‘สมยศ’ แถลงปมตชด.ฆ่าตัวตาย แจงเหตุมีดปักนามบัตร


จากกรณีหนุ่มตชด.ฆ่าเมียตร.ผูกคอหนีความผิด ริมถนนที่ปากช่อง โคราช แถมใช้มีดปักนามบัตรสมยศไว้กับต้นไม้ข้างศพ ดดยหนุ่มตชด.กับตร.หญิงเป็นสามีภรรยากัน หนุ่มตชด.เคยอยู่ทีมอารักขา พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แต่ต่อมาเงินในกระเป๋าผบ.ตร.หายไปบ่อยๆ จึงเช็กประวัติ-ตรวจปัสสาวะ ก่อนให้ย้ายกลับตชด. แต่ตร.หญิงยังทำงานในสนง.ผบ.ตร. ล่าสุดตร.หญิงมาขอกับจนท.ทำบัญชีโยกย้ายประจำสนง.ว่าจะย้ายไปทางหลวงอุทัยธานี โดยขอหนุ่มตชด.ย้ายไปด้วย ซึ่งผบ.ตร.ไม่ทราบเรื่องนี้ แต่จนท.ทำบัญชีไม่สามารถย้ายหนุ่มตชด.ได้ เหตุยังมีมลทินอยู่ จึงอาจทำให้โกรธแค้น บวกกับเป็นคนอารมณ์ร้อน จึงทำร้ายตร.หญิงเสียชีวิต รวมทั้งเข้าใจผิด-คิดไปเองว่าผบ.ตร.ไม่ยอมให้ย้าย จึงแสดงออกด้วยการใช้มีดปักนามบัตรสมยศไว้นั้น

ล่าสุดเวลา 12.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงข่าวกรณี ส.ต.อ.หญิง ณปภัช นวลเอียด อายุ 29 ปี ผบ.หมู่ฝอ.บก.สอ.บช.ตชด. ปฏิบัติหน้าที่สำนักงาน ผบ.ตร. ซึ่งถูก ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ นวลเอียด อายุ 31 ปี สามี สังหารเสียชีวิตคาห้องพักภายในแฟลตตำรวจ ย่านทุ่งสองห้อง โดย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเชื่อว่าคงมีคำถามตามมามากมาย เพื่อให้เป็นที่กระจ่าง ตนจึงออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตนเอง สำหรับ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ถูกส่งตัวมาทำหน้าที่ชุดติดตามตนเอง ขณะดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร. ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ประมาณ 6 เดือน ก็ถูกส่งตัวกลับต้นสังกัด เนื่องจาก ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่มีวินัย และมีอารมณ์รุนแรง

ทีมนายตำรวจติดตามมองว่าหากให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตน วันที่ส่งตัวกลับ ตนก็ได้เรียกตัว ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ มาพูดคุย ได้สอบถามว่า โกรธหรือไม่ที่นายส่งตัวกลับ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่โกรธ เข้าใจดี รู้ตัวว่าเป็นความผิดของเขาที่ทำตัวไม่ดี ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ได้ขอให้ตนช่วยย้ายบิดาจาก ตชด.มาสังกัดบกภ.จว.สมุทรสงคราม ตนก็ดำเนินการให้ จากนั้นก็มาขอให้ตนช่วยย้ายภรรยา คือ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช จาก ตชด.ให้มาช่วยราชการที่สำนักงาน ตนก็ดำเนินการให้อีก เพราะมองว่าสามีภรรยาหากได้อยู่ด้วยกันก็เป็นเรื่องที่ดี ประหยัดค่าใช้จ่าย โดยให้นายเวรเป็นผู้ดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้ลงไปดูแลหรือสุงสิงกับผู้ใต้บังคับบัญชาภายในสำนักงานมากนัก เนื่องจากมีภารกิจมากมาย จึงให้นายเวรเป็นผู้ดำเนินการเรื่องต่างๆ ภายในสำนักงานทั้งหมด 



พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากนายตำรวจติดตามว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา ก็รู้สึกตกใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่หลังจากได้รับทราบตนเอง และคนใกล้ชิด รู้ทันทีเลยว่าจะต้องเป็นการกระทำของ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ อย่างแน่นอน และเป็นห่วงว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับตัวเอง เพราะทุกคนในสำนักงานต่างรู้นิสัยเขาดี เพราะเขาเป็นคนขี้โมโห อารมณ์รุนแรงและบ้าระห่ำ ที่สำคัญชอบคิดไปเอง เพ้อฝันไปเอง หลังทราบเรื่องตนก็ได้สอบถามหาสาเหตุจากนายเวร และตำรวจภายในสำนักงาน ก็ได้รับแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่ผ่านมา ส.ต.อ.หญิง ณปภัช ได้มาแจ้งกับทีมงานว่าประสงค์จะขอย้ายไป ตำรวจทางหลวง จ.อุทัยธานี และขอให้ช่วยย้าย ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ด้วย หลังเกิดเรื่องทุกคนก็คิดเหมือนกันว่าสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากกรณีที่หลังจากมีการรวบรวมรายชื่อปรากฏว่ามีรายชื่อ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช แต่ไม่มีรายชื่อ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ หรือไม่พอใจตน และอาจจะคิดว่า ส.ต.อ.หญิง ณปภัช ไม่ให้การช่วยเหลือ

"ผมอยากทำความเข้าใจว่าการโยกย้ายยังไม่เกิดขึ้น เพียงแต่ตำรวจหน้าห้องหวังดีกับตำรวจที่มาช่วยราชการในสำนักงานว่า เมื่อผมเกษียณอายุราชการก็จะสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่เขาต้องการ เป็นเพียงการสอบถามเฉยๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีการพิจารณา และยังไม่ได้มีการส่งเรื่องให้ผมพิจารณา ผมเองไม่เคยรับรู้รับทราบ เป็นการเตรียมการกันเองของนายเวรและตำรวจภายในสำนักงาน ผมไม่เคยบอกให้เข้าเตรียมการ ซึ่งรายชื่อตรงนี้เป็นรายชื่อที่ตำรวจภายในสำนักงานมีการเตรียมกันไม่เกี่ยวกับผมเลย เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิด เป็นเรื่องที่ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ไปคิดเองว่าจะมีการโยกย้าย ส.ต.อ.หญิง ณปภัช ได้ย้าย แต่ตัวเองไม่ได้ย้าย อีกอย่างอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายระดับชั้นประทวนเป็นของผบช. ไม่ใช่อำนาจผม แต่ถ้าอยากจะสนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาก็ทำหนังสือไปยังผบช.แต่ละหน่วย ให้ช่วยสนับสนุน ถ้าเขาให้ก็ได้ ถ้าเขาไม่ให้ก็ได้

แต่จากสอบถามคนใกล้ชิด เหมือนว่า ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ กดดันให้ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช มาขอร้องหรือมาขอความช่วยเหลือกับผู้บังคับบัญชาให้ช่วยย้ายเขาด้วย แต่อย่างที่บอกยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น เขาคิดไปเอง จิตเขาวิตกไปเอง จึงก่อเหตุเศร้าสลดขึ้น ผมไม่ทราบว่าเขาคิดอะไร" ผบ.ตร. กล่าวและว่า หากเขาเดินมาหาผม ผมอาจจะช่วยเหลือเขาให้ได้ย้าย เพราะเขาเป็นสามีภรรยา เขาควรได้อยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ทราบจากคนใกล้ชิดว่าเขาเป็นคนใจร้อนขี้โมโห มักทุบตีทำร้าย ส.ต.อ.หญิง ณปภัช อยู่เป็นประจำ นี่เป็นอีกเหตุผลที่ตนต้องให้เขากลับไป เพราะหากมาทะเลาะเบาะแว้งในสำนักงานเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองคนต้องมาจบชีวิตเพราะความเข้าใจผิด เพราะความน้อยเนื้อต่ำใจ ส่วนที่มีการใช้มีดปักนามบัตรของตนกับต้นไม้ จนทำให้สังคมคิดไปได้ต่างๆ นานา แต่ตนยืนยันว่ามันเป็นอย่างนี้จริงๆ ตนไม่รู้สึกโกรธ เพราะเป็นผู้ใหญ่แต่มองว่าเป็นการทิ้งประเด็นความสงสัยให้กับสังคมว่าตนไปกลั่นแกล้งรังแก หรือไปขัดขวางอะไรเขา ซึ่งยืนยันว่าไม่มี การแต่งตั้งโยกย้ายยังไม่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ตนก็ไม่มีอำนาจ เป็นอำนาจของ ผบช. ตนทำได้เพียงแนะนำผู้ใต้บังคับบัญชาให้พิจารณาเท่านั้น แต่นี่มันยังไม่ถึงเวลา จะมาโทษตนไม่ได้ อีกอย่างด้วยอุปนิสัยของ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ เป็นคนมีปัญหา จะให้ไปทำงานสัมผัสกับประชาชน โยนปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างไร เขาอาจจะโกรธ อาจจะน้อยใจ คิดว่าผมจะขัดขวางไม่ให้เขาได้ย้าย เป็นการคิดไปเอง ทั้งนั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ฝ่ายชายอาจจะเข้าใจผิดว่าฝ่ายหญิงมีความสนิทสนมกับ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้มีความสนิทสนมส่วนตัวกับ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช เพียงรู้ว่าเป็นตำรวจที่มาช่วยราชการที่สำนักงาน ที่ผ่านมาไม่เคยคุยกับ ส.ต.อ.หญิง ณปภัช เห็นเป็นคนเงียบๆ ทำหน้าที่ยกน้ำยกอาหาร เวลาแขกไปใครมาเท่านั้น ชื่อจริงตนก็เพิ่งรู้ตอนที่เป็นข่าวแล้ว อีกอย่างผู้ใต้บังคับบัญชาหากไม่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องงาน ไม่มีทางได้พูดคุยกับตน เพราะตนภารกิจมากไม่มีเวลาคุย แต่ถ้ามีเรื่องชู้สาวก็ไม่เกี่ยวกับตน ซึ่งตนยืนยันว่าสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากเขาโกรธว่าตนไปขัดขวางไม่ให้เขาได้โยกย้ายมากกว่า

"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าขำ แต่คนก็มีสิทธิที่จะคิดแบบนั้นได้ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หญิงจะเข้าห้องทำงานส่วนตัวของผมคนเดียวไม่ได้ ตำรวจหญิงไม่มีสิทธิอยู่ในห้องทำงานกับผมสองต่อสอง ผมถือเรื่องนี้มาโดยตลอด อีกอย่างตำรวจหญิงที่มาช่วยราชการที่สำนักงานจะต้องแต่งงานแล้ว หรือมีคู่สมรสแล้วเท่านั้น เรื่องนี้จะเอาผมไปสาบานที่วัดพระแก้วก็ได้ ยืนยันไม่เคยคิดกับลูกน้องในทางชู้สาว ไม่เคยเอานิสัยสมภารกินไก่วัดมาใช้กับลูกน้อง ผมยืนยันไม่มีเด็ดขาด เรื่องที่จะมาเกี่ยวข้องกับผม ขอให้ตัดประเด็นไปได้เลย ผมไม่มีสันดานที่จะไปยุ่งหรือเกาะแกะกับผู้ใต้บังคับบัญชา"ผบ.ตร. กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการสั่งปิดข่าว ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนขอยืนยันไม่ได้เป็นคนสั่งปิดข่าว ตนขอปฏิเสธเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง เพราะตนรู้เรื่องนี้เกือบ 20.00 น. วันที่ 24 เม.ย. หลังประชุมผู้บริหาร ตร. เกี่ยวกับประเด็นปฏิรูปตำรวจและการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นก็มีประชุมเรื่องประกวดพระต่อ หลังเลิกประชุมนายตำรวจติดตามได้มาแจ้งให้ทราบ ตนจะเอาเวลาที่ไหนไปสั่งให้ปิดข่าว แต่คาดว่าเป็นความหวังดีของผู้ใต้บังคับบัญชาทำไปเอง ด้วยความประสงค์ดี แต่ยืนยันว่าไม่มีการสั่งให้ปิดข่าวอย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากญาติติดใจสงสัยสาเหตุการเสียชีวิต พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หากทางญาติติดใจการเสียชีวิตก็ได้ ยินดีให้มีการตรวจสอบ เพราะญาติของผู้เสียชีวิตจะรู้นิสัยใจคอของเขาดีว่าเป็นอย่างไร ที่สำคัญรู้ถึงความเป็นอยู่ของทั้ง 2 คน เป็นอย่างดี ทั้งนี้ตนคงไม่ได้กำชับอะไรคดีเป็นพิเศษ ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการปกติ ส่วนกรณีที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ยินดีที่จะผ่าชันสูตรศพผู้เสียชีวิตหากญาติร้องขอ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดี และเป็นเรื่องที่ต้องทำเพื่อความกระจ่าง หากญาติติดใจสงสัยก็ควรที่จะดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องเก็บศพที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เม.ย. นางจินตนา นวลเอียด อายุ 55 ปี ผู้เป็นมารดา ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ผูกคอตายบริเวณเริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง พร้อมญาติพี่น้อง ได้นำหลักฐานมายืนยัน เพื่อติดต่อขอรับศพ ส.ต.อ.ณัตฐพงศ์ ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่วัดป้อมแก้ว ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด ญาติๆ ที่ร่วมเดินทางมา 5 คน ได้นำเครื่องแบบตำรวจมาให้เจ้าหน้าที่นิติเวช สวมให้เป็นเกียรติ และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์