2 คนที่รอดชีวิตมาได้ เพราะหนีถูกน้ำพัดไปติด ที่ต้นไม้และปีนหนีน้ำขึ้นไปบนต้นไม้เลย รอดชีวิต ส่วนอีก 2 คนถูกน้ำพัดหายไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ จึงพบศพนายเด่ 1 ศพ นอนตายติดกอไม้ใกล้ทุ่งนา ส่วนอีกรายคือนายเต่อ ยังค้นหาไม่พบ



ส่วนที่ จ.ลำปาง เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ เป็นเวลานานถึง 4 ชั่วโมง ทำให้น้ำในลำห้วยแม่วะ เพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจน ไม่สามารถรับน้ำไว้ได้ น้ำจึงล้นทะลักจากลำห้วย ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรอย่างรวด เร็ว โดยมีระดับความสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร ในพื้นที่ ต.แม่วะ อ.เถิน ส่งผล ให้ราษฎรได้รับผลกระทบหลายหมู่บ้าน ประกอบ ด้วย ม.1 บ้านแม่วะลุ่ม, ม.3 บ้านแม่วะน้ำดิบ, ม.4 บ้านแม่วะแล้ง, ม.5 บ้านแม่วะเด่นชัย และม.7 บ้านผดุงราษฎร์รังสรรค์ เบื้องต้นมีราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 500 หลังคาเรือน

ด้านนาย นิทัศน์ ชีนาวุธ ผู้ใหญ่บ้านแม่วะแล้ง ม.4 เผยว่า เกิดฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 04.00 น. จนกระทั่งช่วงเช้าน้ำจากลำห้วยแม่วะแล้ง ซึ่งอยู่บนเขาเหนือหมู่บ้านไหลหลากมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ขนย้ายข้าวของไม่ทัน ซึ่งหมู่บ้านนี้จะได้รับผลกระทบทุกปี เนื่องจาก ตั้งอยู่พื้นที่ต่ำ และไม่ทราบว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร คงทำได้เพียงพยายามเตือนชาวบ้านว่าหากมีฝนตกหนักขอให้เตรียมรับมือ และขนย้ายข้าวของไว้ในที่ปลอดภัย แต่เมื่อเกิดเหตุก็ยังไม่ทันการณ์อยู่ดี เพราะว่าน้ำมาเร็วมาก เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนได้รับความเสียหายแล้วประมาณ 100 หลังคาเรือน

ด้าน จ.บุรีรัมย์ เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมโรงเรียนอนุบาลสตึก (ประชาอนุสรณ์) ในเขตเทศบาลตำบลสตึก อ.สตึก ทำให้อาคารอนุบาลปฐมวัย 4 ห้องเรียน ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร อุปกรณ์และสื่อการเรียน ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ตู้เก็บเอกสาร ที่นอนเด็ก และเอกสารทางวิชาการจมน้ำเสียหาย นอกจากนี้น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมโรงอาหาร ห้องสหกรณ์ และบ้านพักครูอีกจำนวน 5 หลัง สร้างความเดือดร้อนให้ทั้งครูและนักเรียนเป็นอย่างมาก เบื้องต้นนายสมพร บุ้งทอง ผอ. โรงเรียนสั่งปิดการเรียนการสอนนักเรียนชั้นอนุบาลที่ถูกน้ำท่วม 1 วัน

นอก จากนั้นน้ำยังได้ไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้าน ประชาจัดสรร ตั้งอยู่ ม.16 บ.ประชาบูรณะ ถนนสตึก-โนนจำปา ต.สตึก อ.สตึก อย่างรวดเร็วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนราษฎรในหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าวจมน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร และจากน้ำที่ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วทำให้ประชาชนขนย้ายข้าวของไม่ทัน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จมน้ำเสียหาย 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์