ไม่ให้ประกันแรมบ้า ข่มขืนถ่ายคลิปป.โท

ความคืบหน้ากรณีตำรวจ บก.ปดส. จับกุมนายสุรชัย วิวัฒนชาติ หรือเอ็ม แรมบ้า ร่วมกับนางธนวรรณ คล้ายแพร ภรรยา

ก่อเหตุลวงนักศึกษาสาวปริญญาโทไปมอมยาขืนใจ แล้วถ่ายคลิปวีดิโออุบาทว์เก็บไว้แบล็กเมล์ ต่อมาเมื่อเวลา 13.00  น.  วันที่  30  ม.ค.  ที่ บก.ปดส.  พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. พ.ต.ท.คณธัช มุสิกานนท์ รอง ผกก.1 บก.ปดส. สั่งการให้พนักงานสอบสวนเบิกตัวนาย สุรชัย วิวัฒนชาติ อายุ 33 ปี หรือ “เอ็ม แรมบ้า” และ นางธนวรรณ คล้ายแพร อายุ 42 ปี ภรรยา ออกจากห้อง ควบคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติม  และให้ผู้เสียหายชี้ตัวตามขั้นตอนกฎหมาย 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เดินออกมาจากห้อง ควบคุม นายสุรชัยยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มทักทายสื่อมวลชนที่มาดักรอบันทึกภาพ

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายสุรชัยและนางธนวรรณไปยังห้องสอบสวนเพื่อรอทำการชี้ตัว แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธที่จะให้ ผู้เสียหายชี้ตัว โดยอ้างว่ารู้จักกันอยู่แล้ว พนักงานสอบสวน จึงทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำตัวไปผัดฟ้องฝากขัง ครั้งแรกที่ศาลอาญา


นายสุรชัยกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างรอส่งตัวไปผัดฟ้องฝากขังว่า ตนยังรักน้องเขาอยู่ จะให้ทำอย่างไรดี จะโกรธจะเกลียดอย่างไรก็ขอให้มาลงที่ตน

เพราะแฟนตน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร และก็รักทั้งสองคน แต่คงทำตามที่ น้องเขาเคยขอทั้ง 3 ข้อ ไม่ได้ ถ้าจะให้แต่งงานคงต้อง แต่งงานกับนางธนวรรณ เพราะผูกพันมา 8 ปีแล้ว ดูแล กันมาตลอด สำหรับน้องคนนี้เคยพาไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน  ก็ถือว่าเป็นแฟนอีกคน  ยังเคยพาไปฝากครรภ์ จะเรียกว่าเป็นสามีก็ได้ เพียงแต่ยังไม่ได้จดทะเบียน จะว่าไปก็เป็นเรื่องในครอบครัว ซึ่งไม่น่าจะออกมาแบบนี้ จริงๆ แล้วคุยกันดีๆก็ได้


ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องคลิปวีดิโอ  นายสุรชัยตอบว่า ก็ได้รับเหมือนกัน อยากจะถามน้องเขาว่าเก็บไว้คนเดียว หรือเปล่า 

เพราะออกมาแบบนี้ตนและแฟนก็เสียหาย เหมือนกัน คือเราอยู่กันเป็นแฟนกัน บางทีก็มีถ่ายไว้สนุกสนาน แต่เมื่อหลุดไปก็ต้องช่วยกันดู อย่ามาโทษกันเอง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ใครเป็นผู้ถ่าย นายสุรชัยกล่าวว่า ผลัดกัน เขา เป็นคนถ่ายบ้าง ตนถ่ายบ้าง เมื่อถามว่า พาผู้เสียหายไป ฝากครรภ์ที่ไหน นายสุรชัยกล่าวเพียงว่า เคยไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลวิภาวดี แต่แท้งลูกที่โรงพยาบาลรามฯ 2 


ด้าน  พ.ต.อ.ณพวัฒน์กล่าวว่า  สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ  ขอให้การชั้นศาล

