‘ไอ้โอ’ประกาศสู้ตาย! แม่เล่าทั้งน้ำตาขอตร.โทรกล่อมมอบตัว สุดท้ายช่วยไม่ทัน

‘ไอ้โอ'ประกาศสู้ตาย! แม่เล่าทั้งน้ำตาขอตร.โทรกล่อมมอบตัว สุดท้ายช่วยไม่ทัน

วันที่ 12 มี.ค จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการวิสามัญฆาตกรรม นายสมศักดิ์ หรือโอ เล็ดลอด ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฆ่า นายชัยประสิทธิ์ บุญเลิศ อายุ 34 ปี พนักงานคลังสินค้า สถานีส่งน้ำสุวรรณภูมิ แล้วนำศพไปฝังดินในพื้นที่ หมู่ 3 ต.คลองบ้านโพธิ์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หลังขับรถติดตามไล่ล่าไอ้โอที่หลบหนีมาบ้านมารดาแล้วใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ขณะถูกล้อมจับ บริเวณสี่แยกไฟแดงลือชัย ในพื้นที่ อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

โดยเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายสมศักดิ์ จะถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมนั้น มารดานายสมศักดิ์ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อที่ขอเกลี่ยกล่อมให้ลูกชายมอบตัว เนื่องจากลูกสาวได้บอกว่า พี่ชายจะไม่ยอมถูกจับเป็นอันขาด จะขอสู้จนตัวตาย ด้วยความรักของคนเป็นแม่ที่ไม่อยากจะสูญเสียลูกชายจึงได้เดินทางมาพบตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้มารดาโทรศัพท์ติดต่อกับนายสมศักดิ์เพื่อให้เข้ามามอบตัว

แต่ปรากฎว่าผู้เป็นแม่ไม่สามารถติดต่อกับลูกชายได้ จนกระทั่งลูกชายถูกตำรวจปิดล้อมแล้วตัดสินใจชักอาวุธปืนเปิดฉากยิงใส่ตำรวจกลางแยกไฟแดง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงตอบโต้เพื่อป้องกันตัวและเพื่อไม่ให้ประชาชนถูกลูกหลง จนกระทั่งนายสมศักดิ์ถูกตำรวจจับตายในที่สุด

ส่วนการติดตามไล่ล่า และจับตายนายสมศักดิ์ในวันนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสมศักดิ์ ได้ขับรถหลบหนีมาที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งใน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี โดยให้ช่างพ่นสีบริเวณด้านท้ายรถและด้านข้างให้เป็นสีดำเพื่อให้สะดวกต่อการหลบหนี อีกทั้งได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนซึ่งเมื่อช่างพ่นสีให้เสร็จ จึงได้ติดต่อให้มารับรถ แต่นายสมศักดิ์ไม่เงินติดตัวมา จึงได้ใช้ปืนข่มขู่ช่าง แล้วขับรถหลบหนีออกมา

จากนั้นปรากฎว่า รถเกิดน้ำมันหมดระหว่างทางจาก อ.เขื่องใน มุ่งหน้าไปยัง อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ทำให้นายสมศักดิ์ใช้ปืนจี้ชิงรถจักรยานยนต์ชาวบ้านใช้หลบหนีต่อ ก่อนทิ้งรถจักรยานยนต์แล้วใช้ปืนจี้ชิงรถกระบะชาวบ้านอีกครั้งเพื่อหลบหนี แต่ขณะขับมาติดไฟแดงได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมไว้จนหนีต่อไปไม่ได้ จึงพยายามจะลงจากรถจี้ชิงรถชาวบ้านอีกครั้ง พร้อมใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางหนี แต่สุดท้ายก็หนีไปต่อไม่ได้อีก ถูกกระสุนปืนตำรวจยิงเสียชีวิตคาที่ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่นำศพส่งชันสูตร ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป