ไฟไหม้โรงพักชนะสงคราม! อพยพผู้ต้องขังวุ่น

เหตุไฟไหม้โรงพักกลางกรุงรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ขณะที่ ร.ต.ท. นิกร ทองสุข พงส. (สบ.1) กทม. กำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่บน สน.ชนะสงคราม

ถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำพู เขตพระนคร ได้รับแจ้งจาก จ.ส.ต.ธีระพงษ์ ลาภจิตร สิบเวรควบคุมผู้ต้องหาว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่ห้องเก็บพัสดุอุปกรณ์ติดกับห้องควบคุมผู้ต้องหา และห้องวิทยุบนชั้น 2 ของโรงพัก  จึงรายงานให้ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.1 ทราบ และประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำรถดับเพลิง 6 คัน มาฉีดน้ำดับเพลิง ที่ห้องเก็บพัสดุติดกับห้องควบคุมผู้ต้องหาพบแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้  จากการตรวจสอบภายในห้องเก็บวัสดุที่เก็บเสื้อผ้า หมวก กระบอง โล่ที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนหรือปราบจลาจล และเอกสาร ได้รับความเสียหายเล็กน้อย


จากการสอบสวน ร.ต.ท.นิกร ให้การว่า ขณะที่ตนกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่ชั้นล่างของโรงพัก ได้กลิ่นเหม็นไหม้โชยมา

เป็นเวลาเดียวกันกับ จ.ส.ต.ธีระพงษ์ สิบเวรควบคุมห้องขัง วิ่งลงมาแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ห้องเก็บพัสดุ ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรอยู่นำถังดับเพลิงขึ้นไปเพื่อจะดับเพลิง แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมา จึงสั่งให้สิบเวรไขห้องขังนำตัว น.ส.ศุภสุตา ดวงทวี อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ และนายบุญเนย ศาลาบัว ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ไปควบคุมตัวไว้ในที่ปลอดภัย ก่อนประสานรถดับเพลิงมาดับไฟ



ส่วน น.ส.ศุภสุตา ผู้ต้องหาที่รอดตายจากถูกย่างสด เปิดเผยว่า

ตนถูกจับมาตั้งแต่เมื่อตอนเย็นวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา พอตอนค่ำขณะอยู่ในห้องขังได้ยินเสียงกระแสไฟฟ้าช๊อต จึงพยายามบอกให้สิบเวรทราบ แต่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงไฟฟ้าช๊อตอย่างรุนแรงอีกครั้งพร้อมกับมีกลิ่นเหม็นไหม้และกลุ่มควันพวยพุ่งออกมา จึงตะโกนบอกสิบเวรทราบมาไขนำตนกับผู้ต้องหาชายอีกคนออกไป


ด้าน พล.ต.ต.อำนวย ผบก.น.1 เปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เกิดขึ้นที่ห้องเก็บพัสดุที่ใช้เก็บอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล

เช่น โล่ หมวก เสื้อผ้า แผ่นพับประชาสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานให้มาตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ห้องที่เกิดเหตุเต็มไปด้วยพัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับ สน. แห่งนี้สร้างมานานแล้วทำให้อุปกรณ์อาจจะมีการชำรุดทรุดโทรมไปบ้าง ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาตรวจสอบ 2 ประเด็น คือ สอบสวนเกี่ยวกับเรื่องความเสียหายของทรัพย์สิน และในส่วนของคดีแพ่งต้องสอบสวนดูว่า เกิดจากความประมาทเลินเล่อหรือไม่เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาชดใช้ หากเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัยก็จะต้องแก้ไขอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในสภาพดีต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์