ส่วนการควบคุมตัวนั้นผู้ต้องหาได้ติดต่อขอยื่นประกันตัว ในชั้นพนักงานสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์ 5 ล้านบาท แต่ทาง พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ไม่อนุญาตเนื่องจากเห็นว่า  หากได้รับการประกันตัวผู้ต้องหาอาจ จะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน  และข่มขู่ผู้เสียหาย ในส่วนของหลักฐานที่ตรวจยึดมาได้ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์ คอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหา แผ่นซีดี ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เข้า ร่วมตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ มีเพียง 2 ราย ส่วนผู้เสียหายขณะนี้ก็ยังคงมีอาการหวาดกลัว อยู่ตลอดเวลา  และยังอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปดส. แล้วก่อนหน้านี้ผู้เสียหายยังได้เข้าร้องทุกข์ขอความคุ้มครองจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม

เพื่อขอความคุ้มครองหลังจากถูกผู้ต้องหาข่มขู่คุกคามจนเกิดความหวาดผวา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.อ.นำชัย ยกย่องกุล พนักงานสอบสวนกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (บก. ปดส.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมตัวนายสุรชัย และนางธนวรรณ คล้ายแพร ผู้ต้องหาคดีข่มขืนถ่ายคลิป สาวปริญญาโท ไปฝากขังต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ วันที่ 30 ม.ค. ถึง 10 ก.พ. 52 เนื่องจากต้องรอสอบปากคำพยานอีก 6 ปาก รอผลตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 


คำร้องบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ถึง 20 ส.ค. 51 นายสุรชัยและนางธนวรรณได้ ร่วมกันข่มขืนใจ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และข่มขืนกระทำชำเรานางสาวเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย

บริเวณห้องนอนชั้น 2 ของห้างหุ้นส่วนจำกัด อินเตอร์เนชั่นแนลดีเทคทีฟ (ไทยแลนด์) ที่เกิดเหตุ ซึ่งนายสุรชัย ใช้เป็นที่พักและสถานที่ทำงานหลายครั้งด้วยกัน โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้เสียหาย และในขณะข่มขืนผู้เสียหายนั้น นายสุรชัยได้บันทึกภาพไว้ในกล้องวีดิโอคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์เพื่อใช้บังคับข่มขู่ผู้เสียหาย จึงถูกนายสุรชัยกระทำชำเรามาโดยตลอด ภายหลังผู้เสียหายหลบหนีมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ นายสุรชัยยังได้ส่งภาพขณะร่วมเพศกับนางธนวรรณและผู้เสียหาย ไปยังมารดาและเพื่อนของผู้เสียหายให้ได้รับความอับอาย การกระทำของผู้ต้องหาทั้งสอง เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 276, 309, 310, 326 และ 328 โดยในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 


ท้ายคำร้องระบุด้วยว่า ผู้ต้องหาประกอบอาชีพ รับจ้างสืบสวนสะกดรอยติดตามบุคคล มีอาวุธปืนในครอบครองหลายกระบอก

หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว อาจไปข่มขู่ หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ประกอบกับผู้เสียหายหวาดกลัวผู้ต้องหา จึงขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดบ้านพร้อมที่ดิน ในย่านซอยอารีย์มูลค่า 5 ล้านบาทเศษ ขอประกันตัว
ต่อมาศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ความหนักเบาแห่งข้อหา ประกอบกับคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนแล้ว เชื่อว่าจำเลยจะเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานข่มขู่พยาน จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว ให้เจ้าหน้าที่ ราชทัณฑ์นำตัวนายสุรชัยไปขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่วนนางธนวรรณ นำไปควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรชัย หรือเอ็ม วิวัฒนชาติ ระหว่างถูกคุมขังในเรือนจำกลางคลองเปรม

ในคดีใช้กำลังทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา  อ้วน-อารีวรรณ จตุทอง อดีตรองนางสาวไทย เป็นเวลา 6 ปีนั้น ได้ปฏิบัติตัวอยู่ในระเบียบ จนได้เลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดี มีหน้าที่นำนักโทษป่วยไปรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลกลางราชทัณฑ์ กระทั่งมีความสนิทสนมรักใคร่ชอบพอกับนางธนวรรณ พยาบาลประจำทัณฑสถาน รพ.กลางราชทัณฑ์ กระทั่งนายเอ็มพ้นโทษ เมื่อปี 2548 ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยา จนมาเกิดเรื่องดังกล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์